PCIe has been widely adopted in the electronics industry since its first debut in 2003 (PCIe 1.0 standard release) for wide breach of applications, from Data Center Server, Networking, to Mobile, AI/ML, Automotive, IoT, and many others…. It’s a versatile, high-performance, robust, mature interconnect standard with full “backward compatibility” (e.g., a PCIe 3.0 device can still function well in a PCIe 4.0 system) which enables a solid and strong PCIe eco-system in the industry. While the market, so as the users, are enjoying the systems, e.g., desktop/laptop, powered (or to be more specific: “bridged”) by PCIe 3.0 since 2010, the industry is pushing hard for the PCIe 4.0 eco-system enablement. Earlier this year, AMD announced it X570 chipset would support the PCIe 4.0 interface and Phison also introduced the world’s first PCIe 4.0 SSD. Show On the standard evolution front, the official PCIe 5.0 came out in May 2019, doubling the data rate to 32GT/s from 16GT/s in PCIe 4.0. The PCIe 6.0 standard will be released in 2021 based on the announcement made by PCI-SIG in June’19 with the goal to further double the data rate to 64GT/s with incorporating the PAM4 coding. PCIe Protocol Evolution Having said that, is the latest generation of PCIe always desired? My answer would be positive. Just like car maker/enthusiast has kept pursuing faster car in the history, there is no doubt that these speed enhancements/upgrades in the electronic world certainly provide a tremendous benefit for especially those applications craving the most throughput, such as Data center, HPC, Networking, Cloud and AI applications. But, does every application have to opt for the fastest speed (bandwidth)? My view would be leaning toward “Not really”. Just like we don’t need a 3-second sport car (meaning 0-60mph acceleration < 3s) for daily commute though it would certainly spice some driving fun on the road, but it may not be "the best fit" for most of commuters. There are applications still well satisfied with PCIe 3.0 (or even older PCIe 2.0) for its best performance and cost balance. Those applications include, but not limit to, IoT/consumer, Edge AI, SSD (non-enterprise),…etc. They typically need to make trade-off in between the cost, power consumption (especially battery powered), flexibility on changing product features, and time-to-market (TTM). To address such type of market needs, Cadence also offers an PPA (Performance, Power, Area) optimized PCIe 3.0 solution in addition to its high-performance PCIe 4.0 product line. Cadence PCIe 3.0 PHY Solution (with Multi-Protocol Multi-Link feature)  With leveraging the multi-protocol SerDes implementation, the same Cadence PHY IP support multi-protocol and multi-link operation. Such a multi-protocol enabled PHY gives the SoC developers the optimum flexibility