ระบบปัญญาประดิษฐ์ ตัวอย่าง

โลกเทคโนโลยีทั้งโลกกำลังถกเถียงกันถึงผลที่ตามมาของปัญญาประดิษฐ์และส่วนที่ AI กำลังจะเล่นในการสร้างอนาคตของเรา ในขณะที่เราอาจคิดว่า AI อยู่ห่างจากอย่างน้อยสองสามปีก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของเรา แต่ความจริงก็ยังคงมีผลกระทบอย่างมากต่อเรา ปัญญาประดิษฐ์นั้นส่งผลต่อการตัดสินใจและไลฟ์สไตล์ของเราทุกวัน ไม่เชื่อฉัน อ่านต่อตามที่เราบอกคุณ 10 ตัวอย่างของปัญญาประดิษฐ์ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ:

ตัวอย่างของปัญญาประดิษฐ์

1. สมาร์ทโฟน

หากคุณกำลังอ่านบทความนี้คุณอาจเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนเป็นส่วนใหญ่ ถ้าฉันต้องเดาฉันจะบอกว่าพวกคุณส่วนใหญ่กำลังอ่านบทความนี้บนสมาร์ทโฟน สมาร์ทโฟนกลายเป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดที่เราเป็นเจ้าของในปัจจุบันและเราใช้มันเกือบตลอดเวลา ถ้าคุณใช้สมาร์ทโฟนคุณกำลังโต้ตอบกับ AI ไม่ว่าคุณจะรู้หรือไม่ ก็ตาม จากคุณสมบัติของ AI ที่ชัดเจนเช่นผู้ช่วยอัจฉริยะในตัวจนถึงไม่ชัดเจนเช่นโหมดแนวตั้งในกล้อง AI จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราทุกวัน

ในความเป็นจริงทั้งสองตัวอย่างที่ฉันให้ไว้ข้างต้นทำให้เราได้เห็นโลกของ AI และมันมีผลต่อชีวิตของเราอย่างไร ประการแรกมีองค์ประกอบ AI ที่ชัดเจนซึ่งส่วนใหญ่ของเรามีความรู้เกี่ยวกับ ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณใช้ผู้ช่วยอัจฉริยะไม่ว่าจะเป็น Google Assistant, Alexa, Siri หรือ Bixby คุณรู้หรือไม่ว่าผู้ช่วยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับ AI อย่างไรก็ตาม เมื่อเราใช้คุณสมบัติเช่นเอฟเฟกต์โหมดแนวตั้งขณะถ่ายภาพเราไม่เคยคิดเลยว่า AI อาจจะอยู่ข้างหลังนั้นเช่น กัน คุณเคยคิดบ้างไหมว่า Google Pixel 2 สามารถถ่ายภาพบุคคลที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้ด้วยเลนส์เพียงตัวเดียวหรือไม่? คำตอบคือปัญญาประดิษฐ์

ตอนนี้ผู้ผลิตมากขึ้นรวมถึง AI ในสมาร์ทโฟนของพวกเขากับผู้ผลิตชิปขนาดใหญ่รวมถึง Qualcomm และ Huawei ผลิตชิปที่มีความสามารถ AI ในตัว การรวมกันของ AI กำลังช่วยนำคุณสมบัติเช่นการตรวจจับฉากองค์ประกอบแบบผสมและความเป็นจริงเสมือนและอื่น ๆ AI กำลังจะมีบทบาทสำคัญยิ่งในปีที่กำลังจะมาถึง เราได้เห็นความสำคัญอย่างมากต่อ AI ด้วยการอัพเดท Android และ iOS ล่าสุด คุณสมบัติต่างๆเช่นแอ็คชั่นแอปพลิเคชันและแบตเตอรี่ที่ปรับเปลี่ยนได้ใน Android Pie และ Siri ช็อตคัตและคำแนะนำของ Siri ใน iOS 12 นั้นเป็นไปได้ด้วย AI ดังนั้นครั้งต่อไปถ้าคุณคิดว่า AI ไม่มีผลต่อคุณให้นำสมาร์ทโฟนของคุณออก

2. รถยนต์อัจฉริยะและโดรน

เมื่อพูดถึง AI แล้วจะไม่มีเทคโนโลยีการแสดงผลที่โดดเด่นและดีไปกว่าสิ่งที่สมาร์ทคาร์และผู้ผลิตโดรนกำลังทำอยู่ เพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการใช้รถยนต์อัตโนมัติเต็มรูปแบบเป็นความฝันอย่างไรก็ตามตอนนี้ บริษัท อย่าง Tesla ได้ก้าวหน้าไปมากจนเรามีรถยนต์กึ่งอัตโนมัติจำนวนมากอยู่บนท้องถนน

บริษัท อย่าง Amazon และ Walmart ลงทุนอย่างหนักในโครงการส่งมอบเสียงพึมพำและมันจะกลายเป็นความจริงเร็วกว่าที่คุณคาดหวัง หากคุณคิดว่ามันไกลเกินจริงโปรดทราบว่ากองทัพทั่วโลกกำลังใช้โปรแกรมโดรนที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว

รถยนต์เทสลาเป็นตัวอย่างสำคัญของการที่ AI ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างไร คุณรู้หรือไม่ว่ารถยนต์เทสลาทั้งหมดเชื่อมต่อกันและสิ่งที่รถของคุณเรียนรู้ใช้ร่วมกันในรถยนต์ทุกคัน ? นั่นหมายความว่าถ้าคุณต้องเลี้ยวซ้ายที่ไม่คาดคิดไว้บนทางแยกรถเทสลาทุกคันจะรู้วิธีที่จะหลบหลีกหลังจากที่พวกเขาได้รับการอัพเดท มีรถยนต์เทสลามากกว่า 50, 000 คันที่ทำงานในสหรัฐอเมริกาเพียงลำพังและมีการตั้งค่าตัวเลขเพื่อเพิ่มทวีคูณในขณะนี้ที่เทสลาได้แก้ไขปัญหาการผลิตที่สำคัญแล้ว ด้วยรถยนต์อิสระที่วิ่งบนถนนของเราและโดรนอัตโนมัติที่บินอยู่เหนือเราคุณจะไม่สามารถปฏิเสธผลกระทบของ AI ต่อชีวิตของเรา

3. โซเชียลมีเดียฟีด

หากคุณคิดว่ารถสมาร์ทจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อตัวคุณเองเพราะพวกเขายังไม่ได้อยู่ในประเทศหรือในเมืองของคุณลองใช้สิ่งที่คุณใช้เป็นประจำทุกวัน แม้ว่าคุณจะอาศัยอยู่ใต้ก้อนหิน แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะทวีตจากใต้ก้อนหิน หาก Twitter ไม่ใช่ตัวเลือกพิษของคุณอาจเป็น Facebook หรือ Instagram หรือ Snapchat หรือแอปโซเชียลมีเดียมากมายที่มีอยู่ ถ้าคุณใช้สื่อโซเชียลการตัดสินใจส่วนใหญ่ของคุณจะได้รับผลกระทบจากปัญญาประดิษฐ์

จากฟีดที่คุณเห็นในไทม์ไลน์ของคุณไปจนถึงการแจ้งเตือนที่คุณได้รับจากแอพเหล่านี้ทุกอย่างจะได้รับการดูแลโดย AI AI จะแสดงพฤติกรรมที่ผ่านมาทั้งหมดของคุณการค้นหาเว็บการโต้ตอบและทุกสิ่งที่คุณทำเมื่อคุณอยู่ในเว็บไซต์เหล่านี้และปรับประสบการณ์ให้เหมาะสำหรับคุณ จุดประสงค์เดียวของ AI ที่นี่คือการทำให้แอพพลิเคชั่นน่าเบื่อจนคุณกลับมาหาพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่าและฉันก็พร้อมที่จะวางเดิมพันว่า AI ชนะสงครามนี้กับคุณแล้ว

