นิยาย นางเอกพิการ ท้อง ธัญ วลัย

เช้าวันนี้ยังคงเหมือนเดิม ว่าที่คุณแม่ต้องลงมาเตรียมจัดแจงทำอาหารเอาไว้ให้เขารับประทานก่อนออกไปทำงาน ดังคำที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง แต่ที่ไม่เหมือนเดิมในวันนี้คือการที่ชายหนุ่มสอดแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาเข้ามาโอบรอบเอวหนาหน้าท้องนูนของเธอจากทางด้านหลังแล้วฝังจมูกลงบนต้นคอขาวเนียน

“วันนี้ทำอะไรนะหืม หอมจังเลย”

“วันนี้ฉันทำข้าวต้มกุ้งให้คุณก่อนไปทำงานค่ะ แล้วก็ทำปลาหมึกผัดไข่เค็มใส่กล่องไปให้คุณทานเป็นมื้อกลางวัน” แม่ครัวยิ้มแย้มสดใสขณะบอกเมนูอาหาร

“เดี๋ยวเย็นนี้ฉันจะกลับมาช่วยลงแปลงกุหลาบนะ แล้วเดี๋ยวฉันต้องไปทำงานที่มาเลเซียประมาณสองสัปดาห์ ถึงตอนนั้นคงต้องเอาเธอไปฝากไว้กับยัยนารา แล้วพอฉันกลับมา เราจะแต่งงานกัน”

เหมือนคนตัวเล็กหูพิการไปชั่วคราว นี่เธอได้ยินไม่ผิดหูไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม

“แล้วภรรยาของคุณละคะ”

“ฉันเคยรักและรอเขากลับมาแต่งงาน การแต่งงานของเรามันเป็นเรื่องการเชื่อมสัมพันธ์และรักษาอำนาจระหว่างสองแก๊ง ทุกอย่างมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้รักเขาแบบเดิมแล้ว แล้วเธออยากรู้ไหมว่าฉันรักใคร”

ชญาดาไม่กล้าที่จะถามออกไปเพราะเธอรู้ดีว่าตัวเธอนั้นไม่คู่ควรกับเขาเลยสักนิด

“ถ้าเธอยังไม่พร้อมฟัง ฉันจะยังไม่พูด แต่ช่วยรอฟังหลังจากที่ฉันกลับมาจากมาเลเซียทีนะ”

หญิงสาวไม่พูดพร่ำเธอรีบยกถ้วยข้าวต้มไปวางไว้บนโต๊ะให้เขาเพราะไม่อาจจะทนความหวานหยดย้อยที่พ่อของลูกพยายามจะส่งมาทางเธอ

“นี่ข้าวกล่องของคุณค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ”

ชญาดามายืนส่งภูผาที่รถก่อนจะยื่นกล่องอาหารและจับสูทและเนกไทด์ของเขาให้เข้าที่ ภูผาก้มตัวลงไปที่หน้าท้องนูน ฝ่ามือหนาลูบอย่างแผ่วเบา

“คุณพ่อไปทำงานก่อนนะครับ เป็นเด็กดีไม่ดื้อกับคุณแม่นะ”

ก่อนที่จะลุกขึ้นมาขโมยหอมแก้มคุณแม่ตัวเล็กที่ท้องโตใหญ่กว่าคนทั่วไปแล้วรีบหนีขึ้นรถไปเลย มือบางยกขึ้นมาลูบแก้มใสอย่างแผ่วเบาด้วยความเขินอายที่ตอนนี้แก้มของเธอมันกำลังเห่อร้อนและแดงแจ๋ลามไปจนถึงใบหู

ตกเย็นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์สีดำประจำตำแหน่งเคลื่อนตัวเข้ามาในบ้านโดยที่มีว่าที่คุณแม่ยืนรอต้อนรับเขากลับมาจากที่ทำงานดังเช่นทุกวัน บรรยากาศเหล่านี้มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่านี่คือครอบครัวที่เขาโหยหาปรารถนาและอยากได้มาโดยตลอด หลังจากที่ชายหนุ่มขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เขาจึงเดินตามว่าที่คุณแม่ลงไปยังสวนหลังบ้านเพื่อช่วยกันสรรค์สร้างเนรมิตแปลงดอกกุหลาบสีชมพูที่หญิงสาวต้องการ

“คุณภูคะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อของชายหนุ่มที่กำลังขะมักเขม้นเอาต้นกุหลาบลงดินให้เงยหน้าขึ้นมาหาเธอ

“คุณภูเหงื่อออกค่ะ เดี๋ยวฉันเช็ดให้นะคะ”

ไม่พูดเปล่า หญิงสาวยกสองมือที่เปรอะเปื้อนไปด้วยดินร่วนจากการปลูกต้นไม้มาปาดหน้าให้ชายหนุ่มอย่างจงใจ

“ฉันรู้นะยัยตัวแสบ” ว่าแล้วเขาก็จัดการหันหลังไปคว้าเอาสายยางแล้วเปิดก๊อกน้ำมาไล่ฉีดน้ำใส่แม่คนขี้แกล้ง สองหนุ่มสาววิ่งเล่นฉีดน้ำใส่กันประหนึ่งสวนหลังบ้านคือที่ใช้เล่นน้ำสงกรานต์

“พอแล้วคะคุณภู เปียกกันไปหมดแล้ว ขึ้นบ้านไปอาบน้ำทานข้าวกันเถอะค่ะ”

พูดจบร่างอุ้ยอ้ายลอยหวือขึ้นไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา จนเธอตกใจรีบใช้สองแขนคว้าจับคล้องคอของเขาเอาไว้

“หมอนัดอัลตร้าซาวด์วันไหนหรอริสา ผมว่าคุณท้องใหญ่เกินคนอื่นที่อายุครรภ์เท่ากับคุณนะ”

“พรุ่งนี้ค่ะ”

“พรุ่งนี้ฉันไม่ว่างทั้งวันเลย ขอเลื่อนหมอหน่อยได้ไหม อยากเห็นลูกพร้อมกับเธอ”

หลังจากคุยกันเสร็จว่าที่คุณพ่ออุ้มคุณแม่ร่างอุ้ยอ้ายเดินขึ้นบ้านตรงเข้าไปในห้องน้ำทันที

“คุณภูส่งฉันแค่หน้าห้องน้ำก็พอค่ะ ไม่เห็นต้องเข้ามาด้วยเลย”

“เธอยังจะอายอะไรอีก ทำเหมือนอย่างกับฉันไม่เคยเห็น จนอีกไม่กี่เดือนลูกจะออกมาให้วิ่งไล่จับได้อยู่แล้ว”

“แต่ก็ยังอายอยู่ดีนี่คะ”

“ไม่ต้องอายหรอก ฉันกลัวเธอจะลื่นหัวฟาดพื้นมากกว่า ดูสิท้องก็ใหญ่ เท้าก็เริ่มบวม”

โปร E-book 109 บาท วันสุดท้ายนะคะ กดได้ที่ Meb เลยจ้า

หนังสือยังเปิดจองอยู่ถึง30มิย ราคา 250 บาทรวมส่ง สนใจติดต่อได้ที่เพจ "พลอยลลินณ์" ค่ะ

ฟ้าระดา พิมุกวนิช น้ำฟ้า อายุ 24 ปี 

"คุณแม่จะให้ฟ้าแต่งงานแทนพี่ฝนจริงๆหรอคะ คุณดลจะจับไม่ได้หรอคะ" 

นพดล อัศวะเมธา ดล อายุ 30 ปี 

"น้ำฝนไปใหน แล้วเธอเป็นใคร" 

สิริรัตน์ พิมุกวนิช น้ำฝน อายุ 26 ปี 

" ขอโทษนะตัวจริงของพี่ดลคือฉันเท่านั้น จำใส่หัวเธอไว้ อย่าได้คิดว่าตัวเองคือตัวจริงของพี่ดลล่ะ อย่าให้ฉันรู้ไม่งั้นฉันไม่เอาแกไว้แน่ นังฟ้า" 

บุคคลในรูปไม่ไดมีส่วนเกี่ยวข้องกับนิยายใช้เป็นอิจเมจเท่านั้น 

คำโปรย 

เพื่อตอบแทนบุญคุณที่คนเป็นแม่ยกมาอ้างเธอจึงต้องจำยอมแต่งงานกับนพดล ชายพิการ ตาบอด ขาเดินไม่ได้ 

อุบัติเหตุครั้งใหญ่ทำให้ชายหนุ่มต้องตกมาอยู่ในสภาพพิการเช่นนี้ 

น้ำฟ้าไม่มีทางเลือกนอกจากยอมเป็นตัวแทนพี่สาวแต่งงานกับนพดล หญิงสาวดูแลสามีในนามอย่างดีจนกระทั้งชายหนุ่มหายดี แต่พี่สาวตนกับกลับมาทวงตำแหน่งเมียคืน น้ำฟ้าจึงต้องจำยอมหอบใจช้ำๆกับลูกในท้องหลบออกมา รักษากายใจเพียงรำพัง