The devil and the blacksmith อ ม า บราแคเล ย

สุดยอดภาพยนตร์ The Most Anticipated ประจำปี 2015 ที่คนทั้งโลกรอคอย การกลับมาของเจ เจ เอแบรมส์ผู้กำกับ Star Trek ที่โยกจักรวาลมาจับงานสงครามตะลุยอวกาศต่อยอดจากแฟรนไชส์ชุดเดิม โดยมีแคแรกเตอร์คุ้นเคยของ แฮริสัน ฟอร์ด, มาร์ค ฮามิลล์และ แครี่ ฟิชเชอร์กลับมาร่วมแจม พร้อมโฟกัสไปที่ตัวละครเจนเนอเรชั่นใหม่กับอุบัติสงครามครั้งใหม่ใหญ่กว่าเดิม โดห์นัล กลีสัน, ออสการ์ ไอแซคส์, อดัม ไดร์ฟเวอร์, แอนดี้ เซอร์กิส, เกวนโดลีน คริสตี้, ลูปิต้า เอนหยองโกร่วมแสดง ด้วยเนื้องานของเอแบรมส์แล้ว ถือว่าเปิดช่องให้แฟนๆคาดหวังกันแน่นอน แต่จะออกมากระหึ่มอลังการแค่ไหน ปลายปีนี้ได้รู้กัน

It is easy to imagine supernatural stories in lonely, desolate or eery places in the landscape. Local man Jack Cockburn describes a scary tale his grandmother had told him, which she had been told by her mother, who ‘knew all these stories of the hills’ about a place now known as the ‘Foul Ford’. Walking back from a funeral in Kelso, a blacksmith from Longformacus, of family name Neal, took a short cut across Greenlaw Moor. He had been at the funeral of a local dignitary and as Cockburn elaborates ‘probably had one dram after another and set off for home’. The blacksmith took a short cut and didn’t get home until the wee small hours. The next day he asked to see the minister and confided his terror of seeing the devil, riding on a black funeral hearse and chasing him, threatening ‘first time you or any of your family come this way, I will have you’. The blacksmith asked the minister to warn all members of Neal family never use the short cut from Greenlaw to Longformacus or ‘they would rue the day’.

Years later, the blacksmith’s son came back late from Greenlaw on a summer night but ‘young Neal never came home at all’. His body was found, all bruised and scratched with what appeared to be ‘deep claw marks on his face and all over him’. His death was shrouded in mystery.

Listen to his story here: http://tobarandualchais.co.uk/en/fullrecord/25084

Cockburn, John W, School of Scottish Studies Archive SA1966.019, Tobar an Dualchais/Kist o Riches, http://tobarandualchais.co.uk/en/fullrecord/25084, accessed 7 March 2020

1 สาย จริงๆ ก็แม่น้ำสายเดิมนั่นละ แต่จะเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ๆ ในภาษาอิตาเลียนเรียกแม่น้ำตรงนี้ว่า เฟลเจตอนเต

วงที่ 7 เป็นที่สำหรับผู้ใช้ความรุนแรง วงนี้แบ่งออกเป็น 3 ขุมย่อย

ขุมแรก คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และปล้นสะดมทรัพย์สิน อันถือเป็นการทำรุนแรงต่อผู้อื่น วิญญาณเหล่า

นี้โดยรวมยืนแช่อยู่ในแม่น้ำเลือดเดือด ลำดับความสูงของน้ำก็ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของบาป ใครพยายามจะ

ตะเกียกตะกายหนีขึ้นฝั่งก็จะถูกสัตว์นรกเอาอาวุธปลายแหลมทิ่มแทงโอดโอย

จากนั้นเป็นวงที่ 8 ซึ่งเป็นเหวลึกลงไป แล้วยังแบ่งแยกย่อยไปอีก นรกวงนี้เป็นที่ของการผู้หลอกลวง แบ่ง

ออกได้เป็น 10 ขุมย่อยทีเดียว เข้าใจว่าฟลอเรนซ์ยุคนั้นคงโกงกันไม่เบา

ขุมที่ 6 ผู้ที่ตลบตะแลง หน้าไหว้หลังหลอก ปากว่าตาขยิบ ทั้งนรก วิญญาณกลุ่มนี้ดูจะแต่งตัวดีสุด เพราะ

ถ้ามองแต่ไกลแล้วจะเห็นว่าสวมเสื้อคลุมสีทอง ที่ผิดสังเกตคือ การเดินจะเชื่องช้ามากราวกับแบกอะไรเอาไว้ถูกต้อง

ถึงข้างนอกจะเป็นทอง แต่ข้างในเป็นตะกั่วหนักมาก

ขุมที่ 7 ขโมย ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยงู งูก็

จะฉก แล้วก็จะกลายเป็นเถ้า เป็นมนุษย์ เป็นงู แล้วก็คืน

ร่างมาอีก วนไปเรื่อย ๆ

ขุมที่ 8 ให้คำแนะนำที่เลวร้าย โทษของขุมนี้

คือ ใช้ชีวิตอยู่ในเปลวไฟ รู้จักเรื่องม้าเมืองทรอยไหม โอดิ

สเซียสผู้คิดแผนการสร้างม้าไม้เมืองทรอยก็อยู่ในขุมนี้เช่น

กัน

ขุมที่ 9 สำหรับผู้เพาะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่ง

ความร้าวฉาน พวกนี้ถูกฟันด้วยดาบ แล้วพอแผลเริ่มจะ

สมานกันดีผู้คุมในนรกก็จะจับแหกออกอีก

ขุมที่ 10 สำหรับผู้ทำของปลอม วิญญาณพวก

นี้มีอาการเหมือนคนเป็นโรคเรื้อน ท้องมาน และหนาวสั่น

ด้วยพิษไข้ตลอดเวลา

CODEX 13

และวงสุดท้ายคือวงที่ 9 เรียกกันว่า ‘บ่อแห่งยักษ์’ นี้ เป็นบ่อน้ำแข็งใหญ่สำหรับผู้ที่ทรยศหักหลังผู้ที่ให้ความไว้

เนื้อเชื่อใจ แบ่งย่อยไปได้อีก 4 ขุม

ขุมแรก ผู้เนรคุณญาติพี่น้อง

ขุมที่ 2 ผู้ทรยศหักทางทางการเมือง หรือพวกคนขายชาติขายพวกพ้อง

ขุมที่ 3 ผู้ทรยศหักหลังอาคันตุกะและเพื่อนฝูง

ขุมที่ 4 ผู้ทรยศต่อผู้สร้างคุณงามความดี

ทั้งหมดมีร่างอยู่ในบ่อน้ำแข็ง ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้

ขุมสุดท้าย ลูซิเฟอร์

CODEX 15

มหานรกไทย

ไตรภูมิกภาหรือไตรภูมิพระร่วงเป็นวรรณกรรมสุโขทัย เป็นพระราชนิพนธ์ของพระมหาธรรม

ราชาลิไท แต่งขึ้นในปีพ.ศ. 1888 ในขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งเป็นพระมหาอุปราช

- เป็นวรรณคดีในพุทธศาสนาเรื่องแรกที่แต่งขึ้นในประเทศไทย มีลักษณะเป็น

วิทยานิพนธ์

- เขียนโดยการค้นคว้ารวบรวมคัมภีร์ในพระพุทธศาสนากว่า30 เล่ม

- ตีพิมพ์ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2457 โดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

คุณค่าต่อสังคมสุโขทัยและประเทศไทยในยุคต่อมา

คุณค่าในแง่ศาสนา เป็นหนังสือที่ใช้เป็นเครื่องมือในการความคุมพฤติกรรมมนุษย์ ให้

ประชาชนประกอบคุณงานความดี โดยใช้วิธีเปรียบเทียบเรื่องนรก สวรรค์และให้รู้จัก

พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

คุณค่าในทางปรัชญา ให้คุณธรรมของผู้ปกครอง โทษต่างๆ ของผู้ไร้ศีลธรรม ส่งเสริม

จริยธรรม กล่าวถึงภูมิจักรวาล ตายไปแล้วจะไปอยู่ที่ใด ปัจจุบันความคิดเรื่องทำความดี

ไปสวรรค์ทำความชั่วไปนรกได้ฝังรากลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของคนไทยทุกคน

คุณค่าทางศิลปกรรม เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินนำเรื่องราวไปเขียนเป็นภาพจิตกรรมฝา

ผนังพระอุโบสถ วิหาร ด้านหลังองค์ประประทานตามวัดสำคัญต่างๆ เช่นอุโบสถวัดสุทัศน์

เทพวราราม

คุณค่าในวรรณกรรม โดดเด่นในศิลปะการประพันธ์ ให้อิทธิพลต่อวรรณคดีในสมัยต่อมาเช่น

ลิลิตโองการแช่งน้ำ บุณโณวาทคำฉันท์ขุนช้างขุนแผน นิราศนรินทร์วรรณกรรมเหล่านี้ได้

รับแนวคิดจากไตรภูมิพระร่วงเช่น เรื่องนรก สวรรค์อเวจีเปรต อสูรกาย ครุฑ นาค ป่า

หิมพานต์ภูเขาสัตตบริภัณฑ์อีกทั้งยังสร้างความเพลินเพลินเริงรมณ์แก่ผู้อ่าน เพราะให้ภาพ

เกี่ยวกับภพภูมิต่าง ๆ ชัดเจน

คุณค่าต่อรากฐานอุดมการณ์การเมืองไทย ในด้านการปกครอง การสร้างเสริมพระราช

อำนาจของกษัตริย์ เน้นความเป็นผู้นำที่เป็น “ธรรมราชา” มากกว่า “กษัตริย์นักรบ” ซึ่ง

กษัตริย์ยึดถือแนวทางนี้มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

16 CODEX

อ้างอิงตามจักรวาลแบบไตรภูมิ ที่มีภูเขาพระสุเมรอยู่ตรงกลาง รอบๆ สี่ทิศมีทวีป 4 ทวีปตั้งอยู่สี่ทิศ

ของเราชมพูทวีปอยู่ทิศใต้ ซึ่งในคัมภีร์บอกว่านรกอยู่ใต้แผ่นดินของเรา

จริงๆ นรกมีสองโลเคชั่นหลักๆ คืออยู่ลึกลงไปใต้ดิน นรกหลักมีแปดชั้น หน้าตาเหมือนกล่องสี่เหลี่ยม

จัตุรัส มีประตูเข้าสี่ทิศพร้อมฝาปิด นรกแปดชั้นนี้จะอยู่ซ้อนกัน เริ่มจาก สัญชีพนรก อยู่บนสุด ไล่ลงไปที่มหาอวิจิน

รกที่อยู่ล่างสุด ทีนี้ที่แปลกคือคัมภีร์ทางพุทธของเราจะไม่อธิบายนรกใหญ่อันนี้ แต่จะไปพูดถึงนรกบริวาร 16 ขุมที่อยู่

รอบๆ นรกใหญ่

นรกใหญ่แต่ละชั้นจะมีนรกบริวารของตัวเอง (และมีย่อยลงไปอีกนับไม่ถ้วนเพื่อรองรับความต้องการของ

คนบาป) ในตำ ราอธิบายนรกบริวาร 16 ขุมของนรกชั้นบนสุดคือสัญชีพนรก ทำ นองว่านี่เบาสุดและนะ ก็ย่ำ แย่มากๆ