4. บริการสตรีมเพลงและสื่อ

อีกตัวอย่างที่ดีของการที่ AI ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราคือบริการเพลงและสื่อสตรีมมิ่งที่เราใช้เป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าคุณจะใช้ Spotify, Netflix หรือ YouTube AI จะทำการตัดสินใจให้คุณ คุณอาจรู้สึกว่าคุณอยู่ในการควบคุมทั้งหมด แต่คุณไม่ได้ และมันเป็นกับทุกสิ่งบางครั้งมันก็ดีและบางครั้งก็แย่ ตัวอย่างเช่นฉันชอบเพลย์ลิสต์ Discover Weekly บน Spotify เพราะมันแนะนำให้ฉันรู้จักกับศิลปินใหม่หลายคนซึ่งฉันจะไม่ได้รับการแนะนำให้รู้จักถ้าไม่ใช่เทพเจ้า AI ที่ Spotify

ในทางกลับกันฉันจำได้ว่าการลงหลุมกระต่ายของ YouTube ต้องเสียเวลานับไม่ถ้วนเพียงแค่ดูวิดีโอที่แนะนำ ส่วนวิดีโอที่แนะนำนั้นดีมากเมื่อรู้ว่ารสนิยมของฉันน่ากลัว ดังนั้นในครั้งต่อไปที่คุณเล่นวิดีโอแนะนำบน YouTube หรือดูรายการแนะนำบน Netflix หรือฟังรายการเพลงที่สร้างไว้ล่วงหน้าบน Spotify หรือบริการสตรีมมิ่งสื่อและเพลงอื่น ๆ สำหรับเรื่องนั้นโปรดจำไว้ว่า AI กำลังเล่น มีบทบาทสำคัญในการที่

5. วิดีโอเกม

อุตสาหกรรมวิดีโอเกมน่าจะเป็นหนึ่งในผู้เริ่มต้นใช้งาน AI การรวมเริ่มน้อยมากด้วยการใช้ AI เพื่อสร้างระดับการสุ่มที่ผู้คนสามารถเล่นได้ อย่างไรก็ตามมันได้เพิ่มขึ้นถึงระดับที่ไกลเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ในขนาดใหญ่ เราเพิ่งสังเกตเห็น OpenAI 5 ที่พัฒนาโดย บริษัท OpenAI ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Elon Musk เต้นผู้เล่น Dota 2 ระดับมืออาชีพ ในการแข่งขันหนึ่งต่อหนึ่งในขณะเดียวกันก็เต้นทีม Dota 2 มือสมัครเล่น ความสำเร็จนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นช่วงเวลาที่ก้าวกระโดดในอุตสาหกรรม AI Dota 2 เป็นเกมที่ใช้กลยุทธ์ที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจทุก ๆ วินาทีและการตีผู้เล่นมืออาชีพในเกมแบบไดนามิกนั้นเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ AI

ให้การรักษา Dota 2 เป็นระยะเวลานานมาพูดคุยกันว่า AI จะแทรกซึมเข้าไปในอุตสาหกรรมเกมปกติของเราอย่างไร เกมใด ๆ ที่คุณเล่นมีองค์ประกอบของ AI อยู่บ้าง เมื่อคุณเล่นเกมเช่น CS GO, PUBG หรือ Fortnite คุณจะต้องเริ่ม เล่นกับ บอท AI สองตัว ก่อนจากนั้นย้ายไปเล่นกับผู้เล่นจริง แม้ในขณะที่คุณกำลังเล่นเกมโหมดเนื้อเรื่องคนเดียวคุณกำลังเล่นกับหัวหน้า AI หากคุณกำลังเล่นเกมแข่งรถคุณกำลังแข่งกับ AI บอท การใช้ AI ที่น่าสนใจที่สุดที่เราเคยเห็นในเกมคือในซีรีย์เกม Middle Earth ที่ศัตรูของคุณซึ่งถูกควบคุมโดย AI วิวัฒนาการขึ้นอยู่กับการโต้ตอบกับคุณและองค์ประกอบเกมอื่น ๆ ฉันสามารถใช้ AI ในเกมต่อไปได้ แต่นั่นจะทำให้บทความนี้ยาวมาก เพิ่งรู้ว่าถ้าคุณเล่นเกมใด ๆ คุณกำลังใช้ AI

6. เครือข่ายโฆษณาออนไลน์

หนึ่งในผู้ใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่ใหญ่ที่สุดคืออุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์ที่ ใช้ AI เพื่อติดตามสถิติผู้ใช้ แต่ยังให้บริการโฆษณาตามสถิติเหล่านั้น ด้วย หากไม่มี AI อุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์จะล้มเหลวเนื่องจากจะแสดงโฆษณาแบบสุ่มให้กับผู้ใช้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับการตั้งค่าของพวกเขาเช่นเคย AI ประสบความสำเร็จในการพิจารณาความสนใจของเราและให้บริการโฆษณากับเราว่าอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 250 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยอุตสาหกรรมคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 300 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 ดังนั้นครั้งต่อไป คำแนะนำผลิตภัณฑ์รู้ว่า AI กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณ

7. การนำทางและการเดินทาง

ถึงตอนนี้คุณต้องมั่นใจในความจริงที่ว่า AI กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราทุกวัน อย่างไรก็ตามหากยังมีข้อกังขาบางอย่างให้เราลองอีกตัวอย่าง อุตสาหกรรมการนำทางและการท่องเที่ยวเป็นอย่างไร ฉันหมายถึงพวกเราส่วนใหญ่เดินทางเป็นครั้งคราวและใช้การนำทางเกือบทุกวัน คุณรู้ หรือไม่ว่าคุณกำลังใช้ Google หรือ Apple Maps สำหรับการนำทางหรือโทรหา Uber หรือจองตั๋วเครื่องบินคุณกำลังใช้ AI อยู่ หรือไม่ ถ้าคุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ถึงเวลาที่คุณจะลืมตา ทั้ง Google และ Apple พร้อมกับบริการการนำทางอื่น ๆ ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อตีความจุดข้อมูลนับแสนที่พวกเขาได้รับเพื่อให้ข้อมูลจราจรแบบเรียลไทม์ เมื่อคุณโทรหา Uber ทั้งคู่จะกำหนดราคาและรถที่ตรงกับคำขอขับขี่ของคุณโดย AI อย่างที่คุณเห็น AI มีบทบาทสำคัญในการเข้าถึงจากจุด A ไปยังจุด B

8. การธนาคารและการเงิน

อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงินมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเรา ฉันหมายถึงโลกที่ใช้เงินและธนาคารเป็นผู้รักษาประตูที่ควบคุมการไหลนั้น คุณรู้หรือไม่ว่า อุตสาหกรรมการธนาคารและการเงินพึ่งพาอาศัยปัญญาประดิษฐ์ในด้านต่าง ๆ เช่นการบริการลูกค้าการป้องกันการฉ้อโกงการลงทุนและอื่น ๆ ตัวอย่างง่ายๆคืออีเมลอัตโนมัติที่คุณได้รับจากธนาคารทุกครั้งที่คุณทำธุรกรรมปกติ นั่นคือ AI ที่คอยดูแลบัญชีของคุณและพยายามเตือนคุณถึงการฉ้อโกง

AI ยังได้รับการฝึกอบรมให้ดูตัวอย่างข้อมูลการฉ้อโกงจำนวนมากและค้นหารูปแบบเพื่อให้คุณสามารถได้รับการเตือนก่อนที่จะเกิดขึ้นกับคุณ นอกจากนี้ เมื่อคุณติดขัดเล็กน้อยและสนทนากับฝ่ายบริการลูกค้าของธนาคารโอกาสที่คุณจะสนทนากับ AI bot แม้แต่ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการเงินก็ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาช่องทางที่ดีที่สุดในการลงทุนเงินเพื่อให้พวกเขาได้รับผลตอบแทนสูงสุดโดยมีความเสี่ยงน้อยที่สุด นั่นไม่ใช่ทั้งหมด AI มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่กว่าในอุตสาหกรรมเนื่องจากธนาคารรายใหญ่ทั่วโลกกำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี AI และเราทุกคนจะสังเกตเห็นผลกระทบของมันเร็วกว่านี้

9. อุปกรณ์สมาร์ท

เรายังเต็มใจปล่อยปัญญาประดิษฐ์ในบ้านของเรา อุปกรณ์สมาร์ทโฮมจำนวนมากที่เราซื้อ ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของเราเพื่อให้พวกเขาสามารถปรับการตั้งค่าด้วยตัวเอง เพื่อให้ประสบการณ์ที่ไม่เสียดสีเท่าที่จะทำได้สำหรับเรา เราได้พูดคุยกันแล้วเกี่ยวกับผู้ช่วยอัจฉริยะเสียงที่เราใช้ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมเหล่านี้และอย่างที่เรารู้พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญของ AI ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรา

ฉันจะยอมรับว่าบ้านที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สมบูรณ์แบบซึ่งตอบสนองต่อตัวเลือกของเราในชีวิตจริงยังคงอยู่ในอีกสิบปีข้างหน้าอย่างไรก็ตามเรากำลังเห็นขั้นตอนที่จะพาเราไปที่นั่น ฉันหมายถึง มีเทอร์โมสมาร์ทที่ปรับอุณหภูมิตามความต้องการของคุณ ไฟอัจฉริยะที่เปลี่ยนสีและความเข้มของแสงตามเวลาและอีกมากมาย ไม่นานนักเมื่อการโต้ตอบหลักของเรากับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมของเราทั้งหมดจะผ่าน AI เท่านั้น

10. ความปลอดภัยและการเฝ้าระวัง

ในขณะที่เราทุกคนสามารถถกเถียงเรื่องจริยธรรมของการใช้ระบบเฝ้าระวังในวงกว้าง แต่ก็ไม่มีการปฏิเสธความจริงที่ว่ามันถูกใช้งานและ AI กำลังมีบทบาทสำคัญในเรื่องนั้น เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะคอยเฝ้าดูจอภาพหลายจอพร้อมฟีดจากกล้องหลายร้อยตัวหากไม่นับพันกล้องในเวลาเดียวกันดังนั้นการใช้ AI จึงเหมาะสมอย่างยิ่ง ด้วยเทคโนโลยีเช่นการจดจำวัตถุและการจดจำใบหน้าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน มันจะไม่นานเมื่อกล้องรักษาความปลอดภัยทั้งหมดถูกตรวจสอบโดย AI และไม่ใช่มนุษย์ ในขณะที่ยังมีเวลาก่อนที่ AI จะสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ แต่นี่จะเป็นอนาคตของเรา

ดูเพิ่มเติม: 12 สุดยอดอุปกรณ์เสริมของ Google ที่คุณสามารถซื้อได้

ปัญญาประดิษฐ์: ปัจจุบันและอนาคต

อย่างที่คุณเห็นชีวิตของเราทุกคนได้รับผลกระทบจากปัญญาประดิษฐ์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าเราจะใช้สมาร์ทโฟนท่องอินเทอร์เน็ตซื้อสินค้าออนไลน์ใช้การนำทางเสียเวลาในโซเชียลมีเดียหรือฟังเพลงจากบริการสตรีมเพลงโปรด AI กำลังส่งผลต่อตัวเลือกของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โปรดแจ้งให้เราทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับ AI ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราโดยเขียนในส่วนความคิดเห็นด้านล่าง