สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกบรรจุ 2564

รองปลัด สธ. เผยกรณีเสนอบรรจุข้าราชการโควิด-19 รอบสอง ได้เสนอ ก.พ.พิจารณา อยู่ระหว่างดำเนินการ รวมทั้งกรณีเจ้าพนักงานสาธารณสุข 11 สายงานปรับจากประเภททั่วไปเข้าสู่ประเภทวิชาการ ได้เสนอ ก.พ.เช่นกัน

 

จากกรณีบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับโควิด19 ออกมาทวงถามความคืบหน้าการสร้างขวัญกำลังใจด้วยการบรรจุอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ซึ่งล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้สรุปตัวเลขอัตราตั้งใหม่ 27,529 อัตรา ใช้อัตราว่างเดิมอีก 9,615 อัตรา รวมทั้งหมด 37,144 อัตรา มีทั้งหมด 63 สายงาน ซึ่งได้ส่งเรื่องให้ทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) พิจารณาเมื่อเดือน ก.พ.2565 ที่ผ่านมานั้น

 

ผู้สื่อข่าว Hfocus ได้สอบถามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวกับทาง นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้ให้ข้อมูล ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เสนออัตราข้าราชการตั้งใหม่ให้ทาง ก.พ. พิจารณาแล้ว โดยล่าสุดทาง ก.พ. ขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอน

“นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังเสนอเรื่องตามที่กลุ่มข้าราชการเจ้าพนักงาน(จพ.)สาธารณสุข 11 สายงาน ที่มีวุฒิปริญญาตรี ขอปรับจากประเภททั่วไปเข้าสู่ประเภทวิชาการ โดยเสนอให้ทาง ก.พ. พิจารณาเช่นกัน” รองปลัด สธ. กล่าว

สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกบรรจุ 2564

ส่วนกรณีการจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ภาพรวมของกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 27,529 อัตรา (ไม่รวมอัตราว่าง) มีทั้งหมด 63 สายงาน ดังนี้ 1.นักกายอุปกรณ์ 2.นักเวชศาสตร์การสื่อความหมาย 3.นักสังคมสงเคราะห์ 4.นักกิจกรรมบำบัด 5.นักโภชนาการ 6.แพทย์แผนไทย 7.นักรังสีการแพทย์ 8.นักกายภาพบำบัด 9.นักวิชาการสาธารณสุข 10.นักเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก

11.เภสัชกร 12.นักวิทยาศาสตร์การแพทย์/นักวิทยาศาสตร์ 13.นายแพทย์ 14.เจ้าพนักงานอาชีวบำบัด 15.ช่างทันตกรรม 16.เจ้าพนักงานเวชสถิติ 17.ช่างภาพการแพทย์ 18.นักวิชาการคอมพิวเตอร์ 19.โภชนากร 20.เจ้าพนักงานเภสัชกรรม 21.นักเทคโนโลยีสารสนเทศ 22.เจ้าพนักงานเวชกรรมฟื้นฟู 23.เจ้าพนักงานเครื่องคอมพิวเตอร์ 24.นายช่างไฟฟ้า 25.นักประชาสัมพันธ์ 26.เจ้าพนักงานห้องสมุด 27.นายช่างเทคนิค 28.เจ้าพนักงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 29.นายช่างศิลป์ 30.นักวิชาการพัสดุ

31. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี 32.เจ้าพนักงานธุรการ 33.นักวิชาการเงินและบัญชี 34.เจ้าพนักงานพัสดุ 35.นักวิชาการโสตทัศนศึกษา 36.บรรณารักษ์ 37.นักทรัพยากรบุคคล 38.นิติกร 39.นายช่างโยธา 40.เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษา 41.นักวิเคราะห์นโยบายและแผน 42.นักวิชาการสถิติ 43.เจ้าพนักงานสถิติ 44.นักจัดการงานทั่วไป 45.นักวิชาการตรวจสอบภายใน 46.นักวิเทศสัมพันธ์ 47.นักวิชาการเผยแพร่ 48.พยาบาลวิชาชีพ/พยาบาลเทคนิค 49.นักจิตวิทยา/นักจิตวิทยาคลินิก 50.นายสัตวแพทย์

51.เจ้าพนักงานสาธารณสุข/เจ้าพนักงานสาธารณสุข(เวชกิจฉุกเฉิน) 52.นักวิชาการศึกษาพิเศษ/นักวิชาการศึกษา 53.นักเทคนิคการแพทย์/นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ 54.นักอาชีวบำบัด 55.นักวิชาการช่างศิลป์ 56.นักฟิสิกส์รังสี 57.นักวิชาการเกษตร 58.เจ้าพนักงานการเกษตร 59.นายช่างเขียนแบบ 60.นักวิชาการอาหารและยา 61.มัณฑนากร 62.สถาปนิก และ 63.วิศวกร

อนึ่ง สำหรับเจ้าพนักงานสาธารณสุข 11 สายงาน ประกอบด้วย เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข เจ้าพันักงานเภสัชกรรม เจ้าพนักงานเวชสถิติ เจ้าพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน เจ้าพนักงานโสตทัศนศึกษา เจ้าพนักงานเวชกรรมฟื้นฟู เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี และเจ้าพนักงานพัสดุ

สำนักงาน ก.พ.ส่งหนังสือถึงปลัด สธ. ยืนยันให้กระทรวงสาธารณสุขคัดเลือกบรรจุบุคลากรในสังกัดเข้ารับราชการให้เป็นไปตามมติ ครม.พร้อมเผยมี 2 กรณีให้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.กำหนดไว้เดิม ไม่ให้คัดเลือกกรณีพิเศษ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในแวดวงสาธารณสุขมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์กรณีหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)  ด่วนที่สุด ที่ นร 1004.2/8  ลงนามโดย น.ส.ชมนาด ศรีสวาสดิ์ รองเลขาธิการ ก.พ.ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการ ก.พ. ส่งถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เรื่องการบรรจุบุคลการกรสาธารณสุขอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตามมติ ครม. ลงวันที่ 14 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา โดยระบุถึงหนังสือจากกระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า พบปัญหาและอุปสรรคที่อาจดำเนินการบรรจุและแต่งตั้งบุคคลในอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตามมติ ครม. ที่ได้รับจัดสรรสำหรับบรรจุบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินในสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 38,105 อัตราได้ เนื่องจากไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขการคัดเลือกตามที่ ก.พ. กำหนด จึงรายงานข้อมูลและขอให้ ก.พ.อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขบริหารจัดการภาพรวมอัตราข้าราชการตั้งใหม่ตามมติ ครม.ที่ว่างจากการสูญเสีย ดังนี้

สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกบรรจุ 2564

1.ให้ผู้ที่ได้รับการจ้างงานอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง แต่ได้รับจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ในสายงานที่ไม่ตรงกับชื่อสายงาน หรือหน่วยงานที่จ้างอยู่เดิม เนื่องจากการบันทึกข้อมูลในระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการบุคลากรสาธารณสุข(HROPS) หรือระบบบริหารงานบุคคลที่มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นคลาดเคลื่อน โดยใช้อัตราข้าราชการตั้งใหม่ที่ว่างจากการสูญเสีย และเกลี่ยอัตรากำลังให้ตรงกับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ปัจจุบันให้สามารถเข้ารับการคัดเลือกบรรจุได้จำนวน 120 ราย

2.ให้ผู้ได้รับการจ้างงานอย่างต่อเนื่องที่มีคุณวุฒิตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งของประเภทการจ้างที่ได้รับการจ้างอยู่เดิม แต่ไม่สามารถใช้คุณวุฒิดังกล่าวคัดเลือกบรรจุในตำแหน่งที่ได้รับอนุมัติให้สามารถคัดเลือกบรรจุในตำแหน่งที่ได้รับจัดสรรอัตราข้าราชการตั้งใหม่ ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนดได้เป็นกรณีพิเศษ จำนวน 478 ราย

3.ให้ผู้ที่ได้รับการจ้างงานอยู่เดิมอย่างต่อเนื่อง แต่เปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือเปลี่ยนประเภทการจ้าง ให้สามารถเข้ารับการคัดเลือกบรรจุในตำแหน่งที่ได้รับจัดสรรเดิม โดยการเกลี่ยอัตรากำลังให้ตรงกับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ปัจจุบัน จำนวน 18 ราย

4.ให้ผู้ที่ได้รับการจ้างงานอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งที่มีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นที่มีคุณสมบัติและมีการปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันกับตำแหน่งที่อยู่ในกลุ่ม 24 สายงานตามที่ครม.อนุมัติ เช่น ตำแหน่งนักปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน และเจ้าพนักงานการแพทย์แผนไทย รวมทั้งผู้ได้รับการจ้างงานอยู่จริง แต่ไม่ปรากฏข้อมูลในระบบฯ โดยใช้อัตราข้าราชการตั้งใหม่ที่ว่างจากการสูญเสียและเกลี่ยอัตรากำลังให้ตรงกับหน่วยงานที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ปัจจุบันให้สามารถเข้ารับการคัดเลือกบรรจุได้ จำนวน 1,281 ราย

5.ให้คัดเลือกบรรจุผู้ได้รับการจ้างงานอยู่เดิม 24 สายงาน ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแต่ได้รับการจ้างประเภทลูกจ้างเหมาบริการ ซึ่งจ้างจากเงินงบประมาณหมวดงบดำเนินงานตามระเบียบกระทรวงการคลัง

สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรียกบรรจุ 2564

ทั้งนี้ ก.พ.ได้พิจารณาและเห็นว่า มติ ครม.ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 เม.ย.2563 กำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปให้ถูกต้องเหมาะสมเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์ และมติ ครม.อย่างเคร่งครัด ซึ่งคำขอของกระทรวงสาธารณสุข เป็นกรณีที่ไม่เป็นไปตามมติ ครม. ดังนั้น ก.พ. จึงมีมติยืนยันให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเข้ารับราชการให้เป็นไปตามมติ ครม. มติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ ดังนี้

1.กรณีกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษนี้ และได้บรรจุและแต่งตั้งผู้ผ่านการคัดเลือกนั้นเข้ารับราชการแล้ว ต่อมาอัตรานั่นว่างลงด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ลาออก ย้าย โอน เกษียณอายุราชการ เป็นต้น ให้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการในอัตราว่างนั้นด้วยวิธีการสอบแข่งขัน หรือคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการด้วยหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่ ก.พ.กำหนดไว้เดิม และไม่ให้นำหลักเกณฑ์คัดเลือกกรณีพิเศษนี้ไปใช้ในการสรรหาและเลือกสรรบุคลเข้ารับราชการต่อไปอีก

2.กรณีกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษนี้ และไม่มีกลุ่มบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์นี้อีก ทำให้มีอัตราที่ได้รับจัดสรรตามที่มติ ครม.ยังว่างอยู่ ให้ดำเนินการสรรหาและเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการในอัตราว่างนั้น ด้วยวิธีการสอบแข่งขันหรือคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนดไว้เดิม และไม่ให้นำหลักเกณฑ์การคัดเลือกกรณีพิเศษนี้ไปใช้ในการสรรหาและเลือกสรรบุคลเข้ารับราชการต่อไปอีก

นอกจากนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแนวทางบริหารจัดการที่อยู่ภายใต้ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาปัญหาต่างๆ อาทิ การปรับเปลี่ยนสายงานของอัตราข้าราชการตั้งใหม่เป็นสายงานบริการทางการแพทย์อื่นๆที่สอดคล้องกับแผนปฏิรูปกำลังคันและภารกิจบริการด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข การเกลี่ยอัตรากำลังใหม่ การบริหารจัดการอัตราว่างข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่มีอยู่เพื่อบรรเทาปัญหาให้บุคลากรกลุ่มต่างๆ ด้วย