นอกจากนรก 8 ขุมใหญ่บวกนรกยิบย่อยที่อยู่ใต้ดินแล้ว เรายังมีโลกันตนรกที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แต่จริงๆ โลกันต์ถือ

เป็นนรกพิเศษ คืออยู่นอกจักรวาล เป็นนรกเย็น ไม่ร้อน พวกใต้ดินคือร้อน ตามคำ อธิบายคือพื้น ผนังเป็นเหล็กแดง

กล่าวโดยสรุปคือนรกแบบพุทธทางเถรวาทของเราใช้วิธีเล่าอ้อมๆ คือพูดถึงนรกเลเวลน้อยๆ โทษไม่หนัก

แต่ก็หนักมาก แถมเน้นย้ำ ว่ามีพื้นที่เพียงพอสำ หรับทุกคน เป็นที่น่าสังเกตว่านรกหลักทั้ง 8 ชั้นนั้นจะมีอธิบายใน

คัมภีร์มหายานมากกว่าทางของบ้านเรา

CODEX 17

ด้วยว่าพื้นที่ของนรกเป็นพื้นที่ที่สำ คัญในมิติทางวัฒนธรรมและความเชื่ออย่างยิ่งยวด นรกของไทยเองที่มี

รากฐานมาจากความเชื่อแบบพุทธก็เลยดูจะเป็นพื้นที่ๆ เราน่าเข้าไปสำ รวจ ไปทัวร์เผื่อว่าใครที่อยากจะรู้ว่าเรานี่จะ

ได้ไปพบเพื่อนที่ไหน หรือเตรียมตัวเตรียมใจไปอย่างไรดีนะ ก็อาจจะอ่านเตรียมพร้อมไปได้ก่อน

นรกอเวจี หรือมหาอเวจีนรกถือเป็นนรกที่ฮ็อตฮิตใครๆ ก็กล่าวถึง อเวจีถือเป็นนรกใหญ่ขุมสุดท้ายลำ ดับที่ 8

คืออยู่ในลำ ดับลึกที่สุด ความเจ็บปวดทรมานของนรกใหญ่ลำ ดับสุดท้ายด้านหนึ่งในไตรภูมิค่อนข้างใช้เป็นความเปรียบ

คืออธิบายนรกรอบๆ นรกใหญ่ชั้นที่1หรือชั้นบนสุดให้ฟัง แล้วบอกว่าชั้นอื่นๆ แย่กว่านี้เยอะมาก พอมาถึง

อเวจี โดยภาพรวมไม่มีคำ อธิบายมากในแง่ลักษณะการทรมาน แต่จะพูดถึงการถูกไฟนรกเผา สำ หรับคนที่ทำ บาปหนัง 5

ประการที่เรียกว่าอานันตริยกรรม คือมาตุฆาต (ฆ่าแม่) ปิตุฆาต (ฆ่าพ่อ) อรหันตฆาต (ฆ่าพระอรหันต์) โลหิตุปบาท

(ทำ ให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด) และสังฆเภท (ทำ สงฆ์ให้แตกแยก)

18 CODEX

ภาพยนตร์“ร่างทรง” นับเป็นอีกปรากฏการณ์ของ

วงการภาพยนตร์ไทยที่ได้ร่วมงานกันระหว่าง ไทย-เกาหลีใต้

จากผลงานการกำกับของ “โต้ง” บรรจง ปิสัญธนะกูล อดีตผู้

กำกับผลงานชื่อดังอาทิ ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ,พี่มากพระโขนง

และ นา ฮง-จิน โปรดิวเซอร์ชื่อดังจากเกาหลีใต้ที่เคยกำกับ

ภาพยนตร์The Wailing (2016)

ภาพยนตร์“ร่างทรง” เป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนของ

“เรื่องเล่า” ภาพสะท้อน “ภาพความเชื่อ” ท้องถิ่นที่ถูกถ่ายทอด

ผ่านงานศิลปะที่มีชั้นเชิง มุมมองแปลกใหม่ รสชาติที่ไม่คุ้นเคย

สำหรับแฟนหนังไทย ดังนั้น ใครที่ได้เข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ใน

