ö���¹ �ͧ�Թ ��ͧ��Ӥú�дǡʺ���ش�� Show
Create Date :16 �ѹ�Ҥ� 2562 Last Update :16 �ѹ�Ҥ� 2562 10:59:19 �. Counter : 30907 Pageviews. Comments :1
หลังจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดตัวขบวนรถนอนใหม่ 115 คัน ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และปล่อยขบวนปฐมฤกษ์ 2 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 และ 10 ‘อุตราวิถี’ กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23 และ 24 ‘อีสานวัตนา’ กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา (ส่วนเส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย ‘อีสานมรรคา’ และกรุงเทพ-หาดใหญ่ ‘ทักษิณารัถย์’ เปิดให้บริการต้นเดือนธันวาคม) The Momentum ได้มีโอกาสโดยสารขบวนรถนอนใหม่ โดยเลือกขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23 อีสานวัตนา มีจุดหมายที่จังหวัดอุบลราชธานี ตู้ที่เราโดยสารเป็นรถนอนปรับอากาศชั้น 1 ซึ่งเป็นประเภทรถที่ดีที่สุดของ รฟท. แต่เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เรามีภาพจากตู้นอนชั้น 2 และรถเสบียงมาให้ชมกันด้วย บอกเลยว่า หลังจากการโดยสารขบวนรถนอนใหม่ครั้งนี้ เราพบรายละเอียดและสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจทั้งหมด 9 ข้อ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เป็นปฐมบทมาตรฐานใหม่ของรถไฟไทยก็ว่าได้
1. เอี่ยมอ่องอรทัย ใหม่ถอดด้ามเราเดินทางถึงสถานีกรุงเทพก่อนเวลารถออกเล็กน้อย และขบวนรถกำลังจอดเทียบที่ชานชาลา ตัวรถใหม่เอี่ยม ทำความสะอาดอย่างดีทุกครั้งก่อนให้บริการ และที่สะดุดตาเราในครั้งแรกจากภายนอกคือ ป้ายบอกรายละเอียดขบวนและเลขตู้เป็นไฟจอแอลอีดี พื้นสีดำ อักษรสีขาว ขึ้นสลับระหว่างภาษาไทยและอังกฤษ ส่วนระบบประตูได้มีการพัฒนาให้รองรับชานชาลาพื้นสูงเสมอระดับกับพื้นในตู้ขบวน และสามารถเคลื่อนกางออกเป็นบันไดเมื่อเปิดประตูได้สำหรับชานชาลาพื้นต่ำ โดยตัวรถนั้นทาง รฟท. ได้สั่งผลิตจากบริษัท CRRC (China Railway Rolling Stock Corporation) จำกัด และทยอยส่งมอบให้ รฟท. ไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา 2. รถนอนชั้น 1 โรงแรมเคลื่อนที่ พร้อมฟรี Wi-Fiเมื่อเดินเข้าไปในตู้นอนชั้น 1 (บนอ.ป.) ประกอบด้วยห้อง 12 ห้อง แต่ละห้องจุผู้โดยสารได้ 1-2 คน ซึ่งระบบการจองตั๋วจะคัดเลือกให้ผู้โดยสารเพศเดียวกันอยู่ในห้องเดียวกันเสมอ (เว้นแต่ว่ามาจองด้วยกัน ระบบจะแจ้งเป็นเพศใดเพศหนึ่ง) ที่นั่งด้านในจะหันด้านสลับกันไปในแต่ละห้อง และสามารถเปิดที่กั้นระหว่างห้องได้ เหมาะสำหรับผู้โดยสารที่มากันเป็นครอบครัว และจองห้องติดกันแบบหันหน้าเข้าหากัน สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารชั้น 1 