มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับมอบเงินบริจาค 80 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารบริการผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เตรียมเปิดใช้ภายในปี 2563 Show
วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ.2562 ศาสตราจารย์พิเศษนรนิติ เศรษฐบุตร นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.นริศ ชัยสูตร ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และรองศาสตราจารย์ นายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รับมอบเงินบริจาคจำนวน 80 ล้านบาท ให้แก่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารบริการผู้ป่วยนอกด้านรังสีวิทยา และห้องปฏิบัติการให้แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยของโรงพยาบาล จากคุณชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานคณะกรรมการบริษัท เมืองไทยแคปปิตอล จำกัด และกรรมการในสถาบันวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 7 (วพน.7) พร้อมด้วยคุณชวน หลีกภัย คุณชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. คุณพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ Exim Bank คุณฐนนท์ศรณ์ เลิศฤทธิ์ศิริกุล คุณคชาชาญ ช้างมงคล และสมาชิก วพน.7 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องประชุมสัญญา ธรรมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ทั้งนี้ อาคารบริการผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เป็นอาคารอเนกประสงค์ สูง 4 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 5,000 ตารางเมตร ให้บริการทางด้านรังสีวิทยา ได้แก่ การเอ็กซเรย์ การตรวจด้วยเครื่อง MRI และ CT SCAN รวมทั้งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยจะเปิดใช้ภายในปี พ.ศ. 2563 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย เป็นสมาชิกของเครือข่าย LAOTSE ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียและยุโรป ตามกรอบความร่วมมืออาเซม โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาบันการศึกษานานาชาติที่ดีที่สุดในโลกเมื่อปี พ.ศ. 2558 โดย U-Multirank ขณะเดียวกันยังได้รับการประเมินจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยให้เป็นสถาบันที่มีผลงานวิจัยเป็นเลิศ ประวัติ[แก้]เมื่อปี พ.ศ. 2500 องค์การสนธิสัญญาป้องกันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มีแนวคิดที่จะก่อตั้งโรงเรียนวิศวกรรมขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกองค์กรซีโต้ ทั้งประเทศออสเตรเลีย ประเทศฝรั่งเศส ประเทศนิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐ รวมถึงประเทศสมาชิกในภูมิภาค ได้แก่ ประเทศปากีสถาน ประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทย โดยแนวคิดนี้ได้รับการอนุมัติในการประชุมที่กรุงมะนิลาในปีถัดมา จนกระทั่งมีการประกาศก่อตั้งโรงเรียนวิศวกรรม สปอ. ขึ้นภายหลังจากการประชุมที่กรุงเวลลิงตันในปี พ.ศ. 2502 ต่อมาโรงเรียนวิศวกรรม สปอ. ได้เปลี่ยนสถานะเป็นสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียในปี พ.ศ. 2510 เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญได้ประกาศให้กฎบัตรสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียมีผลตามกฎหมาย ซึ่งทำให้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียเป็นสถาบันอิสระและไม่ขึ้นตรงกับหน่วยงานใด เมื่อปี พ.ศ. 2532 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้รับรางวัลรามอน แมกไซไซ ในสาขาสันติภาพและความเข้าใจระหว่างประเทศ จากการพัฒนาทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ โดยเฉพาะวิศวกรและผู้จัดการ ในทวีปเอเชีย โดยมีบรรยากาศการเรียนการสอนที่ดีเยี่ยมและมีความเป็นมิตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้ลงบันทึกความร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามในการเปิดศูนย์เวียดนามที่กรุงฮานอย ทำให้หลังจากนั้นรัฐบาลเวียดนามได้มอบรางวัลเหรียญมิตรภาพให้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียในปี พ.ศ. 2549 ซึ่งถือเป็นรางวัลที่สูงที่สุดที่มีการมอบในระดับระหว่างประเทศ และมีการเสนอไปยังสถาบันระหว่างประเทศที่กระจายการฝึกทักษะทรัพยากรบุคคลแก่เวียดนาม และการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศอื่น จากการที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียเป็นสถาบันการศึกษาที่มีสถานะแตกต่างจากสถาบันการศึกษาอื่นในประเทศไทย เนื่องจากมีสถานะเป็นองค์การระหว่างประเทศ จึงไม่ได้เป็นทั้งสถาบันของรัฐบาลและเอกชน แต่มีสถานะเทียบเท่ากับสถาบันอิสระระหว่างประเทศ โดยเมื่อปี พ.ศ. 2555 ได้เกิดประเด็นเกี่ยวกับการไม่รับรองในระบบราชการไทยขึ้นจากการที่ไม่ได้เป็นสถาบันการศึกษาเอกชน แต่ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขในเวลาต่อมา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) ได้ให้การรับรองคุณวุฒิจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียจัดอยู่ในการรับรองคุณวุฒิต่างประเทศ ทำเนียบอธิการบดี[แก้]ที่ ชื่อ การอยู่ในตำแหน่ง เริ่ม สิ้นสุด 1 การศึกษา[แก้]สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียมีการจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก โดยทุกหลักสูตรของสถาบันจะใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด เนื่องจากเป็นสถาบันที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายประเทศ ทำให้นักศึกษาและบุคลากรของสถาบันส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงอย่างมากในกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และการจัดการข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการจำแนกสำนักวิชาออกเป็น 3 คณะ ได้แก่ คณะวิศวกรรมและเทคโนโลยี คณะสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา และคณะการจัดการ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี[แก้]คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี (School of Engineering and Technology) ประกอบด้วยภาควิชาและสาขาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
คณะสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา[แก้]คณะสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา (School of Environment, Resources, and Development) ประกอบด้วยภาควิชาและสาขาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
คณะการจัดการ[แก้]คณะการจัดการ (School of Management) ประกอบด้วยสาขาวิชาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
หน่วยงานอื่น[แก้]
ที่ตั้งและวิทยาเขต[แก้]ระยะแรกของการก่อตั้ง บัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ สปอ. (ชื่อของสถาบันในขณะนั้น) ตั้งอยู่ในพื้นที่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาได้รับการอนุมัติให้ใช้พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐบาลไทย อยู่บริเวณติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในปัจจุบัน จึงได้พัฒนาเป็นที่ตั้งจนถึงทุกวันนี้ ด้านหน้าของสถาบันฯ เป็นพื้นที่สีเขียวเป็นแนวกว้าง เดิมได้ออกแบบเพื่อเป็นพื้นที่ถอยร่นใช้กันเสียงและมลภาวะจากภายนอก และใช้เป็นพื้นที่สนามกอล์ฟ 9 หลุมสำหรับนักศึกษาและบุคลากรของสถาบันฯ จนเมื่อปี พ.ศ. 2546 ได้มีโครงการเปลี่ยนพื้นที่สนามกอล์ฟเป็นพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์เปิดให้บุคคลภายนอกได้ใช้ เป็นหนึ่งในพื้นที่สีเขียวที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานี นอกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว พื้นที่ติดกับสถาบันยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำคัญอย่าง อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ นอกจากศูนย์หลักที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยแล้ว ยังมีศูนย์เอไอทีเวียดนามที่ตั้งกระจายอยู่ตามเมืองสำคัญในประเทศเวียดนาม ได้แก่ กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ซิตี และเกิ่นเทอ ซึ่งเป็นศูนย์หลักในประเทศเวียดนามทั้ง 3 แห่ง และยังมีสำนักงานย่อยกระจายในเมืองต่างๆอีก 4 แห่ง โดยศูนย์เอไอทีเวียดนามนั้นก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ภายใต้ข้อตกลงร่วมกับรัฐบาลเวียดนาม ทำให้เป็นสถาบันการศึกษานานาชาติแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในประเทศเวียดนาม ชีวิตนักศึกษา[แก้]ปัจจุบันสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียมีการเปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก โดยจากรายงานประจำปี พ.ศ. 2559 พบว่า สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียมีนักศึกษาเข้าใหม่มาจากประเทศต่างๆในทุกปี สามารถแบ่งออกเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร้อยละ 60 เอเชียใต้และเอเชียตะวันตก ร้อยละ 27 เอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง ร้อยละ 7 ทวีปยุโรป ร้อยละ 4 และทวีปแอฟริกา ร้อยละ 2 รวมมีนักศึกษารวมทุกระดับจำนวน 2,192 คน ที่มาจาก 49 ประเทศทั่วโลก เป็นนักศึกษาไทยเพียงร้อยละ 30 ส่วนเพศของนักศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศชายถึงร้อยละ 65 และเป็นเพศหญิงร้อยละ 35 นักศึกษาในสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี จึงได้รับทุนการศึกษาที่สถาบัน โดยแบ่งออกเป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนให้เปล่าแบบเต็มจำนวน เช่น ทุนรัฐบาลไทย ทุนญี่ปุ่น ฯลฯ ร้อยละ 46 และมีเพียงนักศึกษาร้อยละ 20 เท่านั้น ที่ออกค่าใช้จ่ายในการศึกษาเองทั้งหมด ส่วนที่เหลือเป็นนักศึกษาที่ได้รับทุนบางส่วน โดยอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นนักเรียนทุนคือการที่สถาบันกำหนดค่าเล่าเรียนไว้ค่อนข้างสูง อันดับและมาตรฐานมหาวิทยาลัย[แก้]การประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย[แก้]สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้มีการประกาศผลการประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2557 โดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้รับการประเมินให้เป็นสถาบันที่มีจำนวนหน่วยงานได้รับการประเมินในระดับ "ดีเยี่ยม" (TRF Index 5.0) มากที่สุดในสถาบันระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งสาขาที่ได้รับการประเมินในระดับดีเยี่ยม ได้แก่ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ สาขาวิชาเทคโนโลยีพลังงาน สาขาวิชาเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม และสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดอันดับโดยเว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics)[แก้]การจัดอันดับโดยเว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม โดยเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย อยู่ในอันดับที่ 1,104 ของโลก อันดับที่ 35 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 13 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย การจัดอันดับโดย U-Multirank[แก้]สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้การจัดอันดับมหาวิทยาลัยนานาชาติยอดเยี่ยมของโลกจาก U-Multirank 2015 International Ranking ในฐานะมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นความเป็นนานาชาติเมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยเป็นสถาบันการศึกษานานาชาติเพียงแห่งเดียวในทวีปเอเชียที่ได้รับการจัดระดับในระดับ A ครบทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การเรียนการสอน การวิจัย การถ่ายทอดองค์ความรู้ การมุ่งเน้นความเป็นนานาชาติ และความเกี่ยวข้องในระดับภูมิภาค นอกจากนี้ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียยังได้รับการให้คะแนนระดับ A ถึง 11 ตัวชี้วัด จากทั้งหมด 31 ตัวชี้วัด ซึ่ง U-Multirank ให้การยกย่องว่าเป็นสถาบันที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพดีและมีความกว้างขวาง โดยเป็นสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 15 ของทวีปเอเชีย ในการวัดระดับในภาพรวม การเดินทาง[แก้]นักศึกษา บุคลากร และบุคคลทั่วไปสามารถเดินทางมายังสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้หลายเส้นทาง เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่มีพื้นที่ติดต่อกัน โดยสามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์โดยผ่านถนนพหลโยธิน หรือ ทางพิเศษอุดรรัถยา และ ถนนกาญจนาภิเษก โดยผ่านถนนเชียงราก/ถนนคลองหลวง รถเมล์ สาย 29 39 และ 510 รถตู้โดยสารร่วม ขสมก. สาย ต.85 จาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ สาย ต.118 จาก รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิต/รถไฟฟ้ามหานคร สถานีสวนจตุจักร รถตู้โดยสารปรับอากาศท่าพระจันทร์–ศูนย์รังสิต และรถตู้โดยสารปรับอากาศจากฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต รวมทั้งสามารถเดินทางโดยรถไฟ มาลงที่สถานีรถไฟมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้อีกทางหนึ่ง สำหรับสถานีรถไฟมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้างขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 โดยตั้งอยู่หลังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ปัจจุบันมีขบวนรถชานเมืองและธรรมดา หยุดรับส่งผู้โดยสาร 11 ขบวนต่อวัน บุคคลที่มีชื่อเสียงจากสถาบัน[แก้]ชาวไทย[แก้]
ชาวต่างประเทศ[แก้]
อ้างอิง[แก้]
|