โรงย่อมจะได้รับอรรถรสตามที่หนังเรื่องนี้ต้องการให้เป็นอย่างเต็มที่

ตลอดเวลาของภาพยนตร์..“ร่างทรง”

ใ ช้ ภ า ษ า อี ส า นแ ละ ภ า ษ าไ ท ย ก ล างแ ต่ นั่ นไ ม่ใ ช่

ปัญหาเวลาไปฉายยังต่างประเทศใดๆเลยเพราะสิ่ง

ที่เป็น “สากล” จากภาพยนตร์ “ร่างทรง” เรื่องนี้

นั่นก็คือ เรื่องราวเรื่องเล่า เรื่องความเชื่อ ความสยอง

โหดร้ายและจิตวิญญาณที่ถูกเล่าออกไปตามภาษาหนัง

ผ่ า น ตั ว ละ คร ห ลั กใ น เรื่ อง ที่ มี ภ า ษ า ที่ เ ป็ น ส า ก ล

ความกลัวผีที่เป็นสากลของโลกและคนใดในโลกก็

สามารถซึมลึกและสัมผัสเข้าถึงความเป็นความเชื่อไทย

ได้ ... โดยรวมแล้ว เรื่องนี้ ถูกเล่าในมุมมองที่สด ใหม่

ผ่านสายตาการเล่าเรื่องของ “โต้ง” บรรจง ปิสัญธนะกูล

ผู้กำกับอย่างตั้งใจ

ร่างทรง สะท้อนความเชื่อ

ตัวแทนเรื่องเล่า soft power ไทย

ความเชื่อสู่แรงผลักดัน

CODEX 19

Errementari: The Blacksmith and the Devil อิงจากเรื่องราวพื้น

บ้านที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในยุโรป เรื่องราวอันมืดมน

และน่าอึดอัดนี้อิงจากภูมิภาคบาสก์ เล่าถึงชายคนหนึ่ง

(ช่างตีเหล็ก) ที่มีวิญญาณเป็นของปีศาจ เขาหลอก

ปีศาจที่ปีศาจส่งมาให้พาเขาไปนรก เขาดักจับปีศาจ

หนีปีศาจและไฟแห่งนรกที่รอเขาอยู่ วันหนึ่งมีเด็กหญิง

ตัวเล็ก ๆ เข้ามาในโลกของช่างตีเหล็กและปลดปล่อย

ปีศาจให้เป็นอิสระหลังจากถูกหลอกโดยสิ่งมีชีวิตที่ชั่ว

ร้าย เมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่แปลกประหลาดปรากฏตัว

ในหมู่บ้าน สิ่งต่างๆ กลับกลายเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด

Errementari

The Blacksmith and the Devil

เรื่ องร า ว ส ย อง ข วั ญแ บ บโ ก ธิ ก มื ด นี้ เ ป็ นผ ลง า น

ชิ้ น เ อ ก ข อง ก า ร เ ล่ า เ รื่ อง ทำใ ห้ผู้ ช ม ไ ด้ ดื่ ม ด่ำ

กั บ จิ น ต น า ก า ร ข อ ง ช า ว บ า ส ก์ อ ย่ า ง เ ต็ ม ที่

ค ว ามส ยองข วัญสมั ยใหม่ทั้งหมดม าจ า กเรื่องร า ว

ในตำนานเก่าแก่ของเหล่าปีศาจ แม่มด และสัตว์ประหลาด

20 CODEX

ทำ ไมถึงเป็น Home Sweet Home

ถึงแม้จะหันมาทำ เกมแต่ทัศนะของบริษัทก็ยังคงเหมือน

เดิมที่ต้องการให้เกมไทยไปยืนอยู่ในระดับสากลได้

ประกอบกับมองว่าเมื่อทำ เกมก็อยากทำ เกมที่มีเอกลักษณ์

(uniqueness) พร้อมขายความเป็นไทยไปในตัว

(ลักษณะเดียวกับที่ญี่ปุ่นขายวัฒนธรรมผ่านเกม อนิเมะ

ฯลฯ) ทีมจึงตัดสินใจเลือกเอาความเชื่อของไทยมานำ

เสนอ ประกอบกับเริ่มฟอร์มทีมช่วงที่ Silent Hill

ภาคใหม่ปล่อย Playable Teaser ออกมา จึง

ได้แรงบันดาลใจ ในแง่ที่ต้องการทำ เกมที่มีคุณภาพ

กราฟิคระดับเดียวกัน

ใช้ความเป็นผีไทยส่งต่อ Soft Power

CODEX 21

หลายประเทศมีการใช้ SoftPower เพื่อตีตลาดต่างประเทศอย่างที่เราเห็นบ่อยๆ ก็คือ เกาหลี

(K-Pop) และญี่ปุ่น (J-Pop) ซึ่งถ้ามองในภาพรวมสำ หรับเกม Home Sweet Home อาจจะส่งต่อความ

เป็นไทยได้เหมือนกัน เพียงแต่อยู่ในรูปแบบผีๆ เรื่องของความเชื่อมาเป็นสัญลักษณ์แทน

แซค-ศรุตให้มุมมองว่า...การใช้..SoftPower..ไม่จำ เป็นต้องเป็นเรื่องผีเข้ามาอยู่ในเกม

แต่เกมในทุกรูปแบบเราสามารถดีไซน์ได้ สอดแทรกวัฒนธรรม ความเชื่อ ตัวตนของคนไทยเข้าไปได้

“ธุรกิจเกมในไทย จริงๆ เราพยายามทำ กันมานาน แต่เหมือนจะเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น เมื่อก่อน

เราอาจจะไม่มีต้นทุน ไม่กล้าที่จะลงทุนในการทำ เกม แต่เดี๋ยวนี้มีคนที่เริ่มสนใจในธุรกิจเกมมากขึ้น เพราะว่ารายได้

ในการทำ ธุรกิจเกม โดยเฉพาะการนำ เข้าเกมจากต่างประเทศเข้ามาจัดจำ หน่ายในไทย มันมีอัตราการเติบโตที่ค่อน

ข้างสูง

“นักธุรกิจเริ่มรู้สึกว่า เกมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าลงทุน น่าที่จะโยนเม็ดเงินเข้าไปเพื่อให้เขาสร้างขึ้นมา ซึ่ง

ในอนาคตเราอาจจะไม่รู้เลยก็ได้ว่านั่นคือเกมที่ผลิตจากคนไทย แต่มันไปขายในระดับต่างประเทศแล้ว”

22 CODEX

รู้จักกับ ‘ARAYA’ เกมสยองขวัญสัญชาติ

ไทยดังไกลระดับโลก

หากพูดถึงเกมที่ฮอตมากที่สุดในช่วงไม่กี่วันมา

นี้ เชื่อว่าไม่มีเกมไหนถูกพูดมากที่สุดเกินเกมที่

สร้างโดยทีมงานพัฒนาเกมที่เป็นคนไทย เกม

นั่นชื่อ ARAYA ที่มีคีย์เวิร์ดน่าสนใจอยู่ตรง

คําว่า #มาริสา400cc ARAYA เป็นเกม

แนวสยองขวัญมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งรองรับ

การเล่นผ่าน VR เพื่อความสมจริง (แต่ไม่มี

VR ก็เล่นได้) ภารกิจของเกมนี้คือผู้เล่นต้อง

รับบทเป็นตัวละครสามตัวโดยตัวละครหลักคือ

มาริสา เธอต้องเข้าไปไขปริศนาการหายไป

ของเพื่อนรักชื่ออารยา หลังได้รับแมสเสจ

ปริศนาจากเพื่อนที่หายไปว่าตอนนี้เธออยู่ใน

โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง

เ ปิ ด ตั ว เ ก ม ส ย อ ง บ น . Stream

ARAYA..ถูกปล่อยตัวอย่างและเดโม่ไปเมื่อ

กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คนที่เล่นเกมเดโม่ รวมถึง

คนที่เห็นตัวอย่างเกม ต่างก็อยากจะเห็นตัวเกม

เต็มๆ เนื่องจากความหลอนในเดโม่ยังไม่สะใจ

คอเกมพอ และส่วนใหญ่เสียงวิจารณ์ออกไปใน

เชิงบวกมากกว่า กระทั่ง 24 พฤศจิกายนที่ผ่าน

มา ARAYA ปล่อยขายเวอร์ชั่นเต็มครั้งแรกทาง

Steam ในราคา 369 บาท ทันทีที่ตัวเกม

ปล่อยออกไปนักแคสเกมที่เฝ้ารอก็ซื้อมาเล่นแล้ว

รีวิวอย่างไวจนกลายเป็นกระแสย่อมๆ เกิดขึ้น

ทั้งวิจารณ์เกมในเชิงชื่นชมในความหลอน และ

กระแสเชิดชูนางเอกของเกมที่ควรจะไปลงในเพจ

CUP E ได้เลยนะ

จุดเด่นของ.ARAYA

จากการดูนักเคสเกมที่ลองเล่นเกม

หลอนสยองขวัญสัญชาติไทยเราได้

แยกจุดเด่นที่น่าสนใจและเหตุผลว่า

ทําไมเราควรจะต้องซื้อเกมนี้มาไว้ใน

เครื่องไว้ 5 เหตุผลคือ

CODEX 23

1..เป็นเรื่องราวที่ใกล้ตัว.:.เรื่องราวของเกมนี้เกิดในประเทศไทยดังนั้นไม่ว่าจะเป็นฉากบท

สนทนา ป้ายภาษาไทย และจุดเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ ในฉากที่ดูแล้วนี่แหละไทย คือสิ่งที่ทํา

ให้เราอินได้ไม่ได้เลยแม้เราจะไม่เคยมีเพื่อนชื่ออารยาและไม่เคยไปเดินโรงพยาบาลกลางดึก

2..เกม VR แนวสยองขวัญเกมแรกของไทย : เทคโนโลยี VR เพิ่งเข้ามามีบทบาทในวงการพัฒนาเกม

ไทยได้ไม่นาน แต่ก็มีหลายเกมของคนไทยที่พร้อมซัพพอร์ทเทคโนโลยีนี้ ยกเว้นเกมแนวสยองขวัญ ARAYA

ถือว่าเป็นเกมแนวสยองเกมแรกของไทยที่เล่นร่วมกับ VR ได้อย่างน่าสนใจ

3..เล่นง่าย แต่หลอน : แม้คุณจะไม่ใช่เกมเมอร์มือเก๋าเหาฉลามที่ที่เล่นเกมอะไรก็เทพไปหมดก็สามารถเล่น

ARAYA ได้อย่างสนุก ขณะเดียวกันแม้ว่าคุณจะเป็นเกมเมอร์มือใหม่แต่ก็สามารถเล่น ARAYA ได้โดยไม่รู้

สึกว่ายากจังวะ จนอยากจะปาคีย์บอร์ดทิ้ง แล้วกดของเงินคืน

4..ราคาถูก : เกมนี้ราคาถูกมากเพียง 369 บาท ตัดสินใจซื้อมาลองได้ไม่ยากและไม่ใช่เกมที่ซื้อแล้ว

เสียดายเงินแต่อย่างใด

5..400cc : สําหรับคนที่มี VR ถือเป็นกําไรของคนเล่นเกมเพราะทุกครั้งที่คุณก้มลงมองพื้นสิ่งที่คุณเห็นก็คือ