to integrate multiple commonly used interface protocols (e.g., PCIe 3.0 + USB 3.0) with using only a single PHY design. This would largely save the product development time (faster TTM), reduce the risk of using multiple different PHY instances (for different protocol needs), and with the configurability to enable different product features/protocols. Some people might say PCIe 3.0 era has gone. I was not quite yet being convinced as I still see its potential to shine a lot of market use cases. What do you think? HP ProLiant ML350p Generation 8 states that "The ML350p Gen8 supports up to 3 graphic cards. HP Graphic Card Support Kit (660582-B21) will be required per Graphic Card." And we are not sure if Titan card is supported on this server and with the Graphic Card Support Kit. Here is the PCI-Express 3.0 technology and optimizations on HP Z820 Workstation pdf file. But was unable to find similar PCIe 3.0 information for ML350p Gen8. Just a suggestion, try if possible. Install second processor and try the card in Slot 6 or 8. Try updating the BIOS. Good Luck. Thank You! I am a HP employee. I work for HPE. [Any personal opinions expressed are mine, and not official statements on behalf of Hewlett Packard Enterprise] ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา PCIe นั้นเป็นอินเทอร์เฟซมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงความเร็วสูงกับเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ PCIe 4.0 รุ่นมาตรฐานเป็นอินเทอร์เฟซ PCIe รุ่นที่สี่ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 อย่างไรก็ตาม เราไม่พบ SSD หรือกราฟิกการ์ดที่ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้จนกระทั่งงาน Computex 2019 ปัจจุบัน PCIe 4.0 ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่มีต่อนวัตกรรมทางเทคโนโลยีนี้ ไม่ว่าจะเป็น SSD, GPU, เมนบอร์ด หรือการ์ดต่อพ่วงประสิทธิภาพสูงอื่น ๆ แต่ PCIe Gen 4 คืออะไรกันแน่ เราจะมาพูดถึงรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับอินเทอร์เฟซนี้กันต่อจากนี้ PCIe Gen 4 คืออะไรPCIe Gen 4 คือมาตรฐาน PCI Express รุ่นที่สี่ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด โดย PCIe Gen 4 นั้นเป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก PCIe Gen 3 และถือเป็น PCIe ที่เร็วที่สุดซึ่งมีวางจำหน่ายในตลาดปัจจุบัน PCIe Gen 4 ทำอะไรได้บ้างPCIe Gen 4 ช่วยให้ระบบสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ PCIe ประสิทธิภาพสูง เช่น GPU และ PCIe NVMe SSDs. เพราะเหตุใด PCIe Gen 4 ถึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเทคโนโลยี PCIe จำเป็นต้องพัฒนาไปข้างหน้าเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับบัสถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงซึ่งรองรับการประยุกต์ใช้และปริมาณงานของผู้ใช้ที่ต้องใช้ทรัพยากรในระดับที่สูงขึ้น PCIe Gen 3 และ PCIe Gen 4 แตกต่างกันอย่างไรPCIe Gen 4 รองรับข้อมูลได้มากเป็นสองเท่าของ PCIe Gen 3 ทำให้อุปกรณ์ PCIe Gen 4 ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็วกว่ามาก PCIe Gen 3 ทำงานที่ 8 Gt/s (กิกะทรานสเฟอร์ต่อวินาที) หรือประมาณ 1 Gb/s ต่อช่องสัญญาณ PCIe หนึ่งช่อง ส่วน PCIe Gen 4 ทำงานที่ 16 GT/s หรือประมาณ 2 GB/s (กิกะไบต์ต่อวินาที) ต่อช่องสัญญาณ PCIe หนึ่งช่อง แบนด์วิธสูงสุดสำหรับ PCIe Gen 4 คือเท่าใดเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับแบนด์วิธสูงสุดของอุปกรณ์ PCIe Gen 4 คุณจะต้องทราบจำนวนช่องสัญญาณ PCIe ที่เทคโนโลยีนี้รองรับด้วย อุปกรณ์ PCIe จะใช้ “ช่องสัญญาณ” เพื่อส่งและรับข้อมูล ยิ่งอุปกรณ์ PCIe มีช่องสัญญาณมากเท่าไร ก็จะยิ่งรองรับแบนด์วิธได้มากขึ้นเท่านั้น จำนวนช่องสัญญาณที่อุปกรณ์ PCIe รองรับโดยปกติจะแสดงด้วยข้อความ “x4” หมายถึง 4 ช่องสัญญาณ และ “x8” หมายถึง 8 ช่องสัญญาณ เป็นต้น x1x2x4x8x16 แบนด์วิธของ PCIe Gen 3 1 GB/s 2 GB/s 4 GB/s 8 GB/s 16 GB/s แบนด์วิธของ PCIe Gen 4 2 GB/s 4 GB/s 8 GB/s 16 GB/s 32 GB/s PCIe Gen 4 รองรับเวอร์ชันก่อนหน้าหรือไม่PCIe Gen 4 รองรับเวอร์ชันก่อนหน้า ดังนั้น อุปกรณ์ PCIe Gen 4 ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เฟซ PCIe Gen 3 จึงสามารถทำงานได้ตามปกติที่ความเร็วระดับ PCIe Gen 3 ซึ่งหมายความว่าหากคุณซื้อ PCIe Gen 4 NVMe SSD คุณจะสามารถติดตั้งใช้งานได้ทันทีกับระบบที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าระบบดังกล่าวจะไม่รองรับ PCIe Gen 4 ก็ตาม หากคุณอัปเดตเป็นระบบ PCIe Gen 4 ในอนาคต คุณก็จะสามารถใช้งาน PCIe Gen 4 NVMe SSD ของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ PCIe Gen 4 จะเปิดตัวเมื่อใดในขณะนี้ PCIe Gen 4 นั้นอยู่ระหว่างการนำไปปรับใช้ในอุตสาหกรรม โดยผลิตภัณฑ์ PCIe Gen 4 หลายตัวก็มีวางจำหน่ายแล้วในปัจจุบัน แต่มีเพียงผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ เท่านั้นที่จะรองรับ PCIe Gen 4 PCIe Gen 4 จะกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมต่อไป จะหาอุปกรณ์ PCIe Gen 4 ได้จากที่ไหนCPU, เมนบอร์ด และอุปกรณ์ PCIe ของคุณจะต้องรองรับ PCIe Gen 4 จึงจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี PCIe Gen 4 ได้ ในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปใดบ้างที่รองรับ PCIe Gen 4Some desktop CPUs and motherboards which support PCIe Gen 4 and are currently shipping include:
PCIe NVMe SSD คืออะไรPCIe NVMe SSD คือไดรฟ์ Solid State ที่ใช้บัส PCIe ความเร็วสูงสำหรับถ่ายโอนข้อมูล รวมทั้งโปรโตคอล NVMe (Non-Volatile Memory Express) เพื่อสื่อสารกับระบบโฮสต์ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานกับบัส PCIe จึงรองรับแบนด์วิธได้สูงมากและมีเวลาตอบสนองการทำงานที่เร็วกว่า SATA SSD PCIe Gen 4 ทำให้ PCIe NVMe SSD ทำงานเร็วขึ้นหรือไม่PCIe Gen 3 ไม่สามารถรองรับแบนด์วิธทั้งหมดของ PCIe NVMe SSD ความเร็วสูงได้ ทำให้การทำงานของ SSD เกิดปัญหาคอขวดขึ้น PCIe Gen 4 สามารถแก้ไขปัญหาคอขวดนี้ ทำให้ PCIe NVMe SSD สามารถอ่านและเขียนข้อมูลได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก ฟอร์มแฟคเตอร์ใดที่ PCIe NVMe SSD ใช้PCIe NVMe SSD สามารถทำงานกับฟอร์มแฟคเตอร์แบบต่าง ๆ เช่น การ์ดแอดอิน (AIC), M.2 และ U.2 PCIe NVMe SSD สำหรับไคลเอนท์โดยปกติจะใช้ฟอร์มแฟคเตอร์ M.2 2280 เนื่องจากมีขนาดที่บาง เพื่อให้สามารถติดตั้งกับ PC เดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กได้ PCIe NVMe SSD สำหรับองค์กรขนาดใหญ่จะใช้ฟอร์มแฟคเตอร์สามรูปแบบที่กล่าวมาทั้งหมด โดย U.2 นั้นเป็นที่นิยมมากที่สุดเนื่องจากรองรับการทำงานกับระบบการเชื่อมต่อของเซิร์ฟเวอร์ สรุปแพลตฟอร์ม PCIe 4.0 ช่วยให้รองรับแบนด์วิธการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น SSD ที่ใช้อินเทอร์เฟซ PCIe 4.0 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ต้องรับส่งข้อมูลเป็นจำนวนมาก โดยทำให้สามารถโหลดแอปพลิเคชันและเกมได้รวดเร็วกว่า อีกทั้งในขณะเดียวกันก็ทำให้บูตเครื่องได้เร็วกว่าเดิมด้วย นอกจากนี้ PCIe 4.0 ยังประหยัดพลังงานมากกว่าด้วย อุปกรณ์ของคุณจึงเกิดความร้อนน้อยกว่าและสิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้าน้อยลง การเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่รองรับ PCIe 4.0 ทำให้การตัดสินใจเลือกระหว่าง PCIe 3.0 และ PCIe 4.0 ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป PCIe 4.0 จะกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อนที่คุณจะทันรู้ตัว KingstonIsWithYouการเลือก SSD: เกี่ยวกับ SATA, 2.5 นิ้ว, NVMe, M.2, PCIe, U.2ความเร็วของ PC ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยการอัพเกรดมาใช้ SSD คุณจะเลือกแบบไหนดี PCIe Gen 4 - คืออะไรเราได้อธิบายเกี่ยวกับ PCIe Gen 4 อุปกรณ์ที่มีให้เลือกใช้และความเหมาะสมในการอัพเกรดกันไปแล้ว คำอธิบายเกี่ยวกับสื่อบันทึกข้อมูล NVMeเราได้อธิบายเกี่ยวกับ NVMe และความแตกต่างจากเทคโนโลยีไดรฟ์ข้อมูลก่อนหน้าผ่านวิดีโอนำเสนอที่เข้าใจได้ง่ายกันไปแล้ว PCI Express 2.0 ใส่ 3.0 ได้ไหมPCI-E 2.0 กับ PCI-E 3.0 ใช้การ์ดร่วมกันได้ครับ ไม่มีปัญหา ความเร็วบัสจะวิ่งต่ำสุดของระหว่างสองอุปกรณ์ที่ใช้งานขณะนั้นๆ เช่นเมนบอร์ดมีสล๊อตแรมรองรับความเร็วได้สูงสุด 1,333MHz เราเอาแรมบัส 1,600MHz มาใส่ มันก็จะวิ่งที่ความเร็ว 1,333MHz ครับ (แต่ถ้ามีความรู้เรื่องการโอเวอร์คล๊อก อันน้นอีกเรื่อง) การ์ดจอ PCI Express 4.0 ใส่ 3.0 ได้ไหมPCIe 4.0 คืออะไร หากมองเผินๆ ช่อง PCIe รุ่นใหม่มีลักษณะเหมือนกับ 3.0 อีกทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับรุ่นเก่าและรุ่นใหม่: ไม่เพียงแต่เชื่อมต่อ PCIe 3.0 SSD เข้ากับช่อง PCIe 4.0 ได้ แต่คุณยังสามารถเชื่อมต่อ PCIe 4.0 SSD กับช่อง 3.0 ได้ด้วย Pcix1 x4 x8 x16 คือ ความเร็วของช่อง PCIe ครับ โดยปกติช่องบนบอร์ดทั่วไป จะมีแค่ x1 ช่องสั้น กับ x16 ช่องยาว แต่ช่องยาว อาจไม่ได้วิ่งเต็ม x16 จะวิ่งแค่ x4 x8 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสเปคเมนบอร์ด PCIe X1 ใช้ทำอะไรX1 เป็นเลนที่ใช้ในการรับส่งข้อมูลจำนวน 1 เลน (Lanes) หรือ 1 ช่องทาง (Way) และทำให้ slot PCIe X1 นี้สั้นที่สุด X2 สามารถรับส่งข้อมูลได้จำนวน 2 เลน (Lanes) หรือ 2 ช่องทาง (Way) แต่ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีผลิตออกมาให้ใช้ เนื่องจาก ตัว slot X1 และ X2 นั้น มีความใกล้เคียงกันมาก และความยาวไม่ต่างกันมาก อาจจะทำให้ผู้ใช้งานสับสนได้ |
Pcie 3.0 เส ยบช อง pcei 2.0 ได ม ย
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.cemle Inc.
