โอซาก้า (Osaka) เมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นรองจากโตเกียว และยังเป็นเมืองฮิตที่คนไทยไปเที่ยวมากที่สุดเมืองหนึ่งของญี่ปุ่นอีก ใครที่ไม่เคยมาเที่ยวญี่ปุ่นเลย ก๊อตแนะนำให้เรามาโอซาก้าเป็นที่แรกนะเออ เพราะที่นี่อุดมสมบูรณ์ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นบ้านเมืองที่เจริญเว่อร์วังพร้อมแลนด์มาร์คสุดฮิตอย่างปราสาทโอซาก้าและป้ายไฟกูลิโกะ อาหารที่นี่ก็เด็ดเอาเรื่อง ช้อปปิ้งก็สนุก แถมถ้าใครอยากออกไปเที่ยวรอบนอกเมืองโอซาก้า เรายังสามารถไปเที่ยวเมืองนาราหรือเกียวโตได้ง่ายๆ อีกด้วย ใครที่พร้อมเที่ยวแล้ว เราไปเที่ยวกันต่อเล้ย! Show
Go to top แพลนเที่ยวโอซาก้า / สารบัญที่เที่ยวนี่คือแพลนเที่ยวโอซาก้าแบบ 4 วัน 3 คืน ที่สามารถตามรอยได้เลย ใครที่จะไปมิกซ์กับแพลนเมืองอื่น ไม่ว่าจะเป็นเกียวโต นารา หรือแม้แต่เมืองอื่นๆ รอบๆ สามารถเอาไปต่อกันเป็นจิ๊กซอว์ได้เล้ย จัดมาให้แล้วแบบจุกๆ เรียบร้อย แพลนเที่ยวด้านล่างนี้ สามารถคลิกชื่อสถานที่ท่องเที่ยวเพื่ออ่านเฉพาะสถานที่นั้นๆได้ คลิก ดูรีวิวญี่ปุ่นทั้งหมดของ HASHCORNER ได้ที่ล่างสุดของรีวิวนี้วันที่ที่เที่ยวโอซาก้า1– ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)– พิพิธภัณฑ์มายากล (Illusion Museum) – พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) – อาเบะโนะ ฮารุกัส 300 (Abeno Harukas 300)2– ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) – เรือสำราญซานต้ามาเรีย (Santa Maria Cruise) – นัมบะ (Namba) / ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) – ล่องเรือแม่น้ำทงโบริ (Dotonbori River) กับ PIRATES OF OSAKA – ถนนช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)3– Universal Studios Japan (USJ) โอซาก้า4– ตลาดคุโรมง (Kuromon Market) – ย่านชินเซไก (Shinsekai) – ฟรีไทม์ (Free Time) เรื่องอื่นๆ ที่ควรรู้ของการเที่ยวโอซาก้า (Osaka)– จากสนามบินเข้าเมืองโอซาก้า Go to top แนะนำที่พักและโรงแรมในโอซาก้า (Osaka)คนที่กำลังหาที่พักใน โอซาก้า (Osaka) อยู่ล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราพักในย่านที่รถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line พาดผ่าน เพราะรถไฟใต้ดินเส้นนี้ ถือเป็นสายหลักที่เราจะได้ใช้งานบ่อยที่สุดในการไปเที่ยวที่ต่างๆ ในโอซาก้า โดยย่านที่พักที่ก๊อตแนะนำและมีรถไฟใต้ดิน Midosuji Line ผ่านนั้น มีทั้งหมด 3 ย่าน คือ ย่านอูเมดะ (Umeda), นัมบะ (Namba) และ เทนโนจิ (Tennoji) ซึ่งทั้งสามย่านนี้นั้น มีจุดเด่นแตกต่างกัน