Iphone restore เป น ios เด มได ม ย

หลังจากที่แอปเปิล (Apple) เปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 17 ในงานประชุมนักพัฒนาระดับโลก WWDC (Worldwide Developer Conference 2023) ที่ผ่านมา วันที่ 18 กันยายนนี้แอปเปิลก็ได้เตรียมปล่อยให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถอัปเดตได้ วันนี้ Thai PBS Sci & Tech ได้รวบรวม 5 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนอัปเดต iOS 17 เพื่อให้ iPhone ของเราสามารถใช้งานได้ตามปกติ

1. เครื่องของเรารองรับ iOS 17 หรือเปล่า ?

ก่อนอื่นต้องตรวจสอบก่อนว่า iPhone ของเรานั้นเป็นรุ่นไหน รองรับ iOS 17 หรือเปล่า โดยที่เราสามารถเช็กรายการของรุ่น iPhone ที่รองรับได้จากเว็บไซต์ของแอปเปิล หรือจากที่เรารวบรวมเอาไว้ดังนี้

- iPhone 15 - iPhone 15 Plus - iPhone 15 Pro - iPhone 15 Pro Max - iPhone 14 - iPhone 14 Plus - iPhone 14 Pro - iPhone 14 Pro Max - iPhone 13 - iPhone 13 mini - iPhone 13 Pro - iPhone 13 Pro Max - iPhone 12 - iPhone 12 mini - iPhone 12 Pro - iPhone 12 Pro Max - iPhone 11 - iPhone 11 Pro - iPhone 11 Pro Max - iPhone XS - iPhone XS Max - iPhone XR - iPhone SE รุ่นที่ 2 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ใครที่ใช้ iPhone รุ่นเก่ากว่านี้แอปเปิลอาจปล่อยให้อัปเดต หากมีการตรวจพบช่องโหว่ของระบบที่ส่งผลต่อความปลอดภัย แต่จะเป็นระบบปฏิบัติการ iOS 16 เท่านั้น ไม่สามารถอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ได้

2. ฟีเจอร์ใหม่มีอะไรบ้าง

- iOS 17 นั้นมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่มากมาย ส่วนมากจะเป็นการปรับปรุงการใช้งานให้สะดวกมากขึ้น เช่น

- การปรับปรุงระบบการส่งไฟล์ AirDrop ให้สามารถใช้งานได้ด้วยการเอา iPhone สองเครื่องมาแตะกัน ที่จะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนไฟล์ รายชื่อผู้ติดต่อ หรืออื่น ๆ ได้

- มีการปรับปรุงหน้าจอการแสดงผลรายชื่อผู้ติดต่อให้เราสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ เช่น สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลเมื่อมีสายเข้าได้

- มีฟีเจอร์ StandBy ที่ทำให้ iPhone สามารถแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ หากเชื่อมต่อกับที่ตั้งที่เป็น MagSafe

- ปรับปรุงฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

- ปรับปรุงการแสดงผลให้มีความสวยงามและลื่นไหลมากขึ้น

3. การใช้งานร่วมกับแอปฯ และอุปกรณ์อื่น ๆ

สิ่งสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการบน iPhone ก็คือ ต้องตรวจสอบว่าการทำงานของ iOS เวอร์ชันใหม่นั้น รองรับการทำงานที่จำเป็นของเราหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วนักพัฒนาซอฟต์แวร์ก็มีหน้าที่ที่จะต้องปรับปรุงแอปพลิเคชันของตนให้รองรับการทำงานกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ๆ อยู่เสมอ แต่ก็อาจมีบางกรณีที่แอปฯ ที่เราจำเป็นต้องใช้จริง ๆ อาจยังไม่พร้อมสำหรับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่

นอกจากนี้ เพื่อให้เราสามารถใช้งานคุณสมบัติใหม่ ๆ บน iOS เวอร์ชันใหม่ได้อย่างเต็มที่ เราควรอัปเดตอุปกรณ์อื่น ๆ ให้รองรับระบบปฏิบัติการในเวอร์ชันใหม่ด้วยเช่นกัน เช่น iPadOS สำหรับ iPad หรือ watchOS สำหรับผู้ใช้งานนาฬิกา Apple Watch เพื่อให้อุปกรณ์ทุกชิ้นทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

4. วิธีการอัปเดต

ในการอัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชันใหม่ ให้เข้าไปที่การตั้งค่า แล้วเลื่อนลงมาที่เมนูทั่วไป จากนั้นเลือกเมนูซอฟต์แวร์อัปเดต แล้วกดปุ่มอัปเดต

ระบบจะแนะนำให้เราเชื่อมต่อ iPhone เข้ากับอุปกรณ์ชาร์จ และใช้การเชื่อมต่อผ่านไวไฟ (WiFi) เพื่อให้การอัปเดตเป็นไปได้อย่างราบรื่น และไม่เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงขึ้นระหว่างอัปเดต เช่น แบตฯ หมดระหว่างการอัปเดต ซึ่งอาจมีความเสี่ยงในการทำให้ iPhone ของเราไม่สามารถใช้งานได้

นอกจากนี้ เราควรสำรองข้อมูลสำคัญ (Backup) เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย ซึ่งกรณีนี้แม้จะเกิดขึ้นได้ยากเนื่องจากโดยมากแล้วข้อมูลจะถูกสำรองเอาไว้ในระบบคลาวด์ (Cloud) แต่ก็สามารถป้องกันอีกชั้นได้ด้วยการสำรองข้อมูลที่สำคัญจริง ๆ