นั้นก็มีหลากหลายมากขึ้นกว่าตู้รถนอนชั้น 1 รุ่นเดิม ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ จอแอลอีดีแบบทัชสกรีน ที่สามารถสั่งอาหารให้บริกรเดินมาส่งอาหารและเครื่องดื่มได้ที่ห้อง เลือกชมรายการบันเทิง ทั้งภาพยนตร์และมิวสิกวิดีโอในช่องต่างๆ โดยขอหูฟังจากพนักงานประจำตู้เพื่อรับชมความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ เราลองกดเลือกช่องต่างๆ ดู พบว่าเป็นวิดีโอแนะนำขบวนรถไฟ มิวสิกวิดีโอเพลงเทิดพระเกียรติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งทาง รฟท. ชี้แจงว่าอยู่ในช่วงไว้อาลัย จึงยังไม่ใส่ภาพยนตร์ลงไป นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเลือกดูข้อมูลการเดินทาง ซึ่งรถไฟขบวนนี้มีระบบจีพีเอสแบบเรียลไทม์ จึงสามารถบอกได้ว่ารถไฟวิ่งอยู่ที่ใด สถานีก่อนหน้าและสถานีต่อไปคืออะไร รถวิ่งที่ความเร็วเท่าไหร่ เพื่อให้ผู้โดยสารมั่นใจว่าจะไม่ลงรถไฟเลยป้าย และยังมีรายละเอียดการใช้ห้องน้ำและห้องอาบน้ำในตู้อยู่ที่มุมขวาล่างว่ามีผู้ใช้งานอยู่หรือไม่ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในห้องก็ยังมีกระจกแต่งหน้า ซึ่งสามารถเปิดฝาเพื่อเก็บแก้วน้ำ เครื่องใช้เล็กๆ น้อยๆ ได้ พร้อมอ่างล้างหน้า, ปลั๊กไฟ 220 โวลต์ พร้อมไฟส่องสว่างที่หัวนอน, ช่องเสียบชาร์จแบบ USB, ปุ่มเปิด-ปิดไฟในห้อง และปุ่มเรียกพนักงาน เมื่อผู้โดยสารกดปุ่มนี้ ไฟสีแดงเหนือประตูหน้าห้องจะสว่างขึ้น และจะมีสัญญาณเข้าไปในห้องพนักงานประจำตู้ เพื่อแจ้งให้พนักงานทราบ รวมถึงประตูห้องนอนมีผังแจ้งห้องต่างๆ ภายในตู้ และช่องตาแมว และพิเศษสำหรับผู้โดยสารรถนอนปรับอากาศชั้น 1 สามารถใช้ Wi-Fi ได้ฟรี 45 นาที ต่อการเชื่อมต่อ 1 ครั้ง เราทดลองเชื่อมต่อแล้วพบว่าเชื่อมต่อได้รวดเร็วดี สัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วมาตรฐาน ไม่เร็วปรู๊ดปร๊าดแต่ก็ไม่ถึงกับสะดุดจนใช้การไม่ได้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นการแปลงสัญญาณ 3G/4G ผ่าน Wi-Fi Router และแชร์พร้อมกันหลายเครื่อง จึงอาจมีปัญหาสัญญาณในบางครั้ง 3. รถนอนชั้น 2 เหมือนจะคล้ายเดิม แต่เพิ่มเติมคือปลั๊กไฟ และจอดูข้อมูล เราเดินออกจากตู้นอนชั้น 1 ไปยังตู้นอนชั้น 2 (บนท.ป.) พบว่าในตู้โดยสารมีลักษณะคล้ายตู้นอนชั้น 2 รุ่นเดิม คือไม่มีการแบ่งเป็นห้อง เก้าอี้แบ่งเป็นสองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน และเตียงที่พับกางลงมาได้ แต่ที่พิเศษกว่าในรถนอนรุ่นใหม่คือ ปลั๊กไฟพร้อมไฟส่องสว่างในทุกที่นอน จอแอลอีดีที่แจ้งเลขตู้และรายละเอียดการเดินทาง และการใช้สุขาที่แขวนไว้บนเพดานเหนือทางเดิน โดยรายละเอียดบนจอคล้ายกับจอในตู้ชั้น 1 แต่ไม่เป็นระบบทัชสกรีน และเลือกช่องรายการความบันเทิงไม่ได้ นอกจากนี้ หากผู้โดยสารนำสัมภาระที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าช่องสัมภาระข้างที่นั่งผู้โดยสารจะวางได้ภายในตู้รถนอนชั้น 2 บริเวณห้องน้ำยังมีช่องสำหรับใส่สัมภาระเกินขนาด ซึ่งจากการทดลองใส่จักรยานพับขนาดวงล้อ 20 นิ้ว ก็สามารถใส่ได้พอดี
4. สุขาระบบสุญญากาศ สะอาด ปลอดภัย ไม่แพร่กระจายสิ่งปฏิกูลสำหรับสุขาขบวนรถนอนรุ่นใหม่นี้ ทาง รฟท. แจ้งว่าสุขาเป็นระบบปิดทั้งขบวน ไม่มีการปล่อยสิ่งปฏิกูลลงบนทางรถไฟ โถสุขภัณฑ์เป็นระบบสุญญากาศ หลังจากกดชำระเพื่อทำความสะอาด สิ่งปฏิกูลจะถูกลมดูดหายลงไปในถังพัก (หลักการเดียวกับสุขาบนเครื่องบิน) นอกจากนี้ พื้นในห้องสุขาและห้องอาบน้ำเป็นพื้นยางกันลื่น เรียกได้ว่านอกจากจะสะอาดแล้ว ยังปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งห้องสุขานี้จะมีอยู่ในทุกตู้ โดยมีห้องสุขาแบบชักโครก 2 ห้อง และห้องสุขาแบบโถปัสสาวะ 1 ห้องเหมือนกันทั้งในตู้ชั้น 1 และชั้น 2 แต่สิ่งอำนวยความสะดวกจะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ตู้ชั้น 1 มีห้องอาบน้ำ แต่ตู้ชั้น 2 จะเป็นอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่ให้แทน
5. ตู้เสบียงกว้างสบาย มีขายมากกว่าอาหาร (แต่เป็นอวสานของนักสูบและนักดื่ม) ตู้เสบียง (บกข.ป.) ในชุดขบวนรถนอนชุดใหม่นี้มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน ทั้งส่วนของห้องครัว เคาน์เตอร์ขายอาหาร และที่นั่งรับประทานอาหาร ซึ่งจะมีเอกชนมารับช่วงต่อในการบริหารจัดการ โดยได้บริษัทในเครือซีพีมาเป็นผู้บริหารจัดการตู้เสบียงในช่วง 1 ปีแรกของการเดินรถ เราหยิบเมนูอาหารมาดู และมองไปยังกล่องอาหารที่วางเตรียมไว้ พบว่าเป็นแซนด์วิช อาหารกล่องแช่แข็ง และไส้กรอก และไม่มีระบบการปรุงสดจากในครัว (เนื่องด้วยเหตุผลความปลอดภัยในการป้องกันอัคคีภัยจากการปรุงอาหาร) แต่เมนูอาหารมีหลากหลายกว่าเดิม (โดยเฉพาะกาแฟสด!) ส่วนคุณภาพและรสชาตินั้นก็ได้มาตรฐานบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารยักษ์ใหญ่ ราคาก็ไม่ถีบตัวสูงจากราคาปกติเท่าใดนัก และที่น่าสังเกตคือ มีสินค้าประเภท Non-Food จำหน่ายในตู้เสบียงด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าอนามัย แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แป้ง ยาดม ไปจนถึงยาแก้ไข้และแก้ท้องเสีย ถือว่ามีร้านสะดวกซื้อขนาดย่อมๆ ในตู้เสบียงก็ว่าได้ รวมไปถึง Wi-Fi ให้ใช้ฟรี 45 นาที เช่นเดียวกับในตู้ชั้น 1 ส่วนใครที่จะมองหาเบียร์ สุรา บุหรี่ หรือที่สูบบุหรี่บนรถไฟขบวนนี้ เราก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะ รฟท. ไม่อนุญาตให้จำหน่าย รวมถึงไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารดื่มสุราและสูบบุหรี่บนขบวนรถทุกประเภท ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ. 2555 (ที่มา : http://old.ddc.moph.go.th/law/showimg5.php?id=147)
6. ทดลองนอนจริง นิ่มและนุ่มเราเดินกลับมายังห้องนอนในตู้ชั้น 1 ขณะเดียวกับที่พนักงานก็กำลังปรับเปลี่ยนจากที่นั่งเป็นที่นอนอย่างคล่องแคล่ว ไม่ถึง 2 นาที เบาะผ้ากำมะหยี่ที่นั่งสีชมพูเข้มก็ถูกปรับเป็นที่นอนกว้างขวางแสนสบาย และจากการขึ้นไปนอนบนเตียงก็พบว่าฟูกที่นอนนั้นไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป หมอนก็นุ่มสบายกำลังดี และอาการสั่นโยกเยกก็น้อยกว่าตู้โดยสารรุ่นเก่าอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใครที่นอนดิ้นแล้วกลัวว่าจะตกเตียง รถนอนในขบวนนี้ก็มีที่กั้นสเตนเลสให้อย่างแน่นหนา แม้ว่าม่านตรงหน้าต่างจะบางจนแสงลอดมารบกวนการนอนบ้าง แต่ขณะนี้ทาง รฟท. รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว เพื่อแก้ไขให้แสงลอดเข้ามาน้อยกว่าเดิม
7. ไม่ใช่แค่ ‘ใหม่’ แต่ยัง ‘ปลอดภัย’ รอบด้านความปลอดภัยระหว่างการเดินทางคือสิ่งสำคัญ รถไฟขบวนนี้ก็เช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าหน้าที่คอยตรวจตราเป็นระยะ แต่ยังมี ‘ผู้ช่วย’ อีกหลายรูปแบบที่จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้โดยสาร หลังจากผ่านการเดินทางมาเกือบตลอดคืน เช้าวันใหม่ จากหน้าจอตรงที่นอนแจ้งว่ารถไฟเพิ่งวิ่งออกจากสถานีศรีสะเกษมาเล็กน้อย เราตัดสินใจลุกออกจากห้องนอนเพื่อเดินไปกินอาหารเช้าที่ตู้เสบียงอีกครั้ง และสังเกตว่าตู้นอนชั้น 2 ที่อยู่ติดกับตู้นอนชั้น 1 นั้น พนักงานประจำตู้เป็นผู้หญิงทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากตู้นอนตู้อื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้ชาย จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่จึงได้ความว่าตู้นอนชั้น 2 ดังกล่าวนี้คือ ตู้เลดี้คาร์ รับเฉพาะผู้โดยสารสุภาพสตรีเท่านั้น ซึ่งพนักงานประจำตู้จึงต้องเป็นผู้หญิงทั้งหมดด้วยเช่นกัน เมื่อเราแหงนขึ้นไปเหนือประตูระหว่างตู้ ก็เจอกับกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในทุกตู้ โดยภาพทั้งหมดจะส่งไปยังห้องพนักงานในตู้ Power Car ช่วยสอดส่องเหตุการณ์ในทุกตู้ให้ผู้โดยสาร ประตูด้านหน้าที่ไม่ได้มีเพียงแค่ความไฮเทคในการกางบันได แต่ยังป้องกันการถูกหนีบแบบเดียวกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยจะดีดกลับอัตโนมัติเมื่อประตูหนีบสิ่งกีดขวาง รวมไปถึงที่ดับเพลิงที่ติดตั้งในทุกตู้โดยสาร ไม่เพียงเท่านี้ ระบบเบรกของรถไฟขบวนนี้เป็นระบบดิสก์เบรก พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และวัสดุภายนอก-ภายในตู้โดยสารแบบไม่ติดไฟ เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้โดยสารว่าปลอดภัยอย่างรอบด้าน
8. Universal Design เพื่อผู้โดยสารทุกคนเรานั่งจิบกาแฟร้อน (แน่นอนว่าเป็นเอสเพรสโซ) กับแซนด์วิชทูน่า มองพระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นฟ้า ทอแสงสีส้มลงบนท้องนา ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่เย็นและไม่ร้อนจนเกินไป แล้วหันไปมองตู้นอนที่อยู่ถัดจากตู้เสบียง และเห็นห้องใหญ่ๆ ห้องหนึ่งกั้นอยู่ ด้วยความสงสัยจึงเดินออกจากตู้เสบียงเพื่อไปที่ห้องที่อยู่ตู้นั้น ระหว่างก่อนข้ามไปอีกตู้พบว่าเป็นห้องโล่งๆ ปรากฏว่าเป็นพื้นที่รับประทานอาหารสำหรับคนพิการ และเมื่อข้ามไปอีกตู้ ห้องใหญ่ๆ ที่กั้นอยู่นั้นคือห้องน้ำคนพิการ และบริเวณโดยรอบก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการ ทั้งที่เก็บรถเข็นพร้อมรถวีลแชร์สำรอง ลิฟต์ยกรถเข็นจากชานชาลาเข้าสู่ตู้โดยสาร รวมไปถึงการออกแบบพื้นตู้โดยสารแบบเสมอระดับและไม่มีช่องว่างระหว่างข้อต่อขบวน เพิ่มความสะดวกในการเข็นรถข้ามไปมาระหว่างตู้ เรียกได้ว่าออกแบบมารองรับผู้โดยสารทุกคน ทั้งคนปกติและอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ต้องใช้รถเข็นอย่างแท้จริง 9. แม้จะมีราคาพอๆ กับสายการบินโลว์คอสต์ แต่มีเหตุผลมากกว่าสโลว์ไลฟ์รถไฟเดินทางถึงสถานีอุบลราชธานีในเวลา 06.40 น. ช้ากว่าเวลาที่ระบุในตั๋ว 10 นาที เพราะเสียเวลารอหลีกทางให้รถไฟอีกขบวนที่สถานีกันทรารมย์ อากาศช่วงปลายฝนต้นหนาวของที่นี่กำลังเย็นสบาย ฟ้าเพิ่งสว่างได้ไม่นานนัก เราแบกกระเป๋าลงจากรถ เดินออกจากสถานี เพื่อเตรียมตัวเดินทางเข้าไปยังตัวเมืองต่อไป ค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 800 กว่าบาทสำหรับรถนอนชั้น 2 และ 1,100 บาทขึ้นไปสำหรับชั้น 1 จะสู้สายการบินราคาประหยัดได้ไหม ราคานี้ขึ้นรถทัวร์หรือเครื่องบินไม่ดีกว่าหรือ แล้วการเดินทางแบบนี้เหมาะกับใคร? ลองดูเหตุผลต่อไปนี้ อาจทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น – คุณต้องการความสะดวกสบายในระหว่างการเดินทางในตอนกลางคืน ที่นอนที่นอนได้จริง ไม่ใช่แค่เบาะปรับเอน – คุณต้องการถึงที่หมายในตอนเช้าตรู่อย่างสดชื่น ไม่อยากสะโหลสะเหลตื่นตี 3 เพื่อไปเช็กอินที่สนามบินสำหรับเที่ยวบินรอบ 6 โมงเช้า และการออกเดินทางในช่วงเย็นหรือหัวค่ำเพื่อเดินทางข้ามคืนไม่ใช่อุปสรรคสำหรับคุณ – คุณต้องการขึ้น-ลงระหว่างทาง ซึ่งการเดินทางไปสนามบินไม่สะดวกเท่า (รถไฟขบวนนี้จอดรายจังหวัดและอำเภอใหญ่ๆ โปรดสอบถามการจอดในแต่ละขบวนกับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ อีกครั้ง) – คุณไม่อยากลุ้นว่าค่าโดยสารจะขึ้นลงตามโปรโมชันและอุปสงค์-อุปทาน เพราะรถไฟจองช่วงเวลาไหนก็ราคาเดิม แม้สายการบินจะออกโปรโมชันอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าจองตั๋วเครื่องบินช่วงเทศกาลหรือวันหยุดพิเศษ ค่าโดยสารอาจพุ่งกว่า 2,000 บาท ถ้าคุณมีเหตุผลที่ถูกใจมากกว่า 3 ข้อ หรือเห็นด้วยทั้งหมด แล้วอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเดินทางด้วยรถไฟที่ไม่ ‘ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง’ อีกต่อไป ก็ออกไปจองตั๋วกันที่สถานีรถไฟ หรือติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของ รฟท. ได้เลย! Tips: – แม้ รฟท. จะกำลังปรับปรุงระบบการจองตั๋วโดยสารผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่คุณก็สามารถสอบถามที่นั่งว่าง และทำการจองตั๋วได้ที่คอลเซ็นเตอร์ โทร. 1690 – สามารถจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าสูงสุด 60 วัน หากไปจอง โปรดเตรียมระบุชื่อ และเลขประจำตัวประชาชนของผู้โดยสารทุกคนไว้ด้วย เพราะ รฟท. ทำประกันอุบัติเหตุให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่ง – จองตั๋วรถไฟก็ไม่ต่างกับการซื้อตั๋วหนัง เตรียมข้อมูลในใจให้พร้อม แล้วบอกพนักงานว่าจะขึ้นที่ไหน ลงที่ไหน ไปเมื่อไหร่ รถประเภทอะไร แล้วเจ้าหน้าที่จะหาที่ว่างและออกตั๋วให้คุณ – ได้ตั๋วมาแล้ว รักษาไว้ให้ดี การรถไฟฯ ไม่รับผิดชอบหากสูญหาย แต่คุณสามารถถ่ายภาพตั๋วเก็บไว้ได้ หากตั๋วหายก็สามารถไปแจ้งความ แล้วนำใบแจ้งความพร้อมภาพถ่ายตั๋วไปยังสถานีรถไฟเพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกตั๋วใหม่ให้ได้ อุ่นใจเรื่องตั๋วแล้วก็นับวันรอเดินทางกัน! รถไฟชั้น2 นอนได้ไหมขึ้นรถไฟได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ท้องฟ้าด้านนอกก็เริ่มมืดแล้วพนักงานประจำตู้ก็ทยอยปรับจากเบาะนั่งเป็นเตียงนอนให้เราค่ะ ชอบตอนพนักงานปรับเบาะมากเพราะไวและคล่องมาก มองเพลินเลยค่ะ พนักงาน 1 คน จะดูแลรถไฟ 1 ตู้ ค่ะ
ตู้นอนรถไฟแยกชายหญิงไหมตู้นอนชั้น 2 ที่อยู่ติดกับตู้นอนชั้น 1 นั้น พนักงานประจำตู้เป็นผู้หญิงทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากตู้นอนตู้อื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้ชาย
รถไฟตู้นอนชั้น1 นอนได้กี่คนรถไฟชั้น 1 เหมาะสำหรับท่านเดินทางด้วยกัน 2 คน เพราะจะมีเพียงท่าน 2 คนเท่านั้นที่อยู่ภายในห้องโดยสารเดียวกัน และต้องการความเป็นส่วนตัวในขณะที่เดินทางด้วยรถไฟ สำหรับท่านที่เดินทางตามลำพังเพียงคนเดียว และต้องการนั่งรถไฟชั้น 1 ปรับอากาศ ท่านควรจองตั๋วรถไฟชั้น 1 แบบเหมาห้อง
รถไฟตู้นอนชั้น 2 มีปลั๊กไหมตู้นอนชั้นสองก็พิเศษไม่แพ้กัน มีปลั๊กไฟ ไฟหัวเตียงส่วนตัว ชั้นวางของ และที่วางแก้วน้ำ มีจอให้ดูเส้นทางด้วยว่ากำลังเดินทางถึงไหนแล้ว ส่วนห้องน้ำบนรถไฟก็สะอาดมากๆ เป็นห้องน้ำระบบปิด สามารถเข้าได้ตอนรถไฟจอดอยู่ มีตู้ละ 3 ห้อง มีอ่างล้างมือและล้างหน้า มีสบู่เหลวให้
|