ตัวอย่างการเขียน personal statement ภาษาไทย

ศึกษาต่อต่างประเทศทุกระดับ ฟรีทุกขั้นตอน!

สารบัญ Show

Free Consultation
Free Services
Pre-departure

Update 21. 01.2021

5 mins read

สิ่งที่ยากที่สุดของการเขียน Personal Statement หรือ SOP คือ “การเริ่มต้น” น้อง ๆ อาจจะกำลังสับสน ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จะเขียนอะไรใน Personal Statement (SOP) ดี หรือมี เทคนิคการเขียน SOP ที่ดี ไหม

พี่ ๆ Myadmissions เลยเอาข้อแนะนำ การเขียน Personal Statement (SOP) ฉบับมหาวิทยาลัย Newcastle มาสรุปและแปลในบทความนี้ รับรองว่าเมื่ออ่านบทความนี้จบ น้อง ๆ จะสามารถเริ่มต้นเขียน Personal Statement (SOP) ได้อย่างแน่นอน

ใน Personal Statement หรือ SOP ต้องมีอะไรบ้าง?

1. เหตุผลในการเลือกเรียนต่อหลักสูตรนี้คืออะไร

น้อง ๆ ควรแสดงให้เห็นเหตุผล และแรงจูงใจ ที่ทำให้น้องเลือกเรียนสาขาวิชานี้ โดยเริ่มจากการตอบคำถามดังนี้

How did you decide on this subject? (ทำไมถึงเลือกเรียนสาขานี้)
What has influenced your choice? (อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจในการเรียนต่อสาขานี้)
Have certain people influenced you? (มีใครที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เราอยากเรียนต่อสาขานี้หรือเปล่า)
What did you do to find out more about it? (มีประสบการณ์อะไรที่ทำให้อยากเรียนรู้ในสาขานี้เพิ่มเติม)

2. ความรู้ในระดับปริญญาตรีของน้อง ๆ มีความเกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่สนใจเรียนต่ออย่างไร

ควรเขียนให้เห็นว่าความรู้ในระดับปริญญาตรีของน้อง ๆ มีความเชื่อมโยง หรือเกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่อยากเรียนต่อ โดยตอบคำถามเหล่านี้

Do you have relevant knowledge gained through a module, dissertation or project? (มีความรู้ที่เกี่ยวข้องในสาขาที่จะเรียนต่อหรือไม่ โดยอาจจะเป็นการเรียนในห้องเรียน การทำวิจัย หรือการทำ Project ต่าง ๆ ก็ได้)
How well did you perform in relevant modules? (วิชาที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่จะเรียนต่อ น้อง ๆ ทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน)
Have you been awarded any scholarships? (เคยได้รับทุนการศึกษาหรือไม่)
Do you have relevant technical or scientific skills? (มีทักษะที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่จะเรียนต่อหรือเปล่า)

3. หากจบมาไม่ตรงสาย มีประสบการณ์ด้านอื่น ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรไหม

ลองคิดดูว่าน้อง ๆ มีประสบการณ์ทำงานหรือฝึกงานเกี่ยวกับหลักสูตรที่อยากเรียนต่อบ้างไหม

Have you done voluntary or paid work in a related area? (เคยทำงานอาสาสมัครหรือมีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่สมัครเรียนต่อหรือไม่)
Do you have a personal interest in the subject? (มีความสนใจในตัวสาขาวิชาที่กำลังจะศึกษาต่อหรือไม่)
Are you involved in related extracurricular activities? (ได้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่ต้องการสมัครหรือเปล่า)

4. แสดงทักษะที่เกี่ยวข้อง พร้อมยกตัวอย่างให้ชัดเจน

เขียนแสดงให้เห็นว่าน้อง ๆ มีทักษะและคุณสมบัติในการเรียนต่อระดับปริญญาโท โดยยกตัวอย่างเหตุการณ์สำหรับทักษะนั้น เช่น

Work independently (สามารถทำงานคนเดียวได้)
Communicate effectively in written and oral formats (มีทักษะในการสื่อสารอย่างดีเยี่ยมทั้งการพูดและการเขียน)
Meet tight deadlines (สามารถทำงานในระยะเวลาที่กระชั้นได้)
Manage your time effectively (สามารถจัดการเวลาได้ดี)
Show resilience and determination (มีความยืดหยุ่นและมุ่งมั่นในการทำงาน)

โดยสามารถเขียนทักษะอื่น ๆ เพิ่มใน Personal Statement (SOP) ได้แต่มีข้อแม้ว่าทักษะนั้นต้องเกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่กำลังจะสมัครเรียน และไม่ควรเขียนแค่น้อง ๆ มีทักษะอะไร แต่ต้องยกตัวอย่างเหตุการณ์ให้ชัดเจนด้วยค่ะ

5. ทำไมถึงเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัยนี้

ลองตอบคำถามเหล่านี้ดูค่ะ

Are there certain academic staff you want to work with? (มีอาจารย์คนไหนที่เราอยากเรียนหรือทำวิจัยด้วยมั้ย)
Do they specialise in certain research areas that interest you? (อาจารย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในเรื่องที่เรากำลังสนใจอยู่หรือไม่)
Does the structure of the course attract you? (รายละเอียดหลักสูตรทำให้เราสนใจได้หรือไม่)
Does the university have a good teaching or research record? (ทางมหาวิทยาลัยมีการเรียนการสอนที่ดี หรือมีชื่อเสียงในด้านการทำวิจัยหรือไม่)

ไม่ควรเขียนซ้ำ หรือ copy ข้อมูลมหาวิทยาลัยจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ อ่านมานะคะ พยายามเขียนด้วยความคิดตัวเองดีกว่าค่ะ

6. เป้าหมายด้านอาชีพ

น้อง ๆ อาจยังไม่มีเป้าหมายด้านอาชีพการงานที่ชัดเจน แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องเขียนให้เห็นว่าน้อง ๆ ได้พิจารณา ตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนแล้วที่จะเรียนต่อ และเขียนให้ชัดเจนว่าหลักสูตรนี้จะช่วยต่อยอดอาชีพหรือเป้าหมายในชีวิตของน้อง ๆ ได้อย่างไร

ควรจะนำเสนอ Personal Statement หรือ SOP อย่างไร?

1. การวางโครงสร้าง Personal Statement (SOP)

ต้องมีโครงสร้างที่ชัดเจน โดยมี Introduction, Main body และ Ending

Introduction สำคัญมาก เพราะเป็นส่วนแรกที่จะดึงให้คนสนใจได้ทันที และอ่าน Personal Statement (SOP) ของเราต่อไปในเนื้อหาส่วนที่สอง
Main body จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ ความรู้ ทักษะ และความสนใจของน้อง ๆ เอาไว้
Conclusion เป็นส่วนที่น้อง ๆ ต้องสรุปให้เห็น evidence และเหตุผลในการสมัครเรียนหลักสูตร และมหาวิทยาลัยนี้

น้อง ๆ ควรเขียนเนื้อหาให้เกี่ยวข้องกับหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่ต้องการให้ได้มากที่สุด

2. ภาษา

เช็คให้แน่ใจว่า Personal Statement (SOP) ของน้อง ๆ เขียนถูกหลักไวยากรณ์ และไม่มีศัพท์คำไหนที่สะกดผิด นอกจากไวยากรณ์แล้ว น้อง ๆ ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่า Personal Statement (SOP) ของน้อง ๆ อ่านง่าย ผู้อ่านเข้าใจในสิ่งที่เราจะสื่อ

นอกจากนี้ควรเขียน Personal Statement (SOP) เพื่อแสดงทัศนคติในเชิงบวกและเขียนให้รู้สึกถึงความกระตือรืนร้น เพื่อแสดงให้ผู้อ่านเห็นว่าเราสนใจหลักสูตรนี้จริง ๆ

Tips การเขียน Personal Statement (SOP)

ก่อนจะเขียน Personal Statement (SOP) ในใบสมัคร ให้ลองเขียนในกระดาษหรือโปรแกรม word หลาย ๆ รอบดูก่อน จะได้ง่ายต่อการแก้ และทำให้น้อง ๆ ได้ Personal Statement (SOP) เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
หลังจากเขียนเสร็จ เอา Personal Statement (SOP) ให้เพื่อนหรือครอบครัวอ่านก่อน เพื่อเช็คว่าทุกคนเข้าใจตรงกับสิ่งที่เราจะสื่อใน Personal Statement (SOP) ก่อนส่งให้มหาวิทยาลัย

การเขียน Personal Statement (SOP) อาจจะยากในช่วงเริ่มต้น แต่ถ้าใครอ่านบทความ “การเขียน Personal Statement ฉบับ Newcastle University” จนจบแล้ว พี่ ๆ Myadmissions เชื่อว่าทุกคนจะได้ Idea ในการเริ่มต้นเขียน Personal Statement (SOP) กันนะคะ

สนใจเรียนต่อต่างประเทศหรือขอคำปรึกษาฟรี! คลิก