5. หลังจากอัปเดตควรทำอะไรบ้าง

หลังจากที่อัปเดต iPhone ของเรา ให้เป็น iOS เวอร์ชันล่าสุดแล้ว สิ่งที่เราต้องทำก็คือตรวจสอบความเรียบร้อยว่าแอปฯ ต่าง ๆ นั้นสามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หากพบข้อผิดพลาด สามารถแจ้งไปยังผู้พัฒนาเพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุงได้ นอกจากนี้ เรายังควรเช็กข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น รูปภาพ ว่าสามารถแสดงผลได้ตามปกติหรือไม่

หลังจากนั้นเราก็จะสามารถใช้งาน iPhone บนระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ได้ตามปกติ ซึ่งจะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานของเราดียิ่งขึ้น และที่สำคัญการหมั่นอัปเดตระบบปฏิบัติการให้เป็นรุ่นใหม่อยู่เสมอ ยังช่วยเสริมสร้างความปลอดภัย และอุดช่องโหว่ที่เป็นอันตรายได้ด้วยเช่นกัน

เราได้สร้างไกด์ไลน์ที่ง่ายสำหรับการเข้าใจให้กับคุณในการดาวน์เกรด ios 17/17 public เบต้ากลับไป iOS 16 เอาไว้ในบทความนี้ ไกด์นี้จะช่วยให้คุณทราบถึงวิธีและกระบวนการดาวน์เกรด ซึ่งคุณจะทำได้เองง่ายๆ โดยไม่ต้องปวดหัว และเพลิดเพลินไปกับการใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ที่ปราศจากข้อบกพร่อง บัก และ ความเสถียรของระบบ และสามารถดาวน์เกรดกลับไปใช้ระบบที่เสถียรกว่าได้โดยการใช้ซอฟต์แวร์เบต้าที่ออกโดยแอปเปิ้ลอย่างเป็นทางการ ลองอ่านบทความนี้ต่อไปดูเพื่อทราบถึงวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วในการดาวน์เกรด iOS!

ส่วนที่ 1: ฉันสามารถดาวน์เกรด ios 17/17 publicเบต้ากลับไป ios 16 ได้หรือไม่?

มันเป็นไปได้อย่างแน่นอนในการดาวน์เกรด ios บนพื้นฐานอุปกรณ์ของระบบ iOS คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการใช้งานแอป เช่น iTunes หรือ Reiboot เพื่อดาวน์เกรดอุปกรณ์ iPhone และ iPad

ขั้นตอนแรกก่อนทำการดาวน์เกรด คุณต้องสำรองข้อมูลอุปกรณ์ของคุณก่อน (วิธีการสำรองข้อมูล iPhone อื่นๆ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่ออ่านบทความนี้)ด้านล่างคือวิธีการสำรองข้อมูล iphone ผ่าน itunes:

Restore iPhone ใช้เวลานานไหม

รักษาการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ไว้ตลอดเวลา แล้วรอจนกว่าแถบแสดงความคืบหน้าจะปรากฏและดำเนินการจนเสร็จ แถบแสดงความคืบหน้าอาจใช้เวลาดำเนินการตั้งแต่สองสามนาทีไปจนถึงหนึ่งชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดข้อมูลสำรองและความเร็วของเครือข่าย หากคุณยกเลิกการเชื่อมต่อ Wi-Fi เร็วเกินไป แถบแสดงความคืบหน้าจะหยุดชั่วคราวจนกว่าคุณจะเชื่อมต่ออีก ...

ไฟล์ที่ลบไปแล้ว อยู่ไหน iOS

เปิดแอปไฟล์ ใต้ตําแหน่งที่ตั้งในแถบด้านข้าง ให้แตะที่ลบล่าสุด หากคุณไม่เห็นแถบด้านข้าง ให้แตะปุ่มแสดงแถบด้านข้าง แตะเลือก เลือกไฟล์ที่คุณต้องการเก็บไว้ แล้วแตะกู้คืน หากต้องการกู้คืนไฟล์เดียว คุณยังสามารถแตะที่ไฟล์ค้างไว้ จากนั้นแตะกู้คืนได้เช่นกัน

ปลดล็อค Apple ID กี่บาท

สำหรับใครที่ต้องการทราบว่าปลดล็อคไอโฟน 6 ราคาเท่าไหร่ จะเริ่มต้นอยู่ที่ 3,300 บาท ส่วนปลดล็อคไอโฟน 7 ราคาเท่าไหร่ จะเริ่มต้นอยู่ที่ 4,000-4,700 บาท iPhone 8: 5,000 บาท/iPhone 8+ :5,790 บาท iPhone X: 5,790 บาท/iPhone Xs Xsmax Xr :6,590 บาท

Factory Reset iPhone ยังไง

วิธีรีเซ็ต iPhone, iPad หรือ iPod touch.

สำรองข้อมูลอุปกรณ์ของคุณ ... .

แตะการตั้งค่า > ทั่วไป > ถ่ายโอนหรือรีเซ็ต [อุปกรณ์] ... .

หากระบบถาม ให้ป้อนรหัสหรือรหัสผ่าน Apple ID ของคุณ ... .

ยืนยันว่าคุณต้องการลบข้อมูลอุปกรณ์ของคุณ ... .

รอให้อุปกรณ์ของคุณลบข้อมูล.