รวมถึงความชอบและแพลนเที่ยวของแต่ละคนด้วย เพราะแต่ละย่านก็จะมีจุดเชื่อมต่อรถไฟสายหลักอื่นๆ ไปยังเมืองต่างๆ รอบๆ โอซาก้าด้วยนั่นเอง ดังนั้น เลือกตามที่ตัวเองชอบและสะดวกได้เลย เลือกย่านได้แล้ว ก็ลองดูๆ โรงแรมที่ก๊อตแนะนำก็ได้ครับ อันนี้คัดมาให้แบบเริ่ดๆ แล้วว #1 ย่านอูเมดะ (Umeda) : สายชอบความสะดวกในการเดินทางสำหรับคนที่ชอบพักอยู่ใกล้ศูนย์กลางการเดินทางที่ทำให้เราเดินทางไปเที่ยวยังเมืองรอบๆ รวมถึงที่เที่ยวในโอซาก้า ได้ง่ายๆ นี่แนะนำให้มาพัก ย่านอูเมดะ (Umeda) เพราะที่นี่มีทั้งสถานีรถไฟหลัก 3 อันรวมกันกระจุกรวมกันอยู่ตรงนี้ ทั้งสายรถไฟของ JR และสายรถไฟเอกชนอย่าง Hankyu, Keihan และ Hanshin ที่ทำให้เราเดินทางไปยังเมืองต่างๆ รอบๆ โอซาก้าได้โคตรสะดวก เช่น เกียวโต โกเบ และนารา และแน่นอนว่าตรงนี้ก็มีรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ที่นั่งไปที่เที่ยวอื่นๆ ในโอซาก้าได้ง่าย และยังมีสายรถไฟใต้ดิน ที่นั่งตรงไปเที่ยว Universal Studios Japan ได้ง่ายอีกด้วยเช่นกัน บอกเลยว่าย่านนี้คือเดินทางสะดวกที่สุดในสามโลกของโอซาก้าแล้วเด้อ แถมห้างก็มีร้าน ของกินก็เยอะ ใครที่ชอบความสะดวกในการเดินทาง สามารถพักแถวนี้ได้เลย ที่พักและโรงแรมแนะนำ #2 ย่านนัมบะ (Namba) : สายช้อปปิ้ง-กิน-เที่ยว แถมเดินทางสะดวกอีกหากคนที่ชอบพักในย่านที่เดินทางสะดวก แต่ก็ต้องกิน-เที่ยว-ช้อปปิ้งแบบจัดเต็มด้วย ย่านนัมบะ (Namba) นี่แหละคือคำตอบ เพราะย่านนี้คือจัดจ้านในเรื่องช้อปปิ้งและของกินมากที่สุดของโอซาก้าแล้ว ซึ่งถ้าใครคุ้นๆ ภาพป้ายไฟกูลิโกะกับคลองกลางแหล่งช้อปปิ้ง มันคือ ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ที่อยู่ใกล้กันแบบเดินสบายจากย่านนัมบะ (Namba) นี่เอง เรื่องการเดินทางของย่านนัมบะ (Namba) ก็ไม่น้อยหน้าย่านอูเมดะ (Umeda) เท่าไหร่ เพราะตรงนี้ยังมีรถไฟใต้ดินสาย Midosuji Line ที่ไปเที่ยวในโอซาก้าได้ง่าย และยังมีเป็นฮับสายรถไฟทั้ง JR และ Kintetsu ที่ไปเมืองนารา (Nara) ได้สะดวก รวมถึงยังมีรถไฟ Nankai Line ที่นั่งต่อตรงจากสนามบินคันไซได้ง่าย รวมถึงคนที่อยากเดินทางไปเที่ยวที่เมืองวาคายาม่า (Wakayama) ก็ง่ายด้วยอีกเช่นกัน ดังนั้น ย่านนัมบะ (Namba) ถือว่าเป็นอีกย่านที่ดีงามล้านแปด และเป็นอีกย่านที่แนะนำให้ทุกคนมาพักอย่างยิ่งยวด ที่พักและโรงแรมแนะนำ #3 ย่านเทนโนจิ (Tennoji) : สายราคาย่อมเยา เดินทางง่ายย่านสุดท้ายที่แนะนำคือ ย่านเทนโนจิ (Tennoji) ที่เดินทางสะดวกน้อยลงมาหน่อยจากสองย่านแรกที่แนะนำไป แต่ยังถือว่าสะดวกมากอยู่ ใครที่อยากได้โรงแรมและที่พักที่ราคาคุ้มค่าคุ้มราคา