แต่งบ้าน มิ นิ มอ ล Pantip

รวม 9 รีวิวแต่งบ้านสไตล์มินิมอล สำหรับคนที่กำลังมองหาไอเดียสำหรับตกแต่งบ้าน หรือรีโนเวทบ้านใหม่ บอกเลยว่าสวย น่าอยู่ อบอุ่นทุกแบบ แถมยังได้กลิ่นอายแบบบ้านญี่ปุ่นอีกด้วย

แต่งบ้าน มิ นิ มอ ล Pantip

          ต่างคนต่างมีสไตล์การตกแต่งบ้านของตัวเอง สำหรับใครที่หลงใหลเสน่ห์การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลที่มีความอบอุ่นและเรียบง่าย ดูสบายตา กระปุกดอทคอมขอนำเสนอไอเดียแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ทั้งแต่งบ้านสไตล์มินิมอลญี่ปุ่น แต่งบ้านสไตล์มินิมอลคาเฟ่ แต่งบ้านสไตล์มินิมอลพร้อมสวน และแต่งบ้านมินิมอลแบบอื่น ๆ ลองมาส่องกันเลย บอกเลยว่าบ้านแต่ละหลังไม่ธรรมดา

1. แต่งบ้านมินิมอลพร้อมพื้นที่สีเขียว

บ้านมินิมอลท่ามกลางธรรมชาติอาจเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน ยกตัวอย่างการแต่งบ้านมินิมอลจาก คุณ Natnaree Pann ที่อาศัยประสบการณ์จากการที่เคยรีโนเวทคอนโดเก่าพร้อมกับการหาไอเดียการแต่งบ้าน จนได้บ้านโทนสีขาวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้จัดเข้ามุมเพื่อความเป็นระเบียบ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากสวนหย่อมหน้าบ้าน

2. แต่งบ้านมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น

จากประสบการณ์ชอบเที่ยวญี่ปุ่นและความหลงใหลไอเดียแต่งบ้านของญี่ปุ่น จึงเป็นที่มาของการตกแต่งบ้านมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น ของ คุณ Mom Diary ภายในบ้านเน้นแสงธรรมชาติและโทนสีขาวสว่าง ตัดกับเฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำตาลอ่อน มีมุมรวมภาพถ่ายครอบครัวและการท่องเที่ยว เพิ่มพื้นที่ซักล้างอุปกรณ์ครัวด้านข้างครัว และมีห้องของเล่นสำหรับลูกชายตัวน้อย

3. แต่งบ้านมินิมอลเป็นเฮ้าส์สตูดิโอสไตล์ญี่ปุ่น

ใครจะไปเชื่อว่าตึกแถวจับมาแต่งสไตล์มินิมอลก็ดูสวยงามไปอีกแบบ ยกตัวอย่าง อ Studio แปลงร่างตึกแถว 2 คูหา 3 ชั้น เป็น House Studio คือ หลังหนึ่งเป็นบ้าน อีกหลังหนึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายรูป โดยเน้นความเรียบคลีน โทนสีเน้นสีขาวและงานไม้เป็นหลัก ที่สำคัญใช้เฟอร์นิเจอร์บิวต์อินเกือบทั้งหลัง พร้อมติดกระจกให้สว่างเพิ่มแสงธรรมชาติ 

4. แต่งบ้านมินิมอลกลิ่นอายคาเฟ่

ทุกเช้าหรือทุกวันหยุดหลายคนอาจอยู่ติดบ้าน ถ้าได้แต่งบ้านมินิมอลสไตล์คาเฟ่ จาก เฟซบุ๊ก บ้าน MUJI Minimal Style by Sissay Group แปลงร่างบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่ 18 ตารางวา มีกลิ่นอายคาเฟ่ด้วยโทนสีขาวกับสีไม้อ่อน ๆ ด้านหน้าทำเป็นสวนเล็ก ๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยระแนงบังตาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และเฟอร์นิเจอร์หวายโทนสีเดียวกัน

5. แต่งบ้านมินิมอลเน้นโทนสีสว่างและวัสดุธรรมชาติ

ทาวน์โฮมเก่าจับมาแปลงโฉมใหม่สไตล์มินิมอลก็กลับมาน่าอยู่อีกครั้ง ยกตัวอย่างไอเดียแต่งบ้านมินิมอล จาก คุณ NutSorayut แต่ละห้องเน้นสีโทนสว่างและวัสดุธรรมชาติ เช่น พื้นไม้ กระเบื้องลายหินอ่อน พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการนำต้นไม้กระถางมาวางไว้ตามมุมต่าง ๆ อาทิ ต้นยางอินเดีย ต้นกวักมรกต เฟิร์น เป็นต้น พร้อมมีห้องทำงานแบบง่าย ๆ มีแค่โต๊ะทำงานและโซฟาสำหรับพักผ่อน

6. แต่งบ้านมินิมอลในแฟลตตำรวจ

ห้องพักในแฟลตตำรวจเก่า ๆ ถ้าอยากปรับปรุงใหม่สไตล์มินิมอล ลองมาดูฝีมือของ คุณ Sao Va Rin เริ่มจากห้องนั่งเล่นทาสีขาว ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และตะกร้าหวาย ตัดด้วยพรมสีเทา และเพิ่มความสดใสจากโซฟาสีเหลือง ห้องนอนมีเตียงนอนสีขาวและราวแขวนเสื้อผ้าสีดำ ห้องครัวเน้นโทนสีขาว ส่วนห้องน้ำเน้นสีเทาอ่อน

7. แต่งบ้านมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่นมีสวนหย่อมข้างบ้าน

บ้านเดี่ยวหน้าตาธรรมดาถ้าได้รับการตกแต่งคงจะน่าอยู่ไม่น้อย ยกตัวอย่างไอเดียแต่งบ้านมินิมอล จาก The hauser ตัวบ้านสีขาว มีสวนหย่อมขนานไปกับแนวกำแพง ประตูเข้าบ้านเป็นประตูไม้บานพับให้กลิ่นอายญี่ปุ่น ทุกห้องตกแต่งด้วยสีขาวและเฟอร์นิเจอร์ไม้ และมีหน้าต่างทุกจุด ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ และห้องดูกว้างขึ้นด้วย

8. แต่งบ้านมินิมอลจากภาพวาดสู่ภาพจริง

เนื่องจากผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @so_station อยากสร้างบ้านมินิมอลให้พ่อ จึงได้วาดภาพขึ้นมาโดยมีพ่อช่วยดูแลหน้างานให้อีกทาง ตัวบ้านเป็น 2 ชั้น สีขาวคลีน ๆ สลับกับสีไม้ ภายในตกแต่งด้วยโทนสีอ่อนสบายตา เน้นต้นไม้วางมุมต่าง ๆ และเน้นความสว่างจากแสงธรรมชาติ หน้าบ้านปูสนามหญ้าขนาดย่อมเพื่อเพิ่มความร่มรื่น

9. แต่งบ้านมินิมอลโทนสีน้ำตาล-ขาว

บ้านเดี่ยวโล่ง ๆ กลายเป็นบ้านสไตล์มินิมอลตามสมัยได้ ยกตัวอย่างจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 6316346 เว็บไซต์พันทิปดอทคอม นอกบ้านปูพื้นหญ้าเพิ่มความสดชื่น ภายในบ้านเริ่มจากแต่งห้องนั่งเล่นด้วยโทนสีน้ำตาลอ่อนสลับกับขาว ใส่เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนเข้าไปเพิ่มความอบอุ่น ห้องนอนและห้องครัวคุมโทนสีน้ำตาลให้เข้ากับตัวบ้าน

ถ้าชอบบ้านสไตล์มินิมอล แต่งเรียบ ๆ เน้นฟังก์ชัน แต่ก็ดูสวยงามและน่าอยู่ ก็ลองนำไอเดียจากรีวิวแต่งบ้านสไตล์มินิมอลเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู รับรองว่าออกมาดูดีถูกใจตามที่ต้องการแน่นอน ไม่ว่าจะแต่งบ้านใหม่ ปรับปรุงบ้าน หรือรีโนเวทคอนโด เสร็จแล้วก็สามารถนำไอเดียมาแชร์ต่อได้นะคะ

กระทู้ แต่งบ้าน pantip การมีชีวิตอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ ถึงกลางๆ กลางๆ นั้นคือการอยู่ในสภาวะที่ไม่คุ้นเคย อพาร์ทเมนต์ใหม่! ย่านใหม่! เมืองใหม่! แต่ในขณะที่พลบค่ำของทศวรรษแห่งการสร้างหนึ่งมืดลงและยุคใหม่ที่มีเสถียรภาพมากขึ้นกำลังใกล้เข้ามา คุณอาจต้องการสภาพแวดล้อมที่สงบและมีสไตล์มากขึ้น อาจจำเป็นต้องมีเคล็ดลับการตกแต่งบ้าน: เฟอร์นิเจอร์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่คุณได้รับมาจากเพื่อนร่วมห้องเก่านั้นไม่เหมาะกับสไตล์ของคุณ

กระทู้ แต่งบ้าน pantip

แต่งบ้าน มิ นิ มอ ล Pantip
แต่งบ้าน pantip

10 ขั้นตอนแต่งห้องให้เป๊ะปังเหมือนมืออาชีพ

ภาพของห้องสวยๆ ที่เคยเห็นตามนิตยสารบ้านสมัยก่อนหรือจากในเว็บไซต์ต่างๆ (รวมทั้งในห้องชายคาด้วยนะ) ทำให้เราอยากมีห้องในฝันจัดเป็นระเบียบสวยงามแบบนั้นบ้าง แต่ทำไมนะเวลาแต่งบ้านทีไรถึงไม่ได้ตามภาพที่เห็นเลย

ก็เพราะว่าภาพที่เห็นในนิตยสารต่างๆ มีสไตล์ลิสต์ช่วยจัดทุกอย่างให้เป๊ะปัง รอบรั้วชายคาได้อ่านวิธีการจัดตกแต่งบ้านของสไตล์ลิสต์ เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ อ่านกันว่าขั้นตอนการเปลี่ยนพื้นที่ห้องให้เหมือนมืออาชีพต้องทำยังไง

เก็บ VS ทิ้ง
เรียกว่าเป็นการเล่นเกมทิ้ง VS เก็บ เมื่อเรารู้แล้วว่าต้องการห้องสไตล์ไหน ไม่ว่าจะเป็นลอฟท์ สแกนดิเนเวียน มินิมอล โมเดิร์น วินเทจ เราก็ต้องมาดูข้าวของแต่งบ้านในห้องว่ามีอะไรที่เข้ากับสไตล์มีอยู่ในใจหรือเปล่า ถามใจตัวเองว่าของชิ้นนั้นถ้าเราทิ้งแล้วจะคิดถึงหรือเปล่า สำหรับคนที่ตัดใจไม่ได้ซะที ลองจัดประเภทเป็น 3 กลุ่มคือ สวย ใช้งานได้ มีคุณค่าทางใจ ของที่เก็บควรจะมีคุณสมบัติข้อใดก็ข้อหนึ่ง หรือถ้ามีพื้นที่เล็กของชิ้นนั้นต้องมีคุณสมบัติ 2 ข้อขึ้นไป

มู้ดบอร์ด
เวลาอินทีเรียดีไซเนอร์ออกแบบห้องก็ต้องมีคอนเซ็ปต์ มีมู้ดบอร์ดเพื่อเวลาไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ เลือกของตกแต่งบ้านจะไม่ได้หลุดจากคอนเซ็ปต์ เราสามารถจะใช้วิธีแมนนวลดั้งเดิมคือการตัดรูป ผ้า สี และเฟอร์นิเจอร์ที่ชอบแล้วแปะลงในแผ่นบอร์ด หรือจะใส่ไว้ใน pinterest ก็ได้ หลังจากนั้นก็ค่อยมาดูสิ่งของที่ต้องการว่าเหมาะสมกับกับพื้นที่ การใช้งาน และงบประมาณหรือเปล่า เวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

จัดเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นต้องมีก่อน
จัดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในห้อง เช่น โซฟา เตียง โต๊ะ หมอน พรม และผ้าม่านว่าเข้ากับสไตล์ที่เราคิดไว้หรือเปล่า ถ้ามีข้าวของไหนที่หลุดคอนเซ็ปต์ก็จะทำให้สไตล์เปลี่ยนได้

ถ้าเรากำลังจะแต่งห้องนั่งเล่นใหม่ สิ่งที่ต้องคิดถึงมากที่สุดก็คือควรจะทาสีใหม่หรือเปล่า เฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางอยู่เหมาะสมกับการนั่งคุยหรือเดินไปมาได้สะดวกหรือไม่ ผ้าม่านเข้ากับสไตล์ที่คิดไว้แล้วหรือยัง เราควรหาพรมใหม่ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ที่คิดไว้หรือเปล่า นอกจากนี้ห้องควรจะบอกบุคลิกลักษณะของเจ้าของบ้านด้วย

เมื่อเราจัดการของชิ้นใหญ่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทำความสะอาด ชั้นวางให้โล่งจะได้จัดข้าวของใหม่เข้าไปได้สะดวก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาหยิบจับของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กๆ เข้าไปในห้อง

จัดในสิ่งที่มีก่อน
อย่างเพิ่งไปเดินซื้อของประดับบ้านถ้ายังไม่ไม่ดูของประดับบ้านที่เรามีอยู่ วางของตกแต่งบ้านที่มีอยู่ไว้รวมกันบนพื้นแล้วจัดกลุ่มของที่เหมือนกันไว้เข้าด้วยกันเพื่อโชว์เป็นคอลเลคชั่นเดียวกัน

ของประดับที่เหมาะกับทุกสไตล์คือ กล่องปิดสำหรับเก็บข้าวของที่ไม่อยากโชว์ สิ่งประติมากรรมเหมาะที่จะวางไว้ทุกพื้นที่ และถาดสำหรับเก็บข้าวของกระจุกกระจิกรวมกัน

ของตกแต่งเล็กๆ โชว์เป็นกลุ่มจะทำให้เล่าเรื่องและมีอิมแพ็คมากกว่า เช่น รูปภาพตกแต่งควรมีหลายรูป สำหรับของสะสมที่มีอยู่ให้เลือกของที่เด่นที่สุดมาโชว์ เมื่อใดที่เริ่มรู้สึกเบื่อบรรยากาศห้องขึ้นก็สามารถเปลี่ยนได้

สร้างคาแรกเตอร์
ห้องแต่ละห้องต้องมีจุดสร้างความสนใจ เพื่อให้คนอื่นๆ หยุดดู และจะทำให้ไม่เหมือนออกมาจากแคตตาล็อกเฟอร์นิเจอร์ เลือกของตกแต่งบ้านที่เด่นและมีคาแรกเตอร์แล้ววางของตกแต่งอื่นไว้โดยรอบจะทำให้ห้องไม่น่าเบื่อ ถ้าเจ้าของห้องรู้สึกเบื่อกับห้องตัวเอง คนอื่นๆ ก็จะรู้สึกแบบเดียวกัน

เลือกซื้อของประดับ
การจัดห้องก็เหมือนการแต่งตัว เสื้อผ้าคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก แอสเซสซอรี กระเป๋า รองเท้า สร้อย แหวนก็เหมือนของประดับตกแต่งบ้าน ทุกอย่างจะไปได้สวยได้ถ้าเฟอร์นิเจอร์หลักและของประดับตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อเราจัดห้องด้วยข้าวของที่มีอยู่แล้ว เราก็จะรู้แล้วล่ะว่าพื้นที่นี้ขาดอะไรไปบ้าง ถึงเวลาไปเลือกซื้อของที่ต้องการ ส่วนมากจะเป็นของเล็กๆ ที่สร้างความสวยงาม เช่น ดอกไม้ งานศิลปะ จานชามจะทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา

ตกแต่งให้ครบ
ถึงเวลาให้ความคิดสร้างสรรค์ทำงานแล้ว เปิดเพลงที่ชอบเวลาตกแต่งบ้าน ใช้เทคนิคสร้างความแตกต่างเพิ่มความโดดเด่นคือนำของที่มีลักษณะไม่เหมือนกันมาอยู่รวมกันจะทำให้รู้สึกว่าภายในห้องมีพลังงานมากกว่า และหลักการใช้ของ 3 อย่างโดยรวมแล้วของตกแต่งควรจัดเรียงเป็นเลขคี่ 3, 5, 7 จะสวยกว่าเลขคู่ และจึงค่อยไปจัดมุมอื่นๆ อย่าลืมที่จะต้องจัดแต่ละมุมในบ้านให้เกี่ยวเนื่องระหว่างกันด้วย ไอเดียแต่งบ้านทาวน์โฮม

ดูภาพรวม
หลังจากจัดห้องเสร็จแล้วตามสไตล์ที่ชอบแล้วก็ได้เวลาดูภาพรวมของห้อง ถ่ายรูปห้องด้วยมือถือเก็บไว้ เพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่ามีพื้นที่ไหนขาด มีพื้นที่ไหนล้น ทางทีดีโหลดใส่คอมฯ แล้วขยายดูภาพใหญ่จะเห็นรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น จดโน้ตในสิ่งที่ต้องการเปลี่ยนเอาไว้ เช่น ตรงมุมซ้ายดูรกไปหรือมีน้อยไป ดอกไม้ที่วางไว้อยู่ตรงกลางแล้วหรือยัง ทำเป็นลิสต์เอาไว้แล้วเดินไปจัดห้องใหม่หลังจากดูภาพรวมหมดแล้ว

แก้ไข
ตอนนี้ถึงเวลาดูแล้วว่าการตกแต่งห้องต้องแก้ไขอะไรบ้าง เป็นเวลาของการย้ายเข้า ย้ายออก จับโน่นผสมนี่ และถ่ายรูปเก็บไว้อีกทีเพื่อเปรียบเที่ยบกับรูปที่ถ่ายตอนแรก และดูว่าต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง จนกว่าจะชอบในสไตล์ของตัวเอง

อย่าปล่อยให้เหงา
งานตกแต่งห้องเสร็จแต่คนไม่เสร็จ เพราะบางทีเราก็เบื่อได้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง เราไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่แต่เป็นนำของจากที่ต่างๆ มาวางใหม่ก็สามารถเล่าเรื่องราวใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศของห้องได้เหมือนกัน

เมื่อรู้ขั้นตอนการจัดห้องแบบมืออาชีพแล้ว ช่วงนี้อยู่บ้านกันนานๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศของห้องให้สดใสกันดีกว่า บางทีเพื่อนๆ ก็อาจจะพบกับความคิดสร้างสรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวก็ได้

จากคุณ : รอบรั้วชายคา

ดูเพิ่มเติมที่: RENT AND BUY VILLA PHUKET.

แต่งบ้านสไตล์ Modern loft

แต่งบ้าน มิ นิ มอ ล Pantip
แต่งบ้าน pantip

แชร์ไอเดียง่ายๆ อยู่บ้านยังไงให้สุขกายและสบายใจ 

เราอยู่ในยุค New Normal มาเป็นเวลาเกือบจะหนึ่งปีแล้ว วิถีชีวิตตอนนี้เวลาออกไปไหนมาไหนก็ใช้เวลาน้อยลง ทำธุระนอกบ้านเสร็จก็รีบกลับบ้านหรือเวลาเลิกงานแล้วก็ไปแฮงค์เอาท์ที่ไหนไม่ได้มากเท่าเมื่อก่อน เราเลยใช้เวลาอยู่บ้านนานมากขึ้น 

ม่ว่าจะทำงานเหนื่อยแล้วกลับบ้านหรืออยู่บ้านยาวๆ รอบรั้วชายคามีไอเดียอยู่บ้านยังไงให้สุขกาย สบายใจมาฝากจ้ะ มาเริ่มกันเลย…

เพิ่มจุดทำความสะอาด
เวลาจะเข้าบ้านอย่าลืมว่าเรานำเอาเชื้อโรคและความสกปรกเข้ามาด้วย เพื่อความปลอดภัยควรจะมีจุดทำความสะอาด มีพรมเช็ดเท้าก่อนเข้าบ้าน ทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ และใช้ทิชชู่เปียกทำความะอาดกระเป๋าก่อนเข้าบ้าน บ้านจะได้มีเลอะสกปรก คนในบ้านก็ปลอดเชื้อโรคจากข้างนอกได้ด้วย

รับแสงแดด
วันไหนอยู่บ้านก็เปิดหน้าต่างก็ช่วยให้อากาศหมุนเวียน แสงแดดทำให้บ้านมีชีวิตชีวา ทำให้ห้องปลอดโปร่ง ช่วยกำจัดเชื้อรามุมอับชื้นภาย และลดพลังงานการใช้ไฟฟ้าสว่างภายในบ้าน

ทางด้านจิตใจแสงแดดช่วยกระตุ้นให้สมองผลิตเซโรโทนินหรือสารที่ทำให้รู้สึกดีทำให้เรารู้สึกกลับมามีชีวิตชีวา ยิ้มง่ายขึ้น ไม่เบื่อหน่ายอีกต่อไป

สร้างกลิ่นสะอาดในบ้าน
กลิ่นหอมช่วยทำให้เรามีอารมณ์ดีมากขึ้น พื้นที่แตกต่างกันก็ต้องการกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนกัน พื้นที่ทำงานและห้องนั่งเล่นควรใช้กลิ่นหอมที่ช่วยสร้างความกระปรี้กระเปร่าอย่างเช่นกลิ่นเปเปอร์มินต์ กลิ่นเลมอน ห้องนอนควรเป็นกลิ่นที่ผ่อนคลาย เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์และกลิ่นมะลิ

กลิ่นสะอาดก็หมายถึงบ้านไม่มีกลิ่นด้วยเช่นเดียวกัน สำรวจรอบบ้านว่าถังขยะ ที่นอนน้องหมาแมวทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือเปล่า บางทีเราอยู่บ้านเป็นประจำเลยไม่ได้สังเกตว่ามีกลิ่นเหล่านี้ติดอยู่ในบ้านจึงควรทำความสะอาดถังขยะบ่อยๆ เอาน้องหมาน้องแมวไปอาบน้ำ ใช้ถังขยะใบเล็กลงทำให้เราไปทิ้งขยะบ่อยขึ้น ไม่ก่อกลิ่นเหม็นในบ้าน

พื้นที่สีเขียว
ช่วงนี้ออกจากบ้านไปชื่นชมบรรยากาศภายนอกนานก็คงไม่ปลอดภัยเท่าไรได้แค่ไปแป๊บๆ แล้วกลับบ้านเท่านั้น อยู่บ้านมากขึ้นก็มาสร้างมุมบรรยากาศสดชื่นด้วยต้นไม้กันดีกว่า

ต้นไม้ที่สามารถปลูกไว้ในบ้านได้เช่น ว่านหางจระเข้ เดหลี พลูด่าง เขียวหมื่นปี เฟิร์นดาบออสเตรเลีย หรือโหระพาไทยเป็นทั้งต้นไม้ฟอกอากาศและยังมีฟอร์มสวยด้วย เป็นมุมผักผ่อนสายตาในยามที่ต้องอยู่บ้านเป็นเวลานาน

สร้างมุมพักผ่อน
หามุมสงบสร้างเป็นมุมส่วนตัวเช่น มุมเก้าอี้ข้างเตียง มุมหน้าต่างใกล้สวน นำเก้าอี้หรือเบาะนุ่มๆ โต๊ะข้าง โคมไฟ สำหรับดูคลิป เล่น Netflix เล่นเกม อ่านหนังสือ ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่สบายใจหรือจะหลับสักตื่นเอาเรี่ยวแรงก็ยังได้

ผลัดเปลี่ยน หมุมเวียน
เพิ่มบรรยากาศใหม่ในบ้านได้ด้วยข้าวของตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ แต่มีอิมแพ็คเยอะ เปลี่ยนดอกไม้ในแจกันทุกสัปดาห์ สลับใช้จานชามเพิ่มสีสันบนโต๊ะอาหาร เฟอร์นิเจอร์ไหนที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกก็เปลี่ยนมุมบ้างก็ได้ เปลี่ยนโต๊ะทำงานที่บ้านไปอยู่ที่มุมอื่นบ้างก็ได้ทำให้บรรยากาศไม่จำเจ

เป็นระเบียบ
เมื่อกลับมาจากทำงานเหนื่อยแล้วเข้าบ้านแลัวเห็นห้องสกปรกไม่เป็นระเบียบ มันจะทำให้เราพาลหงุดหงิดก็ได้ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ทิ้งไป หมั่นเก็บของให้เป็นระเบียบ กล่องต่างๆ ช่วยได้ เช่น เก็บรองเท้าไว้ในกล่อง จดหมายกุญแจบ้านกุญแจรถไว้ในถาด จัดตู้เสื้อผ้าให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันทำให้หาของที่ใช้ได้ง่ายขึ้น

ความเป็นระเบียบก็ทำให้เรารู้สึกว่ากลับบ้านมาชีวิตไม่ได้ยุ่งเหยิงเหมือนอยู่ข้างนอก บ้านเราเองทำความสะอาดเอง เห็นแล้วก็รู้สึกภูมิใจด้วยตัวเอง

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีที่ไหนสุขใจเหมือนอยู่ที่บ้านเรา” ยังคงใช้ได้เสมอ ถึงปัญหาจะผ่านมากี่ระลอก บ้านและครอบครัวยังรอเรากลับมาเสมอ