ฟังก์ชันที่จะช่วยให้คุณเทรดหุ้นและอนุพันธ์อย่างเหนือชั้นกับกลยุทธ์ยอดนิยมอย่าง Stop Order, Trailing Stop และ Bracket Order ที่จะช่วยให้คุณสามารถตั้งคำสั่ง Take Profit และ Cut Loss ได้ล่วงหน้าบน Streaming ให้คุณลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้ เลิกกังวล ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา แนะนำการใช้งาน Conditional Order เบื้องต้น ฟังก์ชันที่จะช่วยให้คุณเทรดหุ้นและอนุพันธ์อย่างเหนือชั้นกับกลยุทธ์ยอดนิยมอย่าง Stop Order, Trailing Stop และ Bracket Order ที่จะช่วยให้คุณสามารถตั้งคำสั่ง Take Profit และ Cut Loss ได้ล่วงหน้าบน Streaming ให้คุณลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้ เลิกกังวล ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา Overview Features เพราะเราเข้าใจในความต้องการ จึงคัดสรรแต่สิ่งดี ๆ เพื่อนักลงทุนโดยเฉพาะ การตั้งเงื่อนไขเพื่อให้ Settrade Streaming ส่งคำสั่งเข้าตลาดโดยอัตโนมัติเมื่อหุ้นถึงราคาที่ตั้งไว้ คุณสามารถตั้งเงื่อนไขได้ทั้ง “หุ้นขึ้น” หรือ “หุ้นลง” เพียงตั้งราคาล่าสุดมากกว่าหรือน้อยกว่า Trigger Price
การตั้งเงื่อนไขแบบยกระดับราคาอัตโนมัติ เพื่อให้ Settrade Streaming ส่งคำสั่งเข้าตลาดอัตโนมัติ เมื่อราคากลับตัวถึงส่วนต่างราคาที่ตั้งไว้
การตั้งเงื่อนไขเพื่อให้ Settrade Streaming ส่งคำสั่งเข้าตลาดโดยอัตโนมัติเมื่อหุ้นถึงราคาที่ตั้งไว้ คุณสามารถตั้งเงื่อนไขได้พร้อมกันทั้ง “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง” เพียงตั้งราคาล่าสุดตาม Trigger Price มากกว่าเท่ากับ Upper Price หรือน้อยกว่าเท่ากับ Lower Price
การตั้งเงื่อนไขเพื่อให้ Settrade Streaming ส่งคำสั่งเข้าตลาดโดยอัตโนมัติเมื่ออนุพันธ์ถึงราคาที่ตั้งไว้ คุณสามารถตั้งเงื่อนไขได้ทั้ง “ราคาขึ้น” หรือ “ราคาลง” เพียงตั้งราคาล่าสุดมากกว่าหรือน้อยกว่า Trigger Price
การตั้งเงื่อนไขเพื่อให้ Settrade Streaming ส่งคำสั่งเข้าตลาดโดยอัตโนมัติเมื่ออนุพันธ์ถึงราคาที่ตั้งไว้ คุณสามารถตั้งเงื่อนไขได้พร้อมกันทั้ง “ราคาขึ้น” หรือ “ราคาลง” เพียงตั้งราคาล่าสุดตาม Trigger Price มากกว่าเท่ากับ Upper Price หรือน้อยกว่าเท่ากับ Lower Price
ขั้นตอนการส่งคำสั่งง่าย ๆ ส่งคำสั่งซื้อขายได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ ด้วย 3 Features สุดล้ำจาก Conditional Order ตัวอย่าง การตั้ง Stop Order ถ้ามีหุ้น ABC อยู่ใน Portfolio ที่ราคา 10 บาท หากเราต้องการจะ Cut loss เมื่อหุ้น ABC ราคาตกลงมาถึง 8 บาท ให้ขายทิ้ง ที่ราคา 8 บาท โดยให้มีผลภายใน 1 เดือน ให้ตั้งคำสั่งตามรูป 1. Trigger Condition เลือกเงื่อนไขเป็น Last ≤ Trigger Price 2. Trigger Price ใส่ราคาเงื่อนไข 8 บาท 3. Volume ใส่จำนวนหุ้นที่ต้องการขาย 4. Price ใส่ราคาต้องการขาย 8 บาท 5. Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 7 ก.พ. 2562 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 7 ก.พ. 2562 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อหุ้นถึงราคา 8 บาท ระบบจะส่งคำสั่งขายหุ้นเข้าตลาดอัตโนมัติ 1. Trigger Condition เลือกเงื่อนไขเป็น Last ≤ Trigger Price2. Trigger Price ใส่ราคาเงื่อนไข 8 บาท3. Volume ใส่จำนวนหุ้นที่ต้องการขาย4. Price ใส่ราคาต้องการขาย 7.9 บาท5. Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 7 ก.พ. 2562 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 7 ก.พ. 2562 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อหุ้นถึงราคา 8 บาท ระบบจะส่งคำสั่งขายหุ้นเข้าตลาดอัตโนมัติ ตัวอย่าง การตั้ง Trailing Stop ถ้ามีหุ้น ABC อยู่ใน Portfolio หากเราต้องการจะ Take Profit เมื่อหุ้น ABC ราคาล่าสุดตกลงมา 10% จากราคา High ให้ขายออกทันที โดยให้มีผลภายใน 1 เดือน ให้ตั้งคำสั่งตามรูป 1. Trigger Price ใส่ราคาเงื่อนไข 10 % 2. Volume ใส่จำนวนหุ้นที่ต้องการขาย 3. Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 7 ก.พ. 2562 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 7 ก.พ. 2562 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อถึงราคาหุ้น ABC ล่าสุดถึงเงื่อนไข ระบบจะส่งคำสั่งขายเข้าตลาดอัตโนมัติ 1. Trigger Price ใส่ราคาเงื่อนไข 10 %2. Volume ใส่จำนวนหุ้นที่ต้องการขาย3. Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 7 ก.พ. 2562 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 7 ก.พ. 2562 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อถึงราคาหุ้น ABC ล่าสุดถึงเงื่อนไข ระบบจะส่งคำสั่งขายเข้าตลาดอัตโนมัติ ตัวอย่าง การตั้ง Bracket Order ถ้ามีหุ้น ABC อยู่ใน Portfolio ที่ราคา 10 บาท หากเราต้องการจะ Cut Loss เมื่อหุ้น ABC ราคาตกลงมาถึง 8 บาท หรือ Take Profit เมื่อหุ้น ABC ราคาขึ้นเป็น 12 บาท โดยให้มีผลภายใน 1 เดือน ให้ตั้งคำสั่งตามรูป 1. Upper Price ใส่ราคาเงื่อนไข 12 บาท 2. Lower Price ใส่ราคาเงื่อนไข 8 บาท 3. Volume ใส่จำนวนหุ้นที่ต้องการขาย4. Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 7 ก.พ. 2562 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 7 ก.พ. 2562 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อหุ้นถึงราคา 8 บาท หรือ 12 บาท ระบบจะส่งคำสั่งขายหุ้นเข้าตลาดอัตโนมัติ 1. Upper Price ใส่ราคาเงื่อนไข 12 บาท2. Lower Price ใส่ราคาเงื่อนไข 8 บาท3. Volume ใส่จำนวนหุ้นที่ต้องการขาย4. Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 7 ก.พ. 2562 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 7 ก.พ. 2562 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข เมื่อหุ้นถึงราคา 8 บาท หรือ 12 บาท ระบบจะส่งคำสั่งขายหุ้นเข้าตลาดอัตโนมัติ ส่งคำสั่งซื้อขายได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ ด้วย 2 Features สุดล้ำจาก Conditional Order ตัวอย่าง การตั้ง Stop Order
ถ้ามีอนุพันธ์ S50H22 ที่สนใจจะเปิดสัญญา Long 10 สัญญา หากราคาอ้างอิงขึ้นไปถึง 1,030.0 แต่อยากเปิดสัญญาที่ราคา 1,028.8 โดยให้มีผลภายใน 1 เดือนให้ตั้งคำสั่งตามรูป 1. Strategy and Series เลือก Long Open เพื่อเปิดสัญญา และกรอก Series S50H22 2. Volume ใส่จำนวนสัญญาที่ต้องการเปิด 10 สัญญา 3. Price ใส่ราคาต้องการเปิดสัญญา 1028.8 บาท แบบ Limit หรือ MP-MTL, MP หากต้องการเปิดสัญญาทันทีเมื่อถึงเงื่อนไขที่กำหนด 4. Condition Type เลือก Stop Order 5. Trigger Condition เลือกเงื่อนไขเป็น Last >= 6. Trigger Price ใส่ราคาเงื่อนไข 1,030.0 บาท 7. Condition Validity ระยะเวลาให้คำสั่งนี้มีผล เช่น เลือกวันที่ 22 มี.ค. 2022 หมายถึง คำสั่งนี้จะอยู่จนถึงสิ้นวันที่ 22 มี.ค. 2022 และหลังจากนั้นคำสั่งจะ Expired หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไข 8. Order Validity ระบุวันที่หมดอายุของ Order หลังจากที่ Condition ถูก Activate แล้ว โดยมีให้เลือกเป็น Day (หมดอายุภายในวันที่ Condition ถูก Activate), Date (หมดอายุภายในวันที่กำหนด) หรือ Cancel (ไม่หมดอายุจนกว่าจะทำการ Cancel Order) |