สรุปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

      ถ้ามีภาษีที่ต้องชำระจำนวนตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ทั้งภาษีครึ่งปีและภาษีสิ้นปี ผู้เสียภาษีมีสิทธิ ขอผ่อนชำระภาษีได้เป็น 3 งวดเท่า ๆ กัน โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มใดๆ ผู้เสียภาษีอาจติดต่อขอผ่อนชำระได้ที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาโดยใช้แบบ บ.ช. 35 จำนวน 1 ชุด 3 แผ่น ข้อความเหมือนกันดังนี้

Contents

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

163,249 views

โดย ผศ. ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำวิชากฎหมายภาษีอากร

สรุปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นภาษีประเภทหนึ่งตาม ประมวลรัษฎากร โดยมี บุคคลธรรมดา เป็น ผู้เสียภาษี เมื่อตัวเองมีรายได้ ยิ่งมีเงินได้มาก อัตราภาษีจะยิ่งสูงแบบขั้นบันได ซึ่งปัจจุบัน อัตราภาษี สูงสุดอยู่ที่ 35% โดยมี กรมสรรพากร เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบการจัดเก็บ


แหล่งเงินได้

ผู้มีแหล่งเงินได้ในไทย

ถ้าคุณรายได้ในประเทศไทย เช่น ทำงานในไทย หรือมีกิจการในไทย หรือมีทรัพย์สินในไทย จะต้องเสียภาษีให้ประเทศไทยด้วย ไม่ว่าเงินนั้นจะจ่ายในประเทศหรือนอกประเทศ และไม่ว่าคุณจะเป็นคนสัญชาติไทยหรือไม่ก็ตาม

ผู้มีแหล่งเงินได้ในต่างประเทศ

ถ้าคุณรายได้จากต่างประเทศด้วย โดยปกติจะอยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้ประเทศไทยด้วยถ้า

1) อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วัน (เป็นผู้อยู่ในประเทศไทย)ในปีภาษีนั้น (ปีปฏิทิน นับตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. ของปีนั้น) และ

2) นำรายได้จากต่างประเทศนั้นเข้ามาในปีภาษี (ปีปฏิทิน) เดียวกัน

หากขาดองค์ประกอบข้อใดข้อหนึ่งจะไม่ต้องเสียภาษีในไทย อย่างไรก็ดี อนุสัญญาภาษีซ้อน ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อนระหว่างประเทศได้เช่นกัน

หากคุณไม่แน่ใจว่ารายได้ที่คุณมีในปีภาษีนั้นๆ เป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีหรือไม่? ต้องเสียภาษีมากน้อยแค่ไหน? เราแนะนำให้คุณเริ่มต้นคำนวณภาษีแต่เนิ่นๆ เพื่อเป็นการเตรียมตัวและจะได้มีเวลาสำหรับวางแผนลดหย่อนภาษีที่ดีมากพอ และหากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคำนวณภาษีได้ที่ไหน สามารถเริ่มต้นคำนวณภาษี คำนวณภาษีได้ฟรีในรูปแบบ Application ทั้งบนระบบ iOS และ Android

ช่วงสิ้นปีวนมาอีกครั้งแล้ว หลาย ๆ คนอาจกำลังวางแผนเที่ยว วางแผนเก็บเงินหรือวางแผนเริ่มต้นสำหรับปีใหม่ 2566 ที่กำลังจะมาถึง แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ สิ่งสำคัญที่ต้องวางแผนเลยคือเรื่องของ “การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” เพราะเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่มีรายได้ตามปีปฏิทินภาษี 2565 ซึ่งแม้จะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี แต่ก็ต้องยื่นภาษีอยู่ดี เพื่อแสดงรายได้ทั้งปีของเราที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมา

ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี ?

  • คนโสด มีรายได้จากเงินเดือนปีละ 120,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่น ๆ ปีละ 60,000 บาทขึ้นไป
  • คนมีคู่ มีรายได้จากเงินเดือนปีละ 220,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่น ๆ ปีละ 120,000 บาทขึ้นไป

ซึ่งปกติมนุษย์เงินเดือนจะยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีละ 1 ครั้ง โดยสามารถยื่นแบบเอกสารหรือกระดาษ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาทุกแห่ง ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2566 หรือจะยื่นแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th ก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะขยายไปจนถึงวันที่ 8 เม.ย. 2566

วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ขั้นตอนที่ 1 คำนวณเงินได้สุทธิ

อย่างแรกเลยคือเราต้องคำนวณหาเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีก่อน โดยสามารถหาได้จากการนำรายได้ทั้งปีมารวมกัน แล้วหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ตามสูตร

รายได้ทั้งปี - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

ซึ่งเราสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนค่าลดหย่อน จะมีอยู่หลายอย่างที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ แต่ที่เราสามารถนำมาลดหย่อนได้ทันทีเลย คือ ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าประกันสังคมสูงสุด 9,000 บาท แต่ในปีภาษี 2565 รัฐบาลมีการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 33 ลง 2 ครั้ง ในรอบเดือน พ.ค. - ก.ค. และต.ค. - ธ.ค. เหลือเพียง 6,300 บาท


ขั้นตอนที่ 2 เทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ต่อมาให้นำเงินได้สุทธิมาเทียบกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได โดยนำเงินได้สุทธิคูณกับอัตราภาษีแต่ละขั้น เพื่อหาว่าเราต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ ตามสูตร

ภาษีที่ต้องจ่าย = (เงินได้สุทธิ - เงินได้สุทธิสูงสุดของขั้นก่อนหน้า) x อัตราภาษี + ภาษีขั้นบันไดก่อนหน้าสูงสุด

ตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้

สรุปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


จากตัวอย่างข้างต้น ในปี 2565 นายทีมีรายได้จากเงินเดือน 50,000 บาท รวมทั้งปี 600,000 บาท จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 100,000 บาท ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าลดหย่อนจากประกันสังคม 6,300 บาท

จะได้เงินได้สุทธิ 600,000 - 100,000 - 60,000 - 6,300 = 433,700 บาท จากนั้นให้นำเงินได้สุทธิ 433,700 บาท ไปเทียบอัตราภาษีแบบขั้นบันได ซึ่งจะอยู่ระหว่างฐาน 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%

ดังนั้น นายทีจะต้องเสียภาษี (433,700 - 300,000) 10% + 7,500 = 20,870 บาท

จะเห็นได้ว่า นายทีจะต้องเสียภาษีถึง 20,870 บาท แต่ถ้านายทีอยากประหยัดภาษีมากกว่านี้ ต้องหาตัวช่วยเพื่อมาลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม ซึ่งตัวลดหย่อนภาษี 2565 ที่ทาง ttb advisory จะแนะนำคือ การลงทุนในกองทุนรวม SSF (Super Savings Fund) และ RMF (Retirement Mutual Fund) เพราะนอกจากจะสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้ว ยังเป็นการลงทุนเพื่อวางแผนเกษียณในระยะยาวอีกด้วย โดยจะมีเงื่อนไข ดังนี้

  • SSF คือ กองทุนรวมเพื่อการออม เน้นการออมระยะยาว สามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งต้องถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อและไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
  • RMF คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณอายุ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรกและขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปีก็ได้เช่นกัน

กองทุนรวมลดหย่อนภาษี ttb smartport

สรุปภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


กองทุนเปิด ttb smart port 1 preserver เพื่อการออม

กองทุนรวมกลุ่ม Mid Term General Bond เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้เอกชน โดยมีตราสาร non-investment grade / unrated ไม่เกิน 20% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 4 เหมาะสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ เน้นรักษาเงินต้น และอยากเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก


กองทุนเปิด ttb smart port 2 nurturer เพื่อการออม

กองทุนรวมกลุ่ม Conservative Allocation เน้นลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และ/หรือทรัพย์สินทางเลือก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนไม่เกิน 40% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 5 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ และเป็นคนที่ค่อนข้างรับความผันผวนได้น้อย


กองทุนเปิด ttb smart port 3 balancer เพื่อการออม

กองทุนรวมกลุ่ม Moderate Allocation เน้นลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และ/หรือทรัพย์สินทางเลือก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนไม่เกิน 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 5 เหมาะสำหรับคนที่ชอบกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายและมีเป้าหมายให้เงินทำงานแทนในระยะยาว


กองทุนเปิด ttb smart port 4 explorer เพื่อการออม

กองทุนรวมกลุ่ม Aggressive Allocation เน้นลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และ/หรือทรัพย์สินทางเลือก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนได้ตั้งแต่ 0 - 100% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 5 เหมาะสำหรับคนที่เน้นลงทุนเพื่อเป้าหมายให้เงินเติบโต อยากสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นและรับความผันผวนได้


กองทุนเปิด ttb smart port 5 go-getter เพื่อการออม

กองทุนรวมกลุ่ม กลุ่ม Equity General เน้นลงทุนในตราสารทุนเป็นหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสร้างโอกาสทำกำไรจากหุ้นทั่วโลก จิตใจแข็งแกร่ง สามารถรับความผันผวนได้สูง

ทั้งนี้เราสามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ อีกทั้งมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลบริหารจัดการพอร์ตให้ เรียกได้ว่า “ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว” เพราะนอกจากจะได้สิทธิลดหย่อนภาษี 2565 ช่วยให้เสียภาษีน้อยลง แล้วยังได้ลงทุนเพื่อการเกษียณอีกด้วย

สนใจทดลองตั้งเป้าหมายและลงทุนได้เลย เพียง 1 บาท ก็เริ่มลงทุนได้ด้วย ttb smart port สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.ttbbank.com/tsp/lite-cal สามารถเปิดบัญชีกองทุน และลงทุนผ่านแอป ttb touch ได้ง่ายๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ttb investment line หรือโทร. 1428 กด#4 ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9:00 น. – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)