พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486) เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ท.จ.ว. และเป็นองค์ต้นราชสกุลดิศกุล ทรงดำรงตำแหน่งที่สำคัญทางการทหารและพลเรือน เช่น เจ้าพนักงานใหญ่ ผู้บัญชาการทหารบก อธิบดีกรมศึกษาธิการ (ตำแหน่งเทียบเท่าเสนาบดี) องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เสนาบดีกระทรวงมุรธาธร นายกราชบัณฑิตยสภา องคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และอภิรัฐมนตรีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว Show
นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาสามารถในด้านการศึกษา การปกครอง การต่างประเทศ การสาธารณสุข หลักรัฐประศาสนศาสตร์เปรียบเทียบ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปวัฒนธรรม ทรงได้รับพระสมัญญานามเป็น "พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์และโบราณคดีไทย" และ "พระบิดาแห่งมัคคุเทศก์ไทย" ทรงเป็นองค์ผู้อำนวยการก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ที่ประชุมใหญ่ขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศถวายสดุดีให้พระองค์ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกคนแรกของประเทศไทย และวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เป็นวันดำรงราชานุภาพ กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการถวายความรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณเป็นอเนกอนันต์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย และบุคคลสำคัญของโลกคนแรกของประเทศไทย พระประวัติ[แก้]ประสูติ[แก้]เมื่อปี พ.ศ. 2447 ขณะดำรงพระอิศริยยศเป็นกรมหลวงดำรงราชานุภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร (อ่านว่า ดิด-สะ-วอ-ระ-กุ-มาร) เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระองค์เดียวที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาชุ่ม ท.จ.ว. ณ พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2405 ชาววังออกพระนามโดยลำลองว่า "พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร หรือ เสด็จพระองค์ดิศ" พระองค์ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบิดาในวันสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ โดยมีรายละเอียดว่า "สมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าแผ่นดินสยามผู้พระบิดา ขอตั้งนามกุมารบุตรที่เกิดแต่ชุ่มเล็กเป็นมารดานั้น และซึ่งคลอดในวันเสาร์ แรม 9 ค่ำ เดือน 7 ปีจอจัตวาศกนั้น ว่าดังนี้ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร นาคนาม ขอจงเจริญชนมายุ วรรณ สุข พล ปฏิภาณ สรรพสิริสวัสดิพิพัฒนมงคลทุกประการ สิ้นกาลนานต่อไปเทอญ" โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำเอานามของพระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) ซึ่งเป็นบิดาของเจ้าจอมมารดาชุ่มมาตั้งพระราชทาน เนื่องจากทรงพระราชดำริว่าท่านเป็นคนซื่อตรง ทรงศึกษา[แก้]พระองค์ทรงเริ่มเรียนหนังสือไทยชั้นต้นจากสำนักคุณแสงและคุณปาน ราชนิกุล ในพระบรมมหาราชวัง ทรงศึกษาภาษาอังกฤษในโรงเรียนหลวง ซึ่งมีมิสเตอร์ ฟรานซิส ยอร์ช แพตเตอร์สัน เป็นพระอาจารย์
รับราชการ[แก้]สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจด้านต่าง ๆ และทรงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเชษฐา ถึงขนาดตรัสชมว่า ทรงเป็นเสมือน "เพชรประดับพระมหาพิชัยมงกุฎ" เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดให้เปลี่ยนคำนำพระนามเป็นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ และในวันต่อมาพระองค์ท่านได้เข้าถือน้ำพิพัฒน์สัตยาและรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ได้สนองพระเดชพระคุณตลอดมา ตราบจนทรงพระชราภาพ ไม่สามารถทำราชการหนักในตำแหน่งต่อไปอีก จึงกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเป็นเสนาบดีที่ปรึกษา สิ้นพระชนม์[แก้]สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เริ่มประชวรด้วยโรคพระหทัยมาตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2484 จึงเสด็จกลับมารักษาพระอาการประชวรในประเทศไทย (ก่อนหน้านั้นทรงประทับอยู่ ณ เกาะปีนังบริติชมลายู ภายหลังเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475) พระอาการทรงและทรุดเรื่อยมาจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ที่วังวรดิศ ถนนหลานหลวง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร สิริรวมพระชันษา 81 ปี อนึ่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีพระโอรสสืบราชสกุล คือ หม่อมเจ้าจุลดิศ ดิศกุล นายทหารม้าราชองครักษ์และองคมนตรีในรัชกาลที่ 7, พระนัดดา (หลาน) คือ หม่อมราชวงศ์สังขดิศ ดิศกุล อดีตเอกอัครราชทูต ณ ประเทศมาเลเซีย สมาพันธรัฐสวิส และนครรัฐวาติกัน, พระปนัดดา (เหลน) ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าสืบตระกูล (ต.อ.จ.) และดำรงรักษาวังวรดิศ คือ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม จังหวัดเชียงใหม่ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล มีบุตรชายสืบตระกูลคนเดียว คือ นายวรดิศ ดิศกุล ณ อยุธยา ปัจจุบันเป็นนักศึกษาหลักสูตรปริญญาเอกทาง "Innovation Management" ผู้มีศักดิ์ลำดับเป็นทายาทชั้นลื่อของพระองค์ท่าน พระกรณียกิจ[แก้]สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงฉายกับ เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 4 พระมารดา
พระโอรสและพระธิดา[แก้]สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นองค์ต้นราชสกุลดิศกุล มีหม่อม 11 คน ได้แก่
โดยมีพระโอรสและพระธิดารวมทั้งหมด 37 องค์ เป็นชาย 14 องค์ เป็นหญิง 23 องค์ พระรูป พระนาม หม่อมมารดา ประสูติ สิ้นชีพิตักษัย คู่สมรส 1. พันโท หม่อมเจ้าจุลดิศ (ท่านชายใหญ่) ท.จ. (องคมนตรี) ที่ 1 ในหม่อมเฉื่อย 27 ธันวาคม พ.ศ. 2424 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 หม่อมแช่ม (เปาโรหิตย์)2. หม่อมเจ้าอิทธิดำรง (ท่านชายกลาง) ที่ 2 ในหม่อมเฉื่อย 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2428 12 เมษายน พ.ศ. 24363. หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม (ท่านหญิงใหญ่) ที่ 1 ในหม่อมนวม 3 สิงหาคม พ.ศ. 2429 23 กันยายน พ.ศ. 25214. หม่อมเจ้าหญิงพร้อมเพราพรรณ (ท่านหญิงกลาง) ที่ 2 ในหม่อมนวม 9 ธันวาคม พ.ศ. 2431 4 กันยายน พ.ศ. 2467 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร5. อำมาตย์ตรี หม่อมเจ้าทรงวุฒิภาพ (ท่านชายเล็ก) ที่ 3 ในหม่อมเฉื่อย 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2432 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2469 หม่อมราชวงศ์หญิงสอิ้ง (สนิทวงศ์) หม่อมราชวงศ์หญิงสุทธิสอาด (สนิทวงศ์)6. หม่อมเจ้าหญิง (แฝด) ที่ 4 ในหม่อมเฉื่อย ไม่ทราบปี ราว 3 ชั่วโมงหลังประสูติ7. หม่อมเจ้าหญิง (แฝด) ที่ 5 ในหม่อมเฉื่อย ไม่ทราบปี ราว 3 ชั่วโมงหลังประสูติ8. หม่อมเจ้ารัชลาภจิรธิษฐ (ท่านชายอี๊ด) ที่ 6 ในหม่อมเฉื่อย มิถุนายน พ.ศ. 2436 21 สิงหาคม พ.ศ. 24439. หม่อมเจ้าหญิงสรรพสมบูรณ์ (ท่านหญิงกลัด) ที่ 3 ในหม่อมนวม 4 ตุลาคม พ.ศ. 2436 15 มกราคม พ.ศ. 246310. หม่อมเจ้าหญิง (ไม่ปรากฏพระนาม) 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2437 ในวันประสูติ11. หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย (ท่านหญิงพูน) ที่ 7 ในหม่อมเฉื่อย 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2438 11 สิงหาคม พ.ศ. 253312. หม่อมเจ้าหญิงพิไลยเลขา (ท่านหญิงพิไลย) ที่ 8 ในหม่อมเฉื่อย 8 สิงหาคม พ.ศ. 2440 11 ธันวาคม พ.ศ. 252813. หม่อมเจ้าหญิง (แฝด) ที่ 1 ในหม่อมลำดวน 8 มกราคม พ.ศ. 2440 22 เมษายน พ.ศ. 2455ไฟล์:หม่อมเจ้าพัฒนายุ.JPG14. หม่อมเจ้าหญิงพัฒนายุ หรือ หม่อมเจ้าหญิงพัฒนายุคุณวรรณ (แฝด) (ท่านหญิงเหลือ) ที่ 2 ในหม่อมลำดวน 8 มกราคม พ.ศ. 2440 3 ธันวาคม พ.ศ. 251615. หม่อมเจ้าหญิงบันลุศิริศานต์ (ท่านหญิงเภา) ที่ 1 ในหม่อมเจิม กันยายน พ.ศ. 2441 22 เมษายน พ.ศ. 245516. หม่อมเจ้าหญิงบันดาลสวัสดี (ท่านหญิงน้อย) ที่ 9 ในหม่อมเฉื่อย 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2442 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2469 หม่อมเจ้าไตรทิพเทพสุต เทวกุล17. หม่อมเจ้าหญิงสิวลีวิลาศ (ท่านหญิงแดง) ที่ 3 ในหม่อมลำดวน 11 มกราคม พ.ศ. 2443 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 253518. หม่อมเจ้าหญิงมารยาตรกัญญา (ท่านหญิงแย้ม) ที่ 1 ในหม่อมแสง 8 เมษายน พ.ศ. 2445 11 ธันวาคม พ.ศ. 254919. หม่อมเจ้าดิศศานุวัติ (ท่านชายน้อย) ที่ 10 ในหม่อมเฉื่อย 4 สิงหาคม พ.ศ. 2445 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 หม่อมเจ้าหญิงลุอิสาณ์ (จักรพันธุ์)20. หม่อมเจ้าหญิงอัปภัศราภา (ท่านหญิงแก้ว) ที่ 2 ในหม่อมเจิม 4 มิถุนายน พ.ศ. 2447 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 หม่อมเจ้าอนันตนรชัย เทวกุล21. หม่อมเจ้าหญิงทักษิณาธร (ท่านหญิงโหล) ที่ 4 ในหม่อมลำดวน 10 สิงหาคม พ.ศ. 2446 17 เมษายน พ.ศ. 251522. หม่อมเจ้าหญิงพรพิลาศ (ลาออกจากฐานันดรศักดิ์) (ท่านหญิงพร) ที่ 2 ในหม่อมแสง 10 ธันวาคม พ.ศ. 2447 10 ธันวาคม พ.ศ. 2519 ชวน บุนนาคไฟล์:หม่อมเจ้านิพัทธ์พันธุดิศ.JPG23. หม่อมเจ้านิพัทธ์พันธุ์ดิศ (ท่านชายนิพัทธ์หรือท่านชายเจ็ด) ที่ 3 ในหม่อมเจิม 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2448 4 เมษายน พ.ศ. 2514 หม่อมรำไพ (กันตามระ)24. หม่อมเจ้าพิสิษฐ์ดิศพงศ์ (ท่านชายแอ๊ว) ที่ 5 ในหม่อมลำดวน 9 สิงหาคม พ.ศ. 2448 31 มีนาคม พ.ศ. 2509 หม่อมสวาสดิ์ (เกตุทัต)25. หม่อมเจ้าหญิงพวงมาศผกา ที่ 3 ในหม่อมแสง 3 กันยายน พ.ศ. 2450 12 มิถุนายน พ.ศ. 252626. หม่อมเจ้าหญิงรัชมาลินี (ท่านหญิงนิด) ที่ 4 ในหม่อมเจิม 11 ตุลาคม พ.ศ. 2451 30 มกราคม พ.ศ. 2528 หม่อมเจ้าธัญญลักษณ์ ศุขสวัสดิ์27. หม่อมเจ้าหญิงสุมณีนงเยาว์ (ลาออกจากฐานันดรศักดิ์) (ท่านหญิงโสฬส) ที่ 6 ในหม่อมลำดวน 16 มีนาคม พ.ศ. 2451 ประมาณ พ.ศ. 2546 พันเอกสุวัฒน์ วินิจฉัยกุล28. หม่อมเจ้าศุกรวรรณดิศ (ท่านชายขาว) ที่ 4 ในหม่อมแสง 14 มกราคม พ.ศ. 2452 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2519 หม่อมลดา (อินทรกำแหง)ไฟล์:หม่อมเจ้ากาฬวรรณดิศ.JPG29. หม่อมเจ้ากาฬวรรณดิศ ดิศกุล (ท่านชายดำ) หม่อมอบ 5 มีนาคม พ.ศ. 2453 25 มกราคม พ.ศ. 2527 หม่อมฉวีทิพย์ (หงสนันท์)30. หม่อมเจ้าวีรดิศ(ท่านชายหนู) ที่ 1 ในหม่อมหลวงใหญ่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2454 1 ตุลาคม พ.ศ. 2489 31. หม่อมเจ้าหญิงเราหิณาวดี (ลาออกจากฐานันดรศักดิ์) (ท่านหญิงเป้า) ที่ 5 ในหม่อมแสง 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 1 มีนาคม พ.ศ. 2527 หม่อมหลวงฉายชื่น กำภู32. หม่อมเจ้าอาชวดิศ (ท่านชายใหม่) ที่ 5 ในหม่อมเจิม 23 มีนาคม พ.ศ. 2456 4 ธันวาคม พ.ศ. 2518 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงศิริรัตนบุษบง33. หม่อมเจ้าหญิงกุมารีเฉลิมลักษณ์ ที่ 6 ในหม่อมเจิม 3 มกราคม พ.ศ. 2458 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 หม่อมเจ้าเพลารถ จิตรพงศ์34. หม่อมเจ้าหญิงกฤษณาพักตรพิมล(ท่านหญิงเพียน) ที่ 6 ในหม่อมแสง 24 ธันวาคม พ.ศ. 2460 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561 หม่อมเจ้าประสพสุข ศุขสวัสดิ์ 35. หม่อมเจ้าพิริยดิศ (ท่านชายนิด) ที่ 2 ในหม่อมหลวงใหญ่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2464 14 สิงหาคม พ.ศ. 2543 หม่อมเจ้าหญิงภัทรลดา (ฉัตรชัย)36. หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ (ท่านชายปาน) ที่ 7 ในหม่อมเจิม 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2466 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 หม่อมอรพินทร์ (อินทรทูต)37. หม่อมเจ้ากุมารดิศ (ท่านชายหยด) หม่อมหยาด 15 เมษายน พ.ศ. 2471 20 มิถุนายน พ.ศ. 2532 หม่อมอุบลวรรณ (เก่งธัญการ)พระอิสริยยศ[แก้]ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ธงประจำพระอิสริยยศ ตราประจำพระองค์ การทูลใต้ฝ่าพระบาทการแทนตนข้าพระพุทธเจ้าการขานรับพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ
พระยศ[แก้]พลเอก นายกองเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับใช้กองทัพบกสยาม กองเสือป่าชั้นยศ พลเอก นายกองเอกพระยศทหาร[แก้]
พระยศพลเรือน[แก้]
พระยศเสือป่า[แก้]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]พลเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศ ดังนี้ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[แก้]เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[แก้]พระราชานุสรณ์[แก้]พระราชานุสาวรีย์[แก้]พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บริเวณหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยกระทรวงมหาดไทย ได้จัดสร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในลักษณะประทับนั่ง บริเวณด้านหน้าศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ แขวงวัดราชบพิตร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร วันดำรงราชานุภาพ[แก้]วันดำรงราชานุภาพ ตรงกับวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สืบเนื่องจากการที่พระองค์เป็นบุคคลไทยพระองค์แรกที่ได้รับการยกย่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก เมื่อปี พ.ศ. 2505 และทรงได้รับการถวายพระนามเป็น "พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย" สถานที่เนื่องด้วยพระนาม[แก้]
พระนิพนธ์[แก้]ผลงานนิพนธ์ทั้งหมดของพระองค์มีงานเขียนเป็นจำนวนมาก เช่น หนังสือเรื่องความทรงจำ ไทยรบพม่า เป็นต้น สามารถแบ่งผลงานได้เป็น
พงศาวลี[แก้]พงศาวดีของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ 16. (=22.) สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก 8. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 17. (=23.) พระอัครชายา (หยก) 4. พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 18. ทอง ณ บางช้าง 9. สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี 19. สมเด็จพระรูปศิริโสภาคย์มหานาคนารี 2. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 20. เศรษฐีจีนฮกเกี้ยนแซ่ตัน 10. เงิน แซ่ตัน 21. น้องสาวของท่านผู้หญิงน้อย ภรรยาของเจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ (อู่) 5. สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี 22. (=16.) สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก 11. สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ 23. (=17.) พระอัครชายา (หยก) 1. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ 24. พระจันทราทิตย์ (บุญชู โรจนดิศ) 12. จมื่นอินทรประพาส (เลี้ยง โรจนดิศ) 6. พระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ โรจนดิศ) 26. จำปา ณ เวียงจันทน์ 13. ท้าวมังสี (ขำ โรจนดิศ) 3. เจ้าจอมมารดาชุ่ม ในรัชกาลที่ 4 7. คล้าย โรจนดิศ อ้างอิง[แก้]เชิงอรรถ
|