กับโรงแรมที่ดีหน่อย แต่ราคาถูกรองลงมาจากสองย่านแรก อาจจะลองดูย่านเทนโนจิ (Tennoji) ได้เลย ย่านนี้มีทั้งรถไฟใต้ดินสายสองสาย (รวม Midosuji Line) มีรถไฟสาย JR ตรงสถานี Tennoji Station และ Nankai Line ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงตรงสถานี Shin-Imamiya Station ที่เดินทางต่อตรงจากสนามบินได้ และยังสามารถไปเมืองนารา (Nara) และเมือง วาคายาม่า (Wakayama) ได้สะดวกอีก ส่วนที่เที่ยวตรง เทนโนจิ (Tennoji) ก็มี ถนนช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) และ อาเบะโนะ ฮารุกัส 300 (Abeno Harukas 300) และห้างรายล้อม ถือว่าได้ และโอเคเลย ที่พักและโรงแรมแนะนำ ส่วนลด 20% ส่วนลด Agoda สูงสุด 20% เมื่อจองที่พักในประเทศญี่ปุ่นที่ร่วมรายการได้เที่ยวญี่ปุ่นสักที! Agoda ลดสูงสุด 20% ที่พักในญี่ปุ่น! ข้อกำหนดของโปรโมชั่น Let's go to Japan! หมดอายุ: 31-12-2022 หมดอายุไปแล้วเมื่อ: 31-12-2022 ไม่มีวันหมดอายุ คลิกรับส่วนลด Agoda Go to top จากสนามบิน เข้าเมืองโอซาก้าด้วยรถไฟวิธีการเข้าตัวเมืองโอซาก้าจากสนามบินคันไซนั้นง่ายโคตร โดยวิธีที่สะดวกที่สุดคงหนีไม่พ้นการขึ้นรถไฟ แต่รถไฟที่เข้าเมืองดันมีสองสาย สองบริษัทด้วยกัน นั่นคือของ Nankai และ JR นั่นเอง ทีนี้หลายคนอาจจะงงว่าควรขึ้นอันไหนดี ก๊อตแนะนำให้เราดูว่าเราพักที่ไหน ย่านไหน อีกทั้งดูว่าเรามีพาสติดตัวอะไรหรือเปล่า เมื่อรู้คำตอบสองอันนี้แล้วก็ไม่ยากแล้ว สามารถดูคำตอบจากด้านล่างได้เลย Nankai Line Airport Express – Rapi:Tสำหรับใครที่ ไม่มี JR PASS ใดๆ หรือ มี Kansai Thru Pass หรือจะมาตัวเปล่าก็แล้วแต่ และพักอยู่แถว นัมบะ (Namba) และ ชิน-อิมามิยะ (Shin-Imamiya) ตัวเลือกแรกที่แนะนำเลยคือ Nankai Line Airport Express โดยเฉพาะสาย Rapi:T ที่เราสามารถเข้าใจกลางเมืองโอซาก้าได้ภายใน 38 นาที โดยสถานีหลักๆ ในตัวเมืองโอซาก้าก็จะมีสถานีนัมบะ (Namba) สถานีชิน-อิมามิยะ (Shin-Imamiya) และสถานีเทนกาชายะ (Tengachaya) ใครที่พักอยู่ละแวกแถวนี้ก็สามารถเลือก Nankai Line Airport Express – Rapi:T ได้เล้ย
JR สาย Kansai-Airport Express “HARUKA”สำหรับคนที่ มี JR PASS แบบทั่วประเทศ หรือแบบย่อยๆตามภูมิภาคย่านนี้ (ดูตัวลิสพาสที่ใช้ได้ด้านล่าง) หรือจะมาตัวเปล่า และพักอยู่แถวเทนโนจิ (Tennoji) และ ชิน-โอซาก้า (Shin-Osaka) หรือคนที่ต้องการนั่งตรงยาวไปยังเกียวโตเลย เราสามารถเลือกใช้รถไฟ JR สาย Kansai-Airport Express “HARUKA” ได้โดยเราสามารถเดินางเข้าสู่ใจกลางเมืองโอซาก้าโดยใช้เวลาประมาณ 35 เท่านั้นเอ๊ง โดยเค้ามีแค่สามสถานีหลักเท่านั้นคือ สถานีเทนโนจิ (Tennoji), สถานีชิน-โอซาก้า (Shin-Osaka) และสถานีเกียวโต (Kyoto)
ส่วนใครที่ถือพาส JR PASS เหล่านี้ล่ะก็ กระโดดขึ้น JR Haruka Express ฟรีได้เลย : JR Pass (all area) *จองที่นั่งได้ฟรี / Kansai Area Pass Pass / Kansai WIDE Area Pass / Kansai-Hiroshima Area Pass / Sanyo-San’in Area Pass *จองที่นั่งได้ฟรี / Kansai-Hokuriku Area Pass / Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass / Sanyo-San’in Northern Kyushu Pass *จองที่นั่งได้ฟรี Klook.com Go to top เที่ยวโอซาก้าให้คุ้มด้วยบัตร Osaka Amazing Passสำหรับใครที่มาเที่ยวโอซาก้าแล้วอยากปักแลนด์มาร์คชื่อดังหลายๆที่ โดยที่เราไม่ต้องกังวัลเรื่องค่าใช้จ่ายจะบานปลายล่ะก็ ก๊อตแนะนำให้เราซื้อ Osaka Amazing Pass เอาไว้ใช้เลย เพราะบัตรพาสนี้ เราสามารถใช้รถไฟใต้ดินและรถเมล์ในโอซาก้าได้อย่างไม่จำกัดตามจำนวนวันที่ซื้อ รวมถึงเรายังเข้าแลนด์มาร์คทั่วโอซาก้าได้หมดกว่า 40 แห่ง และส่วนลดแลนด์มาร์คอื่นๆ กว่า 27 แห่งอีกด้วย ใครที่จะมาเที่ยวแบบเก็บแลนด์มาร์คจริงจัง หรือใครที่มาเที่ยวโอซาก้าครั้งแรก คือควรซื้อ!
⚡️ สำหรับแลนด์มาร์คหรือกิจกรรมดังๆ ที่ใช้แล้วคุ้มเมื่อมีพาสนี้คือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle / ค่าเข้า 600 เยน), พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living / ค่าเข้า 600 เยน), เรือสำราญซานต้ามาเรีย (Santa Maria Cruise / ค่าเข้า 1,600 เยน), จุดชมวิวบนตึกอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building / 1,500 เยน) และ ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel / ค่าเข้า 800 เยน)
Klook.com เอาเป็นว่า แต่ละคนความชอบและสไตล์การเที่ยวก็ไม่เหมือนกันเนอะ อันนี้ต้องเลือกและปักหมุดกันเองแล้วแหละว่าจะไปไหน คุ้มค่าพาสมากมั้ย ถ้าคิดว่าใช้และคุ้มเว่อร์ก็จัดเลย แลนด์มาร์คและกิจกรรมด้านบนเป็นอันที่ก๊อตแนะนำเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากดูที่เที่ยวและกิจกรรมทั้งหมดที่ Osaka Amazing Pass สามารถใช้ได้ ก๊อตแนะนำให้เข้าเว็บอย่างเป็นทางการของเค้าเพื่อดูข้อมูลอัพเดทล่าสุดกันดีกว่าเน้อ > คลิกที่นี่เลย ส่วนลด 1/% [Klook 12.12] ส่วนลด Klook 12% สูงสุด 2,023 บาท เมื่อซื้อทุกกิจกรรมทั่วโลก ขั้นต่ำ 2,500 บาทเงื่อนไขและข้อตกลง หมดอายุ: 31-12-2022 หมดอายุไปแล้วเมื่อ: 31-12-2022 ไม่มีวันหมดอายุ END22TH12 คลิกดูโค้ดส่วนลด [Klook 12.12] ส่วนลด Klook 12% สูงสุด 2,023 บาท เมื่อซื้อทุกกิจกรรมทั่วโลก ขั้นต่ำ 2,500 บาท เงื่อนไขและข้อตกลง
END22TH12 Copy โค้ด END22TH12 ไปที่เว็บส่วนลด 12% ส่วนลด Klook 12% สูงสุด 555 บาท เมื่อซื้อกิจกรรมในประเทศญี่ปุ่น ขั้นต่ำ 3,500 บาทKonnichiWow รับส่วนลดสูงสุด 800.- สำหรับกิจกรรมในญี่ปุ่น เงื่อนไขและข้อตกลง หมดอายุ: 15-01-2023 หมดอายุไปแล้วเมื่อ: 15-01-2023 ไม่มีวันหมดอายุ JPWOW12 คลิกดูโค้ดส่วนลด ส่วนลด Klook 12% สูงสุด 555 บาท เมื่อซื้อกิจกรรมในประเทศญี่ปุ่น ขั้นต่ำ 3,500 บาท ×KonnichiWow รับส่วนลดสูงสุด 800.- สำหรับกิจกรรมในญี่ปุ่น เงื่อนไขและข้อตกลง
JPWOW12 Copy โค้ด JPWOW12 ไปที่เว็บข้อมูลอัดแน่นแล้ว เริ่มต้นเที่ยวโอซาก้ากันดีกว่าาา!Go to top เที่ยวโอซาก้า วันที่ 1:ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)ที่เที่ยวแรกที่เราจะไปกันนั้น พลาดไม่ได้เลยสำหรับคนที่ไปโอซาก้าครั้งแรก เพราะมันจัดเป็นแลนด์มาร์คที่มักจะปรากฎอยู่ตามสื่อโฆษณาโอซาก้าต่างๆ นั่นก็คือ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) นั่นเองเด้อ ซึ่งปราสาทโอซาก้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นนานมาแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1583-1585 โดย โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ซึ่งเป็นชายผู้รวมประเทศญี่ปุ่นได้เป็นคนแรกในรอบ 150 ปี จนได้เป็นผู้นำประเทศญี่ปุ่น ณ ตอนนั้น ซึ่งฮิเดโยชิเองก็เป็นผู้สร้างและขยายพื้นที่ปราสาทจนพื้นที่โอซาก้ากลายเป็นศูนย์กลางการเมืองและการค้าจนยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบันนี่แหละ
การมาเที่ยว ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เราสามารถเดินเล่นได้ตั้งแต่สวนรอบๆ ปราสาท จนถึงเดินเข้ามาเที่ยวด้านในของตัวปราสาทนั่นเอง ถ้าใครที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass แบบก๊อตแล้วล่ะก็ ยื่นบัตรเบ่งพร้อมเดินเข้าฟรีได้เลย ฮ่าๆ จากนั้นเราจะโดนต้อนขึ้นลิฟท์เพื่อไปยังชั้นบนสุดที่เป็นจุดชมวิวเมืองโอซาก้าก่อน ซึ่งตรงนี้เราสามารถมองวิวเมืองได้รอบทิศทางมาก จากวิวตรงนี้ก็ทำให้เรารู้ว่า ปราสาทเค้าสูงเหมือนกันว่ะเห้ย จากนั้นเราจะค่อยๆ เดินชมพิพิธภัณฑ์ด้านในลงมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นล่างสุด โดยนิทรรศการที่เค้าจัดแสดงนั้นจะเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตัว ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) และผู้สร้างอย่าง โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ซึ่งถ้าใครที่สนใจก็สามารถเดินวนดูได้เพลินๆ เล้ย // นี่ไม่มีรูปให้ดูนะ เพราะเค้าไม่ให้ถ่ายด้านในเด้อ Go