กร งเทพประก นช ว ต ม งม นให คนออกกำล งกาย

เชื่อว่าหลายคนที่เจอปัญหาความอ้วนมักจะคิดว่าสิ่งแรกที่ฉันต้องทำคือการอดอาหาร โหมออกกำลังกายเพื่อให้ตัวเองผอม และตัวเลขน้ำหนักลดลง หารู้ไม่ว่านั่นคือความเชื่อที่ผิด เพราะว่า แก่นแท้ของการลดความอ้วน คือ ลดไขมัน

เมื่อเรากินอาหารเข้าไปมากกว่าปริมาณที่ร่างกายเผาผลาญหรือใช้ไปจะถูกเก็บสะสมเป็นไขมันทุกวัน ๆ จนน้ำหนักขึ้นและอ้วนได้ในที่สุด ดังนั้นการลดความอ้วน คือ คุณต้องกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป นอกจากนี้ไขมันส่วนเกินยังเป็นภัยร้ายเกาะตามชั้นผิวหนังและสะสมแทรกตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ลำไส้ และหัวใจ ผลร้ายที่เป็นโบนัสแถมมาต่อจากความอ้วนก็คือโรคร้ายต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ข้อเสื่อม โรคหัวใจ หลอดเลือดสมองตีบ ความดันเลือดสูง และปัญหาด้านจิตใจ เช่น การไม่พอใจร่างกายตัวเอง หรือการถูกมองจากสังคม


รู้จักสร้างกล้ามเนื้อแทนที่ไขมัน

เป้าหมายของการลดความอ้วนจึงต้องลดไขมันส่วนเกินแล้วแทนที่ด้วยกล้ามเนื้อ ยิ่งมีมวลกล้ามเนื้อมากยิ่งทำให้กระบวนการเมตาบอลิซึมเผาผลาญสารอาหารโดยเฉพาะไขมันได้มากกว่าคนที่มีมวลกล้ามเนื้อน้อย อาหารที่กินเข้าไปก็จะไม่สะสมแล้วแปรสภาพเป็นไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นตัวการทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น การลดความอ้วนจึงไม่ใช่การอดอาหารเพื่อให้น้ำหนักลดอย่างที่หลายคนเข้าใจกันอยู่

ตัวเลขบนตาชั่งไม่สามารถชี้วัดการลดความอ้วนที่ถูกต้อง แต่เป็นเพียงตัวช่วยเสริมให้เราทราบถึงน้ำหนักมวลรวมที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น


ไขข้อข้องใจ ทำไมถึง “โยโย่”

ลองเช็กดูว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือเปล่า

  • โหมออกกำลังกายหนัก
  • อดมื้อกินมื้อ
  • งดกินคาร์โบไฮเดรตและไขมัน
  • กินแต่ผักและผลไม้อย่างเดียว
  • ฯลฯ

พอทำแบบนี้ติดต่อกันร่างกายจะปรับตัวเพื่อให้คุ้นชินกับอาหารที่กินเข้าไป ระบบเผาผลาญจะลดการทำงานน้อยลง เสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร ร่างกายผอมลง สูญเสียมวลกล้ามเนื้อมาก และถ้าคุณหยุดพฤติกรรมนี้เมื่อไรน้ำหนักจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เจอกับภาวะ “โยโย่” ระบบเผาผลาญพัง กลับมาอ้วนเหมือนเดิม ลดน้ำหนักยาก และกว่าร่างกายจะกลับมาปกติก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนาน


วิธีลดความอ้วน (ไขมัน) ที่ถูกต้อง

กินให้เป็น

หลักการมีง่าย ๆ ว่า “หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก” มื้อเช้าต้องเป็นมื้ออาหารหลักเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้พลังงานตลอดทั้งวัน เมื่อมื้อเช้าทานเต็มอิ่ม มื้อเที่ยงก็จะรู้สึกหิวน้อยลง แต่ควรทานให้ได้ครึ่งหนึ่งของมื้อเช้า และมื้อเย็นควรทานก่อน 6 โมงเย็น โดยเน้นผัก เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผลไม้หวานน้อย เลี่ยงอาหารรสจัด อาหารไขมันสูง จำกัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงในแต่ละวัน ลองเลือกดื่มเป็นน้ำเปล่า ชาจีน กาแฟดำ (ไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน) น้ำมะนาว (ไม่ใส่น้ำตาล) และเข้านอนช่วง 4 – 5 ทุ่ม ลองทำแบบนี้ทุก ๆ วันหุ่นคุณจะเริ่มดูกระชับขึ้น

ออกกำลังกาย 30 นาทีทุกวัน

นอกจากคุมอาหารแล้วต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยจะเห็นผลได้ชัดขึ้น ไขมันลดลงกล้ามเนื้อเข้าแทนที่ สำหรับคนเริ่มออกกำลังกายอาจเริ่มต้นการเดินเร็ว ก้าวขายาว ๆ และแกว่งแขน ประมาณ 30 นาทีทำติดต่อกัน 5 วัน / สัปดาห์

***รู้ไหมว่า…หากเดินได้เร็วถึง 1 ชั่วโมงหรือประมาณ 6 กิโลเมตร จะใช้พลังงานได้ถึง 350 แคลอรี่ หรืออาจจะลองปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ควบคู่กับการทำเวทเทรนนิ่ง เสริมสร้างกล้ามเนื้อช่วยระบบเผาผลาญในร่างกายให้ดีขึ้น

ความเครียดทำให้อ้วน

บางคนเครียดแล้วมักจะหาที่ลงด้วยการกิน เพราะร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดชื่อว่า คอร์ติโซล (Cortisol) ในปริมาณมาก จึงทำให้รู้สึกอยากอาหารมาก ๆ โดยเฉพาะของหวานและของมัน จนกลายเป็นคนที่สะสมไขมันได้ง่ายกว่าคนที่อารมณ์ดี ฉะนั้นคุณต้องรู้จักสังเกตอารมณ์และจิตใจตัวเอง แล้วคุณจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

***วิธีคลายเครียดที่ได้ผลคือ การออกกำลังกาย จะทำให้ร่างกายหลั่ง เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย


ทำไมทำตามวิธีเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผล

คุณอาจไม่ได้อ้วนเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่อาจเข้าข่ายภาวะอ้วนจากความผิดปกติในร่างกาย คือ เกิดจากร่างกายมีระบบเผาผลาญที่ผิดปกติ หรือกินแล้วร่างกายไม่เผาผลาญ ซึ่งจะรู้แน่ชัดโดยผ่านการตรวจสอบจากแพทย์ เพราะต้องตรวจเช็กเรื่องฮอร์โมน อาทิ ต่อมใต้สมอง ไทรอยด์ ตับอ่อน ฮอร์โมนที่ใช้ในการเผาผลาญ และหากพบว่าเกิดจากระบบเผาผลาญในร่างกายผิดปกติ ก็จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะแพทย์จะทำการวินิจฉัยปรับเปลี่ยนวิตามิน ปรับปรุงเกลือแร่เพื่อเข้าไปช่วยเรื่องระบบเผาผลาญ เมื่ออาการดีขึ้นไขมันและคอเลสเตอรอลจะลดลง ร่างกายก็จะสามารถกลับมาแข็งแรงเป็นปกติ

ปัจจุบันเทรนการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายด้วยการเล่น “พิลาทิส” การออกกำลังกายที่อาศัยการใช้กล้ามเนื้อบริเวณส่วนแกนกลางลำตัว การเคลื่อนไหวของส่วนต่างๆ ในร่างกายและฝึกลมหายใจ ซึ่งคล้ายกับการเล่นโยคะ บ่อยครั้งที่การออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสถูกนำเสนอผ่านสื่อในช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Record of youth เส้นทางดาว ที่ตัวละคร วอนแฮฮโย ซึ่งรับบทโดย บยอนอูซอก เพื่อนสนิทพระเอกที่มีความชื่นชอบในการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิส

วอนแฮฮโย ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตาและฐานะทางสังคม มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนายแบบและนักแสดงที่โด่งดัง และต้องการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองในเส้นทางของวงการบันเทิงเพื่อให้ผู้เป็นพ่อที่ไม่เห็นด้วยกับความฝันของเขายอมรับ โดยมีแม่เป็นผู้สนับสนุนในเส้นทางและความฝันนี้ของเขาเสมอ จนกระทั่งเขาได้เซ็นสัญญากับบริษัทเอเจนซี่ชื่อดัง และเริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เพราะการที่เขาจะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยทักษะ ความสามารถ และต้องมาพร้อมกับโอกาสและจังหวะที่เหมาะสม วอนแฮฮโยจึงต้องพิสูจน์ตัวเองและแข่งขันกับคนอื่น ๆ เพื่อที่ให้ตัวเองขึ้นมาโดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เห็นผ่านตัวละครของวอนแฮฮโยคือความพยายาม โดยเฉพาะการดูแลภาพลักษณ์ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ทำให้ผู้คนให้ความสนใจ และการดูแลภาพลักษณ์รวมถึงบุคลิกภาพของเขาถูกถ่ายทอดผ่านการออกกำลังกายด้วยการเล่น “พิลาทิส” นอกจากจะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเสริมให้บุคลิกภาพดียิ่งขึ้น

พิลาทิส นอกจากนำเสนอผ่านซีรีส์เกาหลี ยังได้รับความนิยมในชีวิตจริงโดยเฉพาะในหมู่ของนักร้อง นักแสดง และ Influencer ในปัจจุบัน และบทความนี้ KDMS จะพาทุกๆ ท่านมาทำความรู้จักการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสให้มากยิ่งขึ้น

Table of Contents

พิลาทิสคืออะไร

พิลาทิส (Pilates) คือ การออกกำลังกายที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดระเบียบร่างกาย และลมหายใจที่เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหว (Breathing) และ การควบคุมแกนกลางลำตัว (Core Stability) โดยใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และหลังเป็นหลัก เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น ประโยชน์ของพิลาทิศนั้นมีงานวิจัยพบว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยลดการอาการปวดหลังและช่วยเพิ่มการใช้งานของหลังให้ดีขึ้นในกลุ่มคนไข้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังแบบไม่ทราบสาเหตุ (Non- specific low back pain) นอกจากนี้พิลาทิสยังช่วยในเรื่องของการปรับสมดุลของอารมณ์ ฝึกสมาธิ และทำให้จิตใจสงบ

พิลาทิส นอกจากช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายแล้ว ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และความทนทานของกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มความสามารถในการทรงตัว และเป็นการออกกำลังกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้น้อยกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ ทำให้พิลาทิสได้รับความนิยมในหมู่นักเต้น นักกีฬา ซึ่งเป็นอาชีพที่อาศัยความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของร่างกายในทุก ๆ ส่วน และค่อย ๆ ขยายความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่นักแสดง ไอดอล ที่ต้องดูแลร่างกายของซึ่งถูกถ่ายทอดและนำเสนอผ่านซีรีส์เกาหลีเรื่อง Record of youth เส้นทางดาว ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิทธิพลและนำเทรนการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสจนขยายเป็นวงกว้างและแพร่หลายอย่างมากในปัจจุบันโดยในหลาย ๆ ประเทศ พิลาทิสยังเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย และทุก ๆ ช่วงอายุ ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยสูงอายุและผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์สามารถออกกำลังกายด้วยการพิลาทิสได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของผู้เชี่ยวชาญและเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับตนเอง

ประเภทของพิลาทิส

การออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิส ในปัจจุบันนิยมเล่นด้วยกัน 2 วิธี คือการเล่นโดยไม่ใช้อุปกรณ์ และ การเล่นโดยใช้อุปกรณ์ โดยแต่ละประเภทมีความเหมาะสมและ

พิลาทิสไม่ใช้อุปกรณ์

กร งเทพประก นช ว ต ม งม นให คนออกกำล งกาย

ในการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสที่ไม่ใช้อุปกรณ์ ส่วนมากจะใช้เสื่อซึ่งเสื่อที่ใช้สำหรับการเล่นพิลาทิสนั้นจะไม่เหมือนเสื่อที่ใช้สำหรับการเล่นโยคะ เพราะเสื่อสำหรับการเล่นพิลาทิสจะมีขนาดที่ใหญ่กว่า หนาแน่นกว่า และมักจะมีพื้นผิวที่นุ่มกว่าเสื่อโยคะ โดยท่าทางในการเล่นนั้นคล้ายกับการเล่นโยคะ แต่เน้นการออกกำลังกายที่บริเวณแกนกลางลำตัวและหน้าท้อง ซึ่งข้อดีของการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสไม่ใช้อุปกรณ์ สามารถทำได้ที่บ้าน ใช้เพียงแค่เสื่อสำหรับพิลาทิสเท่านั้น

พิลาทิสที่ใช้อุปกรณ์

กร งเทพประก นช ว ต ม งม นให คนออกกำล งกาย

ในการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสที่ใช้อุปกรณ์ส่วนใหญ่มักพบในฟิตเนสหรือสตูดิโอสำหรับการฝึกเล่นพิลาทิส เนื่องจากเป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ส่วนมากนิยมใช้ Ball ,Flex Band, Fitness Circle, เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer), คาดิลแลค (Cadillac), เก้าอี้วุนดา (Wunda Chair) และเครื่อง V2Max และเป็นการออกกำลังกายที่ต้านแรงโน้มถ่วง นอกจากนี้การออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิสสามารถเล่นคู่กับผ้าที่ห้อยลงมาจากที่สูง โดยใช้ผ้าเป็นตัวยึดในการทำท่าต่าง ๆ การออกกำลังกายในลักษณะนี้นำเอาการออกกำลังกายในแบบต่าง ๆ เข้ามาผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็นโยคะ พิลาทิส และยิมนาสติก

ประโยชน์ที่ได้รับจากการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิส

  • ช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อในส่วนแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อหน้าท้อง รวมทั้งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
  • ช่วยทั้งในเรื่องของการเคลื่อนไหวของร่างกาย และความมั่นคงของร่างกายให้สามารถเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นกระฉับกระเฉง
  • มีการฝึกลมหายใจร่วมกับการเคลื่อนไหวทำให้ช่วยเรื่องสมาธิ การผ่อนคลายและลดความเครียด
  • เพิ่มความยืดหยุ่นในร่างกายได้เกือบทั้งตัวช่วยในคนที่ความยืดหยุ่นต่ำ
  • ช่วยลดอาการเมื่อยล้า เพิ่มการเคลื่อนไหว และลดปวดในกลุ่มโรคหลายอย่าง เช่น โรคปวดคอและปวดหลังเรื้อรัง โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด (Ankylosing spondylitis) โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)

ข้อควรระวังสำหรับการออกกำลังกายด้วยการเล่นพิลาทิส

พิลาทิส เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับทุกเพศ และทุกวัย ไม่ว่าเพศหญิง เพศชาย หรือผู้สูงอายุ และพิลาทิสนั้นยังเป็นการออกกำลังกายที่มีความเสี่ยงจากการบาดเจ็บน้อยกว่าการออกกำลังกายประเภทอื่น และมีการปรับท่าการออกกำลังกายให้เหมาะสมสำหรับช่วงวัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และผู้สูงอายุ ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายของผู้เล่น โดยเฉพาะพิลาทิสสำหรับผู้เล่นสูงอายุ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่นพิลาทิสที่มีอายุเยอะคือข้อควรระวังในเรื่องของกระดูก เนื่องจากกระดูกของผู้สูงอายุมีความเปราะบางและแตกหักได้ง่าย หากเริ่มเล่นพิลาทิสสิ่งที่ผู้เล่นสูงอายุควรทำคือการตรวจความหนาแน่นของกระดูก โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน