แบบประเมินค่าความสอดคล้อง (IOC) ของแบบทดสอบ วัดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เรื่อง การเขียนเรียงความเชิงสร้างสรรค์ ---------------------------------------------------- โครงการวิจัย เรื่อง รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมกันผ่านเว็บบล็อกและเครือข่ายสังคมออนไลน์สอนทักษะ คำชี้แจง 1. ครูผู้สอนภาษาไทยทุกท่าน โปรดร่วมพิจารณาว่าข้อคำถามสามารถวัดได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดหรือไม่ 2. วัตถุประสงค์มีทั้งหมด 5 ข้อ แต่ละข้อ โปรดให้น้ำหนักคะแนนความสำคัญ รวมกันแล้ว ไม่เกิน 15 คะแนน วัตถุประสงค์/ คำถามและคำตอบ ค่าดัชนีความสอดคล้อง ข้อเสนอแนะ +1 0 -1 วัตถุประสงค์ที่ 1 บอกองค์ประกอบของเรียงความได้ น้ำหนักคะแนน…………………………. 1. เรียงความ หมายถึงข้อใด ก. การเขียนพรรณนาด้วยบทกวี ข. การเขียนอธิบายเหตุและผลอย่างเป็นลำดับ ค. การเขียนจะถ่ายทอดความรู้ ความคิด ทรรศนะ ง. การเขียนรายงานเป็นบทๆ เพื่อนำเสนอเรื่องราว 2. ข้อใดเป็นองค์ประกอบส่วนสุดท้ายของเรียงความ ก. สรุป ข. คำนำ ค. ชื่อเรื่อง ง. เนื้อความ 3. ข้อใดเป็นองค์ประกอบส่วนแรกของเรียงความ ก. สรุป ข. คำนำ ค. ชื่อเรื่อง ง. เนื้อความ 4. ส่วนที่เป็นการเขียนเน้นความรู้ ความคิดหลักหรือประเด็น สำคัญของเรียงความที่เขียนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการเพิ่ม คุณค่าของเนื้อหา หมายถึงส่วนใด ก. สรุป ข. คำนำ ค. ชื่อเรื่อง ง. เนื้อความ วัตถุประสงค์ที่ 2 บอกกระบวนการและหลักการเขียนเรียงความที่ดีได้ น้ำหนักคะแนน…………………………. 1. ข้อใด ไม่ใช่ หลักในการเขียนเรียงความที่ดี ก. เขียนถูกต้อง ข. ลายมือสวยงาม ค. เรียงประโยคได้ใจความ ง. คัดลอกเนื้อหาหรือประโยคที่ดีจากของผู้อื่น 2. ข้อใดเป็นหลักการวางโครงเรื่องการเขียนเรียงความที่ดี ก. วางโครงเรื่องตามสะดวกของผู้เขียน ข. วางโครงเรื่องจากหน่วยเล็กไปสู่หน่วยใหญ่ ค. วางโครงเรื่องเรียงไม่ตามลำดับเวลาที่เกิดเหตุการณ์ ง. วางโครงเรื่องตามประสบการณ์ของผู้เขียนเรียงความ 3. ข้อใด ไม่ใช่ ศิลปะของการเขียนเรียงความ 4. ข้อใดเป็นลักษณะของการเขียนคำนำของเรียงความที่ดี ก. ควรเขียนคำนำให้อ้อมค้อม เชื่อมโยงเนื้อหา ข. เขียนคำนำและสรุปให้ยาวมากกว่า 1 ย่อหน้า ค. เขียนให้กระชับ เร้าความสนใจ และตรงประเด็น ง. เขียนคำนำให้สั้น ใช้คำที่เข้าใจยาก เพื่อนำเข้าสู่เนื้อหา 5. ข้อใด เป็นหลักปฏิบัติที่ดีก่อนที่จะลงมือเขียนเรียงความ ก. ผู้เขียนเรียบเรียงประโยคให้เป็นเรื่องราว ข. เรียงความมีส่วนประกอบทั้งหมด ๔ ส่วน 6. ข้อใด เป็นวิธีการเขียนสรุปเรียงความที่ ไม่ถูกต้อง ก. สรุปด้วยคำถาม ข. สรุปด้วยข้อคิดเห็น ค. สรุปด้วยคำคม บทกวี ง. สรุปด้วยชื่อเรื่องและประวัติผู้เขียน วัตถุประสงค์ที่ 3 เขียนโครงเรื่องเรียงความตามหัวข้อที่กำหนดให้ได้ น้ำหนักคะแนน…………………………. 1. การเขียนเรียงความมีลำดับการเขียนอย่างไร ก. คำนำ ชื่อเรื่อง สรุป เนื้อเรื่อง ข. ชื่อเรื่อง คำนำ สรุป เนื้อเรื่อง ค. ชื่อเรื่อง คำนำ เนื้อเรื่อง สรุป ง. สรุป เนื้อเรื่อง คำนำ ชื่อเรื่อง 2. การวางโครงเรื่องก่อนเขียนเรียงความ มีประโยชน์อย่างไร 3. โครงเรื่องเรียงความ เรื่องพระราชวังบางปะอิน จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ต่อไปนี้ควรเรียงลำดับตามข้อใดจึงจะได้ ความสมบูรณ์ ก. ๑ ๓ ๒ ๕ ๔ 4. หากต้องการเขียนเรียงความเรื่อง แมวน้อยของฉัน ในส่วน ของเนื้อหาควรมีเรื่องใดบ้าง ก. ชื่อ ลักษณะ และและวัติของแมว ข. ข้อคิดจากเรื่อง , ลักษณะของแมว ค. ประเด็นสำคัญทั้งหมดพร้อมข้อคิด ง. ประเภทของแมว, ประโยชน์ที่ได้จากแมว 5. จงเรียงลำดับการเขียนเรียงความที่ดีให้ถูกต้อง ก. ๑ ๔ ๒ ๓ ข. ๔ ๒ ๓ ๑ ค. ๒ ๓ ๔ ๑ วัตถุประสงค์ที่ 4 เลือกสรรถ้อยคำที่จะนำมาเขียนเรียงความได้ น้ำหนักคะแนน…………………………. 1. เริ่มต้นเรื่อง ควรใช้ถ้อยคำจูงใจผู้อื่น คือส่วนใดของการ เขียนเรียงความ ก. สรุป ข. คำนำ ค. ชื่อเรื่อง ง. เนื้อเรื่อง 2. ข้อใดเป็นหลักการเลือกสรรถ้อยคำในการเขียนเรียงความที่ ไม่เหมาะสม ก. ใช้ภาษาแบบเป็นทางการ ข. คำที่ใช้มีความหมาย สะกดถูกต้อง ค. คำที่ใช้กะทัดรัด ชัดเจนอ่านเข้าใจง่าย ง. ใช้คำที่ทันสมัย เป็นคำที่บัญญัติใหม่ของวัยรุ่น 3. การเขียนอธิบายหรือบรรยายเหตุการณ์ที่เป็นข้อเท็จจริง ตามลำดับเหตุการณ์ เป็นการเขียนตรงไปตรงมา ไม่เยิ่นเย้อ หมายถึงข้อใด ก. เทศนาโวหาร ข. อธิบายโวหาร ค. บรรยายโวหาร ง. พรรณนาโวหาร 4. ชี้แจงให้ผู้อ่านเข้าใจ ชี้ให้เห็นประโยชน์หรือโทษของเรื่องที่ กล่าวถึง เป็นการชักจูงให้ผู้อื่นคล้อยตาม หมายถึงข้อใด ก. เทศนาโวหาร ข. อธิบายโวหาร ค. บรรยายโวหาร ง. พรรณนาโวหาร 5. การเขียนเป็นสำนวนเปรียบเทียบที่มีความคล้ายคลึงกัน เพื่อ ทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น หมายถึงข้อใด ก. อุปมาโวหาร ข. เทศนาโวหาร ค. บรรยายโวหาร ง. พรรณนาโวหาร วัตถุประสงค์ที่ 5 เขียนเรียงความเกี่ยวกับเรื่องเล่าประสบการณ์ผ่านเว็บบล็อกและเผยแพร่ได้ น้ำหนักคะแนน…………………………. 1. ต่อไปนี้ เป็นข้อดีของการเขียนเรียงความผ่านเว็บบล็อก ก. แทรกภาพประกอบเนื้อหาได้ ข. คัดลอกและวางเนื้อหาจากแหล่งข้อมูลได้ ค. เพิ่มความน่าสนใจด้วยการแทรกคลิปวีดิโอได้ ง. ผู้อ่านสามารถโต้ตอบและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นได้ 2. การกำหนดป้ายกำกับ (Tag) ให้กับเรียงความที่เผยแพร่ ก. สร้างความน่าสนใจให้กับผู้อ่าน ข. จัดหมวดหมู่เนื้อหาของเรียงความได้ ค. สร้างความถูกต้องและความสมบูรณ์เพิ่มขึ้น ง. ผู้อ่านสามารถโต้ตอบและเสนอแนะเกี่ยวกับเนื้อหาได้ 3. การเผยแพร่เรียงความผ่านเว็บบล็อก ผู้เรียนต้องใช้ข้อมูลใด เพื่อเข้าใช้เว็บบล็อก ก. บัญชี Gmail ของ Google ข. หมายเลขประจำตัวประชาชน ค. ชื่อ-สกุลและเลขประจำตัวประชาชน ง. ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ Facebook หรือ Google+ 4. ข้อใดเป็นทักษะและประสบการณ์จากการเขียนเรียงความ ผ่านเว็บบล็อกมากที่สุด ก. การเขียนเรียงความที่ดี ข. การใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้ ค. การใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง ง. การคัดลอกและจัดวางเนื้อหาได้รวดเร็ว 5. ต่อไปนี้ ข้อใดไม่สามารถทำได้จากการเขียนเรียงความผ่าน เว็บบล็อก ก. เผยแพร่ภาพที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ข. การแชร์เรียงความผ่าน Facebook ค. ส่งและแชร์เรียงความเผยแพร่ผ่านอีเมล ง. แก้ไขเนื้อหาเรียงความให้กับเพื่อนร่วมชั้น |