to top พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living)หลายคนที่มาเที่ยวโอซาก้า อาจจะไม่ค่อยได้สนใจพิพิธภันฑ์กันซักเท่าไหร่ เพราะก๊อตคิดว่าหลายน่าจะเน้นตะลุยกินและช้อปปิ้งกันมากกว่า ฮ่าๆ แต่จากที่ก๊อตได้ไปเที่ยวโอซาก้ามาล่าสุดนี่ มีที่นึงที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวกันนั่นคือ พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) นั่นเอง ก๊อตบอกก่อนว่าที่นี่อาจจะไม่ใช่แนวอาร์ทมิวเซียมสายติสท์แบบชิคๆนะ แต่ความเจ๋งของเค้าที่นี่คือการที่เราได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปอยู่อีกโลกของเมืองโอซาก้าในยุคสมัยเอโดะของญี่ปุ่น (ประมาณ 400 กว่าปีที่แล้ว) นี่แหละที่คูล และที่เก๋กู๊ดที่สุดสำหรับคนถือบัตร Osaka Amazing Pass แบบเรานั้น จะบอกว่าเราสามารถเข้าชมได้ฟรีเลยเด้อ ตรงชั้น 9 ของพิพิธภัณฑ์ เค้าได้สร้างบ้านเรือนญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ ออกมาให้เราได้เข้าไปเดินเล่นและสำรวจจริงเลยเว้ย มีทั้งบ้านเรือน ร้านขายของ ห้องอาบน้ำสาธารณะ และอาคารต่างๆ ให้เราเข้าไปดู รวมถึงมีการเปลี่ยนแสงสีของบรรยากาศให้เป็นทั้งตอนกลางวันและกลางคืนด้วย อันนี้เจ๋งจริง ก๊อตโคตรชอบ // ใครที่อยากถ่ายรูปสวยๆ นี่แนะนำให้เช่าชุดยูกาตะมาถ่ายรูปนะแจ๊ะ สุดท้าย อีกสิ่งของ พิพิธภัณฑ์บ้านและความเป็นอยู่โอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living) ที่โคตรเจ๋งคือชั้นที่จัดแสดงโมเดลจำลองวิถีชีวิตของคนโอซาก้า รวมถึงบ้านเมืองที่พัฒนามาตั้งแต่อดีตจนถึงยุคสมัยใหม่ อันนี้เราจะเห็นเรื่องราวของโอซาก้าเลยว่า เค้าพัฒนามาในรูปแบบไหน รวมถึงการผ่านร้อนผ่านหนาวมายังไงบ้าง อันนี้ก๊อตแนะนำให้เราไปดูและเข้าชมกันได้เลย รับรองว่าต้องชอบ! Go to top จุดชมวิว ฮารุกัส 300 (Harukas 300 Observatory)โผล่มายังย่านเทนโนจิ (Tennoji) เราจะมาขึ้นไปดูวิวเมืองโอซาก้าที่สวยที่สุดกัน ที่นั่นก็คือ จุดชมวิว ฮารุกัส 300 (Harukas 300 Observatory) บนชั้น 58-60 ใน ตึกอาเบะโนะ ฮารุกัส (Abeno Harukas) ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นบนความสูง 300 เมตรนั่นเอง // ถึงแม้นี่จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น แต่ยังแพ้ความสูงของตึกใบหยก 2 และตึกมหานครบ้านเราเนอะ ส่วนตัวคิดเอาเองว่า ญี่ปุ่นไม่ได้บ้าการสร้างตึกสูงเหมือนจีนอ่ะ ฮ่าๆ ⚡️ บอกก่อนว่าการขึ้นไปยังจุดชมวิว จุดชมวิว ฮารุกัส 300 (Harukas 300 Observatory) ไม่ได้รวมอยู่ใน Osaka Amazing Pass นะเว้ยแกร ถ้าใครที่ถือบัตรนี่อยู่ ก๊อตแนะนำให้ไปดูวิวเมืองโอซากาที่ ตึกอุเมดะ สกาย (Umeda Sky Building) แทนเด้อ ส่วนก๊อตที่มาขึ้นตึกนี้ เพราะมันเป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ลูกเล่นแพรวพราว และอีกอันคือ ก๊อตซื้อค่าเข้าที่นี่ คอมโบกับบัตรเข้า Universal Studios Japan (USJ) พร้อมกับสายรัดข้อมือ VIP เพื่อใช้เข้าทางลัดพิเศษและเข้าก่อนคนอื่น 15 นาทีนั่นเอง 555555555
Klook.comKlook.com
ใครที่คิดว่า แม่มมาอยู่นานขนาดนั้น ไม่เบื่อแย่หรอตอนรอเวลาผ่านไปงี้ เห้ยๆ จะบอกว่าด้านบนเค้ามีกิจกรรมหลายอย่างให้เราทำ มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของ และมีหลายจุดที่เค้าเล่นแสงสีแมพปิ้งให้เราถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานด้วย จากหลายๆที่ของจุดชมวิวบนตึกสูงทั่วโลกที่ก๊อตได้ไปมา ที่นี่ถือเป็นอีกตึกที่ทำได้ดีมากเลยทีเดียวแหละ
Go to top เที่ยวโอซาก้า วันที่ 2:ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel)เรามาใช้บัตร Osaka Amazing Pass ให้คุ้มๆ กันต่อในวันที่ 2 ดีกว่า ซึ่งที่แรกที่เราจะไปนั้นคือ ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) ซึ่งชิงช้าสวรรค์อันนั้นเคยถกบันทึกว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยแหละ ด้านบนเราสามารถขึ้นไปนั่งเพื่อดูวิวเมืองโอซาก้าจากมุมสูงได้เก๋ๆ นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ถือว่ามุมดีเอาเรื่อง (แต่ก็อาจจะไม่ได้อลังการเหมือนที่ตึกอาเบะโนะ ฮารุกัส 300 (Abeno Harukas 300) นาจา)
Go to top เรือสำราญซานต้ามาเรีย (Santa Maria Cruise)เสร็จจากการขึ้นชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel) เรียบร้อย เดินมาอีกหน่อยตรงท่าเรือเค้าจะมี เรือสำราญซานต้ามาเรีย (Santa Maria Cruise) สำหรับให้นักท่องเที่ยวขึ้นเพื่อชมวิวอ่าวโอซาก้าอยู่ ซึ่งค่าขึ้นเรือครูซอันนี้ถูกรวมอยู่ในบัตร Osaka Amazing Pass เรียบร้อยแล้วนาจา ใครที่อยากใช้ให้มันคุ้มๆ เรามาล่องเรือต่อกันเถอะจ่ะแม่
การล่องเรือนี่ก็ถือเป็นอะไรที่ชิลๆนะแกร ชมเมืองโอซาก้า ชมสะพานสวยๆ แต่ถ้าจะให้พีคและสวยมากกว่าเดิมคือต้องมารอบ Twilight ตอนพระอาทิตย์ตก อันนั้นคือสวยจริง ซึ่งถ้าใครมีเวลาช่วงเย็นๆ แทนละก็ มาช่วงนั้นดีกว่าเด้อ (ก๊อตได้ขึ้นมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน มันดีจริง!) สำหรับใครที่มาเป็นครอบครัว หรือใครที่ชอบดูสัตว์น้ำ ตรงท่าเรือนี่เค้ายังมีอควาเรียมไคยูคัง โอซาก้า (Osaka Aquarium Kaiyukan) ชื่อดังที่เค้าเคลมตัวเองว่าเป็นอความเรียมที่ใหญ่อลังการระดับโลกด้วย ใครว่างก็เรียนเชิญเข้าไปเที่ยวชมโลด ส่วนก๊อตน่ะหรอ ขออนุญาตถ่ายรูปป้ายกูลิโกะและไปชอปปิ้งดีกว่าจ้า (เอ้าา) 5555555555 Go to top นัมบะ (Namba) – ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)ใครที่มาเที่ยวโอซาก้า (โดยเฉพาะถ้ามาเที่ยวครั้งแรก!) แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปคู่กับป้ายกูลิโกะชื่อดังล่ะก็ โคตรพลาดจ้า เพราะนั่นมันเสมือนเป็นแลนด์มาร์ชื่อดังอันดับหนึ่งของเมืองโอซาก้าไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวป้ายกุลิโกะนี้อยู่ตรง โดทงโบริ (Dotonbori) ใน ย่านนัมบะ (Namba) นั่นเอง ตรงนี้ถือเป็นแหล่งรวมทุกสรรพสิ่งเรื่องของกิน แหล่งเอ็นเตอร์เทนเม้น และช้อปปิ้งที่ครึกครื้นมากที่สุดของโอซาก้าเลยแหละ ต้องมา! อันนี้พูดจริง
นอกจากนี้ตรงถนนเส้น โดทงโบริ (Dotonbori) ยังเป็นแหล่งรวมของกินที่พีคสุดของโอซาก้าเลยนะ ส่วนตัวก๊อตยังไม่ได้ตามกินเท่าไหร่ แต่ของกินที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวโอซาก้าเลยคือ ทาโกยากิ และพิซซ่าญี่ปุ่น หรือ โอโคโนมิยากิ (Okoyominaki) นาจา Go to top ล่องเรือแม่น้ำทงโบริ (Dotonbori River) กับ PIRATES OF OSAKAส่วนใครที่ถือบัตร Osaka Amazing Pass เหมือนก๊อตแล้วล่ะก็ ถือแล้วก็ใช้ให้คุ้มโดยการไปล่องเรือแม่น้ำทงโบริ (Dotonbori River) ฟรีกับ PIRATES OF OSAKA กันดีกว่า ทริปล่องเรือจะใช้เวลาทั้งหมด 30 นาที โดยเราจะได้เห็นมุมสวยๆ ของย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ในแบบที่คนเดินไม่สามารถมองเห็นได้ บอกเลยว่าดีนะเว้ย ชิลดี และย่านนี้ก็สวยเอาเรื่องด้วยแสงสีจากป้าย LED ต่างๆ มาเถอะ! Go to top ถนนช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)ถ่ายรูปกับป้ายกุลิโกะและล่องเรือเต็มอิ่มเรียบร้อยแล้ว สิ่งสุดท้ายของวันนี้คือช้อปปิ้งไทม์ เย่ ซึ่ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ถือเป็นถนนช้อปปิ้งที่ก๊อตเลิฟมากที่สุดในโอซาก้าแล้ว ซึ่งถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านรองเท้า Multi-brand Store โคตรคูลอย่าง Atmos และ ABC-Mart Grand Stage รวมถึงร้านรองเท้ายอดฮิต Nike, Adidas, Onitsuga Tiger ขวัญใจคนไทย รวมถึงมี Sketcher, ASICS และอื่นอีกมาก ส่วนใครที่เป็นสาย Fast Fashion ตรงนี้ก็มีช้อปครบครัน เริ่มต้นตั้งแต่ H&M ช้อปใหญ่ตรงป้ายกุลิโกะ เข้ามาในถนนช้อปปิ้งยังมีทั้ง Zara, Bershka, GU (แบรนด์ลูก Uniqlo) และ Uniqlo นั่นเอง ทุกร้านเท่าที่เดินๆมา คือถูกกว่าไทยอ่ะเออ จัดไป 👀 เลี้ยงกาแฟ HASHCORNER ☕️ ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙 |