Show
โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร โรคข้อเสื่อมเป็นโรค ที่พบได้บ่อยที่สุด ในบรรดาโรคข้อทั้งหลาย มักพบได้ในคนมีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนที่บุปลายกระดูกข้อ เป็นเหตุให้ผิวของกระดูกอ่อนเปลี่ยนสภาพจากผิวเรียบมันกลายเป็นผิวขรุขระ เป็นผลให้ข้อมีการติดขัดเวลาเคลื่อนไหวของ เกิดความเจ็บปวด โรคข้อเสื่อมจะเกิดกับส่วนใดของร่างกายได้บ้างข้อเสื่อมเกิดได้เกือบทุกแห่ง มักพบกับข้อใหญ่ ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวมากหรือข้อที่รับน้ำหนักมาก เช่น ข้อเข่าข้อสะโพกข้อเท้าข้อกระดูกสันหลังและกระดูกคอ ปัจจัยอื่นๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับการเป็นโรคนี้ ได้แก่การบาดเจ็บ, อายุที่มากขึ้น, คนอ้วน น้ำหนักเกิน น้ำหนักที่มาก จะทำให้ข้อรับน้ำหนักมาก ทำให้ข้อนั้นๆ เสื่อมเร็วขึ้น, ผู้ที่มีโรคกระดูกพรุน, ผู้ที่มีอาชีพที่ต้องยืนหรือเดินเป็นประจำ, เพศหญิงมีโอกาสเกิดข้อเสื่อมได้มากกว่าเพศชาย เนื่องจากความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อน้อยกว่าเพศชาย, กรรมพันธุ์, ยาหรือสารเคมีบางอย่าง อาการ อาการจะค่อยๆเริ่มเป็นทีละน้อย มีอาการปวดเมื่อยเวลาใช้งานข้อ บางครั้งมีเสียงกรอบแกรบเวลาเคลื่อนไหว อาจจะมีอาการข้อตึงหรือข้อติดเวลาพักการใช้ข้อนานๆ เมื่อเป็นมากขึ้น กระดูกผิวข้อสึกหรอมากขึ้น จะทำให้ปวดมากเวลาใช้งานข้อ อาจจะพบว่ามีการผิดรูปของข้อ หรือมีการบวมอักเสบ มีน้ำในข้อ และอาจไม่สามารถใช้งานข้อนั้นๆได้ การรักษา การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม 1. ต้องลดน้ำหนักตัว เพราะการลดน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมจะลดแรง 2. ท่านั่ง ควรนั่งบนเก้าอี้สูงระดับเข่า ซึ่งเมื่อนั่งห้อยขาแล้วฝ่าเท้าจะ 3. เวลาเข้าห้องน้ำ ควรนั่งถ่ายบนโถนั่ง 4. ควรนอนบนเตียง ไม่ควรนอนราบกับพื้น เพราะต้องงอเข่าเวลา 5. หลีกเลี่ยงการขึ้น-ลงบันได 6. หลีกเลี่ยงการยืน หรือการนั่งในท่าเดียวนาน ๆ 7. การเดิน ควรเดินบนพื้นราบ ใส่รองเท้าส้นเตี้ย พื้นรองเท้านุ่ม 8. ควรใช้ไม้เท้าเมื่อยืนหรือเดิน โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการปวดเข่ามาก 9. บริหารกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อเข่าให้แข็งแรง เพื่อช่วยให้การ ท่าบริหารเข่า การบริหารกล้ามเนื้อต้นขา ให้นั่งบนเก้าอี้ หลังพิงพนัก ยกเท้าขึ้นมาและเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาโดยการกระดกข้อเท้า ให้นับ 1-10 และ ทำข้างละ 10 ครั้ง ทำวันละ 3 เวลา ถ้าหากแข็งแรงขึ้นอาจจะถ่วงน้ำหนักที่ปลายเท้า หากประชาชน หรือผู้ที่เริ่มมีอาการข้อเข่าเสื่อมมีความรู้สามารถดูแลตนเองเพื่อชะลอความเสื่อม หรือบรรเทาอาการของข้อเข่าเสื่อม ก็จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว ข้อเข่าประกอบด้วย กระดูก 3 ชิ้น ได้แก่ กระดูกต้นขา กระดูกหน้าแข้ง และกระดูกสะบ้า ยึดติดกันด้วยเส้นเอ็นซึ่งเป็นส่วนปลายของกล้ามเนื้อนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าแข็งแรง ผิวสัมผัสของกระดูกอ่อนค่อนข้างหนาคลุมอยู่ กระดูกอ่อนนี้มีลักษณะเรียบ มันวาว และผิวลื่น ทั้งนี้เพื่อรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นขณะมีการเคลื่อนไหวข้อ และทำให้รูปร่างกระดูกพอดีกัน ช่วยให้ข้อมั่นคงภายในข้อเข่ามีน้ำหล่อเลี้ยงช่วยให้การหล่อลื่นและถ่ายน้ำหนัก โรคข้อเข่าเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ ทั้งทางด้านรูปร่างโครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมและอาจมีความเสื่อมรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของข้อเสื่อม
สาเหตุความเสื่อมของข้อเข่า
อาการและอาการแสดงของโรคข้อเข่าเสื่อมข้อเข่าเสื่อมเป็นภาวะที่เกิดขี้นอย่างช้าๆ มักพบบ่อยในผู้ท่าอายุเกิน 60 ปี พบมากในผู้หญิงและผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก มักเป็นทั้ง 2 ข้าง พบว่า เมื่อข้อเข่าข้างหนึ่งเริ่มเสื่อมอีกใน 11 ปี ต่อมา เกณฑ์การวินิจฉัยโรคข้อเข่าเสื่อม
ระยะของโรคข้อเข่าเสื่อม ระยะที่ 1 ทำงานทุกอย่างได้ตามปกติ เป้าหมายของการดูแล ชะลออาการ
การรักษา
จะดูแลตนเองอย่างไรเพื่อถนอมข้อ เมื่อเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้อย่างไร1. การปรับเปลี่ยนอิริยาบถและสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมในชีวิตประจำวัน เพื่อมิให้ข้อเสื่อมมากขึ้นและยืดอายุการใช้งานของข้อให้ยาวนานที่สุด
2. การควบคุมน้ำหนักตัว ควรอยู่ในเกณฑ์สมส่วน ค่าดัชนีมวลกาย แปลผล ตัวอย่างเกณฑ์น้ำหนักตัวเมื่อคำนวณตามดัชนีมวลกาย จำแนกตามความสูง ส่วนสูง (เมตร)น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)น้ำหนักปกติน้ำหนักเกินอ้วน1.5041.6-51.551.6-56มากกว่า 561.5544.4-55.055.1-59.8มากกว่า 59.81.6047.3-58.658.7-63.7มากกว่า 63.71.6550.4-62.362.4-67.8มากกว่า 67.81.7053.5-66.266.3-72.0มากกว่า 721.7556.7-70.170.2-76.3มากกว่า 76.3
ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกายและข้อ
3. การบริหารกล้ามเนื้อและออกกำลังเพื่อสุขภาพ วัตถุประสงค์ของการบริหารข้อ มีดังนี้
ท่าที่ 1 นอนหงาย ใช้หมอนใบย่อมขนาดหมอนข้างเด็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 นิ้ว หนุนใต้น่องใต้เข่า ให้เข่างอประมาณ 15 องศา กดเข่าลง พร้อมกระดูกข้อเท้าขึ้น เกร็งไว้ นับ 1-10 (ประมาณ 6 วินาที) หรือเท่าที่ทำได้ ทำ 10-20 ครั้ง สลับข้างซ้าย ขวา วันละ2-3 รอบ ท่าที่ 2 นอนหงายชันเข่าข้างหนึ่งขึ้น ขาอีกข้างหนึ่งเหยียดตรง ค่อยๆ ยกขาข้างที่เหยียดให้สูงประมาณ 1 ฟุต เกร็งค้างไว้ นับ 1-10 แล้วค่อยๆ วางขาลง ทำ 10-20 ครั้ง สลับข้าง ซ้าย ขวา วันละ 2-3 รอบ ท่าที่ 3 นั่งบนเก้าอี้โดยนั่งให้เต็มก้น งอเข่าทั้ง 2 ข้าง เท้าวางราบกับพื้น ค่อยๆ ยกขาข้างหนึ่งจนเข่าเหยียดตรง เกร็งค้างไว้ นับ 1-10 แล้ววางขากับพื้นเช่นเดิม สลับซายขวา ทำ 10-20 ครั้งวันละ 2-3 รอบ (กรณีที่บริหารแล้วปวดเข่ามากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีเข่าอักเสบหรือเสี่ยงมาก ให้งดท่านี้ไว้ก่อน แนะนำบริหารท่าที่ 4 แทน) ส่วนผู้ที่บริหารท่านี้ได้ดี เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงดีขึ้นบ้าง อาจบริหารให้กล้ามเนื้อแข็งแรงมากยิ่งขี้นโดยไม่ต้องใช้เวลาบริหารนาน ด้วยการเพิ่มการถ่วงน้ำหนักที่ข้อเท้า เช่น ถุงทราย เริ่มจากน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม ท่าที่ 5 นั่ง งอเข่าทั้ง 2 ข้าง เท้าวางราบกับพื้อน ใช้ขาด้านตรงข้ามไขว้กดลงบนขาอีกข้างหนึ่ง ในขณะที่พยายามยกขาล่างให้เหยีดขึ้นเกร็งไว้ นับ 1-10 ทำสลับข้างกัน 10-20 ครั้ง การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพข้อเข่า
ควรออกแรง หรือออกกำลังกายเป็นประจำ พอประมาณ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไม่เกิน 30 นาทีต่อครั้ง ควรหยุดพักเป็นระยะหรือเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกาย เพื่อมิให้ข้อต่ออยู่ในท่าทางซ้ำๆ กันนานเกินไป ในผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า ควรหลีกเลี่ยงกีฬาที่ต้องใช้การหมุนหรือการลงน้ำหนักในทิศทางต่างๆ มากๆ เช่น
การใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยและวิธีอื่นๆในรายที่ปวดมาก ควรพักข้อ ไม่เดินหรือเคลื่อนไหวข้อมากนัก
ยาที่ใช้บรรเทาอาการข้อเข่าเสื่อมใช้ยาตามแผนกการรักษาของแพทย์ หรือปรึกษาเภสัชกร ยาที่ใช้รักษา ได้แก่
การรักษาโดยการผ่าตัดวิธีการผ่าตัดมีดังนี้
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัด มีดังนี้
ขั้นตอนการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม
โรคข้อเข่าที่มาภาวะเสื่อมมากเกิดขึ้นในผู้สูงอายุเกือบทั้งหมด เมื่อรักษาโดยวิธีการอื่นๆ แล้วไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร จนกระทั่งผู้ป่วยและครอบครัวตัดสินใจเลือกวิธีผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมซึ่งเป็นการผ่าตัดที่เลือกเวลา หรือรอได้ ดังนั้นก่อนผ่าตัดแพทย์จะซักประวัติ และตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียด สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวจะได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะสาขา จนกระทั่งอาการคงที่จึงจะได้รับการผ่าตัดได้ ตลอดจนปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ด้านผ่าตัดและระงับความเจ็บปวดขณะผ่าตัดมีความก้าวหน้ามาก ทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยมากขึ้นกว่าในอดีตมาก มีการให้ยาแก้ปวดอย่างเพียงพอและเหมาะสมจึงไม่ต้องทนทรมานกับความปวดหลังผ่าตัดมากนัก ดังนั้นความเสี่ยงจากโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ หรือภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด จึงมีโอกาสน้อยมากเช่นเดียวกับการผ่าตัดใหญ่อื่นๆ อายุการใช้งานของข้อมือเทียมยาวนานแค่ไหนส่วนใหญ่พบว่าข้อเทียมอยู่ได้ยาวนานชั่วอายุ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่สำคัญ คือ การดูแลตนเองของผู้ป่วยและครอบครัวเพื่อถนอมข้อเทียม เช่น ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การรักษาโรคประจำตัวที่มีอยู่ พบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัว บริหารกล้ามเนื้อต้นขาให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงกิจวัตรประจำวันที่มีแรงกดที่ข้อ การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเปลี่ยนผิวเข้อเข่าเทียมในด้านต่างๆ ดังนี้
2. ด้านจิตใจ
3. การเตรียมผู้ดูแลหลังผ่าตัด และเตรียมปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
ใช้เวลาในการรักษา และฟื้นฟูสุขภาพหลังผ่าตัดนานเท่าใด
ผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมแล้วใช้งานได้เหมือนเดิมหรือไม่
วิธีการถนอมข้อเข่าเทียมถึงแม้ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมแล้ว ก็ยังคงต้องดูแลตนเองเพื่อถนอมข้อเทียมให้ยาวนาน โดยการปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับผู้ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม ดังต่อไปนี้
2. การจัดสิ่งแวดล้อม ภายในบ้าน
3. การควบคุมน้ำหนักตัว ไม่ให้มีน้ำหนักมากเกินไป เพื่อข้อเข่าเทียมจะได้ไม่ต้องรอบรับน้ำหนักมาก ลดแรงกระแทนที่ข้อเทียม ควรรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ เช่นรับประทานข้าวกล้อง ดื่มนมขาดมันเนยทานผักและผลไม้ที่มีกากใยและรสชาติไม่หวาน รับประทานเนื้อสัตว์ติดมันให้น้อยที่สุด เช่น ปลาซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายเหมาะกับผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเค็มจัด และหวานจัด เลือกรับประทานอาหานนึ่ง ตุ๋น อบ ย่าง แทนอาหารประเภทผัด ทอด และแกงกะทิ ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และงดดื่มเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์
การติดเชื้อที่แผลผ่าตัดหรือที่ข้อเทียมเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญพบได้น้อยกว่าร้อยละ1 เนื่องจากข้อเทียมยังถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมของร่างกายพร้อมที่จะถูกกระตุ้นให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ |