หลักการ และเหตุผล การ ทำงาน เชิงรุก

เทคนิคการทำงานเชิงรุกอย่างมั่นใจ (Proactive working)

หลักการ และเหตุผล การ ทำงาน เชิงรุก

หลักการ และเหตุผล การ ทำงาน เชิงรุก

หลักการ และเหตุผล การ ทำงาน เชิงรุก

เทคนิคการทำงานเชิงรุกอย่างมั่นใจ  (Proactive Working)

หลักการและเหตุผล

สถานการณ์การทำงานในปัจจุบัน มีการแข่งขัน และ ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทำให้ต้องมีการปรับตัว ทั้งส่วนองค์กรและส่วนพนักงาน ผู้ปฏิบัติงานจึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของตนอยู่เสมอ เพื่อให้เป็นมืออาชีพที่แท้จริง มีการปรับวิธีการทำงาน ป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสม สามารถสื่อสารและประสานงานกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับคุณภาพตัวเอง แข่งขันกับคนอื่น ทันสถานการณ์

          การปลูกฝังให้พนักงานในองค์กรมีหลักการในการปฏิบัติงานเชิงรุก ที่มีประสิทธิภาพย่อมส่งผลดีต่อการบริหารงาน และการวางแผนงานในเวลาเดียวกันได้ด้วย ดังนั้นการทำงานเชิงรุกที่คนทำงานในองค์กร โดยเฉพาะระดับที่เป็นผู้นำคนอื่นตั้งแต่ระดับ หัวหน้างาน ผู้จัดการ และผู้บริหาร จึงมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นการคิด พูด และการลงมือปฏิบัติให้เกิดการทำงานเชิงรุกได้อย่างแท้จริง เพื่อป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายหรือปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ตามคำพูดที่ว่า “ กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะแย่แล้วมักจะแก้ไม่ทัน ” และการปรับปรุงพัฒนายกระดับกระบวนการหรือระบบการทำงานให้ดียิ่งๆขึ้นไปเพื่อเอาชนะคู่แข่งได้ อีกทั้งเป็นการสร้างความประทับใจแก่ลูกค้ากับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย (Stake Holders ) ตลอดไปอันจะนำไปสู่ความเจริญเติบโตขององค์กรแบบยั่งยืน

วัตถุประสงค์

  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้รับแนวคิดและความรู้ ความสำคัญของการทำงานเชิงรุก
  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกทักษะด้านการทำงานเชิงรุกต่างๆที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าอบรมด้วยกัน และรับฟังประสบการณ์ข้อแนะนำจากวิทยากร
  • เพื่อให้ผู้เข้าอบรมนำความรู้ แนวคิด ประสบการณ์ และ สิ่งที่ได้จากการฝึกนำกลับไปใช้ในการทำงานได้จริง

หัวข้อการเรียนรู้

  • ความหมายของการทำงานเชิงรุก (Proactive Working ) และ เชิงรับ  (Reactive Working)
  • รู้จักความต่างของการทำงานเชิงรุก (Proactive Working) และ เชิงรับ (Reactive Working)
  • ปัจจัยสำคัญแห่งการทำงานเชิงรุก
  • ทำงานเชิงรุกชีวิตดีขึ้น...จริงหรือ?
  • พัฒนาศักยภาพในตัวคุณ ให้เป็นคน Proactive
  • การมีเป้าหมายที่ชัดเจนสร้างแรงบันดาลใจในงานที่ทำ
  • มองปัญหา/อุปสรรค เป็นเรื่องท้าทาย
  • การวางแผนการทำงานอย่างมีระบบ
  • การสร้าง ภาวะโปรแอกทีฟ ด้วยตัวคุณเอง  (Proactive Working)
  • แนวคิดการทำงานเชิงรุก
  • ความคิดที่จำเป็นสำหรับการทำงานเชิงรุกคือ SWOT Analysis
  • ความแตกต่างระหว่างการทำงานแบบคนทั่วไปที่ทำงานตามสั่งหรือสถานการณ์บีบบังคับแบบ Reactive กับ การทำงานเชิงรุกแบบ Proactive
  • การแก้ปัญหาแบบ Correction , Corrective Action และ Preventive Action
  • การปรับปรุงกระบวนการและระบบการทำงานด้วยหลัก ECRS
  • เทคนิคการวางแผนการทำงาน และการกำหนดเป้าหมายสำหรับการทำงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ
  • พัฒนาวิธีการทำงานด้วยเทคนิคการทำงานเชิงรุกแบบทีม
  • เครื่องมือ และปัจจัยที่สนับสนุนการทำงานเชิงรุก
    • ฝึกปฏิบัติ : การทำกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมการทำงานเชิงรุก

ประโยชน์ที่ได้รับ

  • รับแนวคิดและความรู้ ความสำคัญของการทำงานเชิงรุก
  • ฝึกทักษะด้านการทำงานเชิงรุกต่างๆที่จำเป็นสำหรับการทำงาน
  • มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ระหว่างผู้เข้าอบรมด้วยกัน และรับฟังประสบการณ์ข้อแนะนำจากวิทยากร
  • สามารถนำความรู้ แนวคิด ประสบการณ์ และ สิ่งที่ได้จากการฝึกปฏิบัตินำกลับไปใช้ในการทำงานได้จริง

รูปแบบการอบรม

  • การบรรยาย    30 %
  • เกมส์ / กิจกรรมกลุ่ม / ฝึกปฏิบัติ   Workshop  70%

ระยะเวลาการอบรม

  • 1 วัน  (09.00 – 16.00 น.)

หลักการ และเหตุผล การ ทำงาน เชิงรุก

หลักการ และเหตุผล การ ทำงาน เชิงรุก

          การทำงานตามหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมายให้งานเสร็จไปวัน ๆ นั้น อาจไม่เพียงพอและตอบโจทย์ต่อการทำงานในโลกยุคปัจจุบันที่การดำเนินธุรกิจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา องค์กรจึงมีความคาดหวังให้คนทำงานต้องสามารถทำงานได้บนสภาพความไม่แน่นอนต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกเมื่อ และเรียนรู้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพื่อรับมือป้องกันทุกสถานการณ์ได้เสมอ นั่นก็คือการทำงานแบบ “Proactive” ที่จะเข้ามามีบทบาทในการทำงานยุคใหม่ให้ work ขึ้นกว่าที่เคย

          การทำงานแบบ Proactive นั้นเป็นลักษณะการทำงานของคนที่ชอบคิดวางแผนไว้ล่วงหน้าเสมอ รวมถึงสามารถคาดการณ์ปัญหาหรืออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ต้องรอให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นจริงเสียก่อน ตรงกันข้ามกับการทำงานแบบ Reactive ที่เป็นการทำงานเชิงรับ หรือการทำงานแบบเช้าชามเย็นชามที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง การทำงานเชิงรุกเน้นความมุ่งมั่นในเป้าหมาย เชื่อมั่นในศักยภาพของคนทำงาน รวมไปถึงการยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขโดยไม่ย่อท้อ จนกว่างานนั้นจะประสบผลสำเร็จ คนทำงานแบบ Proactive มักเลือกที่จะตอบสนองสิ่งเร้าเชิงลบด้วยการทำงานเชิงบวก ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคปัญหา และหวังผลความเป็นเลิศในงานของตนเอง เรียกง่าย ๆ ว่าคนคุณภาพแบบนี้แหละที่องค์กรและสังคมต้องการอย่างแท้จริง

          คนทำงานยุคใหม่ต้องสร้างแรงจูงใจในการทำงานด้วยตนเอง เริ่มจากการรักในสิ่งที่ทำ ใส่ใจและให้ใจกับการทำงานอย่างเต็มร้อย ไม่รอให้หัวหน้าหรือบุคคลอื่นมาคอยกำกับหรือสั่งการในสิ่งที่เราสมควรทำสมควรคิดได้ด้วยตัวเอง ต้องเข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของงาน และต้อง Proactive กับงานของตนเองอยู่เสมอ เพื่อสร้างความแตกต่างและความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพของเรา ยกระดับตนเองให้กลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าขององค์กร เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าสู่ความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน

          jobsDB มีคำแนะนำดี ๆ ที่จะฝากไว้ให้คนทำงาน เพื่อเริ่มปรับเปลี่ยนนิสัยและวิธีการทำงานให้เป็นคนทำงานเชิงรุก แบบ Proactive ได้ง่าย ๆ ดังนี้

          คิดบวก คิดสร้างสรรค์ ปรับทัศนคติให้เป็นคนคิดเรื่องดี ๆ มองโลกแง่ดี มีมุมมองในเชิงสร้างสรรค์กับทุกเรื่อง ไม่ควรคิดมากกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นตัวบั่นทอนจิตใจ กำลังใจ และความตั้งใจดี ควรมองว่าเรื่องแย่ ๆ หรือเรื่องเชิงลบเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทุกคนต้องเจอะเจอ อย่าปล่อยให้ความคิดในทางลบหรือในทางไม่สร้างสรรค์มาเป็นตัวทำลายการทำงานเชิงรุกของตัวเราเอง

          เป็น “ผู้ให้” มากกว่า “ผู้รับ” พื้นฐานการทำงานของคนแบบ Proactive นั้น ต้องเป็นคนที่มีจิตสำนึกของการเป็น “ผู้ให้” โดยเฉพาะองค์กรที่เราร่วมงาน พยายามคิดว่ามีอะไรบ้างที่เราจะทำได้เพื่อให้องค์กรได้รับผลประโยชน์มากที่สุด มีความคิดที่จะทำงานให้องค์กรมากกว่าเงินเดือนและค่าตอบแทนที่ได้รับ เพราะที่สุดแล้วหากองค์กรอยู่รอดได้ ก็ย่อมหมายถึงความมั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเราด้วยเช่นกัน

          ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างย่อมต้องเป็นไปได้ คนทำงานทุกคนต้องมีความพร้อมรับมือในทุกการเปลี่ยนแปลง มีความกล้าและสามารถเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ เพื่อผลักดันตัวเองไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ สำหรับคนทำงานแบบ Proactive แล้วไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ หากมีความตั้งใจและมีความพยายามอย่างเต็มที่ และทุกปัญหาย่อมต้องมีหนทางหรือทางออกในตัวเองอยู่เสมอ

          วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้และเมื่อวาน การทำงานเชิงรุกนั้นต้องไม่มัวกังวลแต่เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ควรมองถึงอนาคตมากกว่า พึงระลึกไว้เสมอว่าอนาคตย่อมต้องดีขึ้นกว่าวันนี้และเมื่อวาน เป้าหมายในอนาคตย่อมเกิดจากการนำความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงความผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากอดีตและปัจจุบันมาเป็นบทเรียนไม่ให้ผิดพลาดซ้ำ และเป็นแนวปฏิบัติที่ดีต่อไปได้ในอนาคต

          ทำงานเชิงรุกอย่างยั่งยืน การทำงานเชิงรุกที่ดีควรเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกคน เพราะการทำงานต่าง ๆ ในองค์กรย่อมไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมเสมอ และทีมของเราก็ต้องทำงานร่วมกับทีมอื่น ๆ เกี่ยวเนื่องกันไป ดังนั้นการสร้างทีมเวิร์คให้เกิดขึ้นย่อมหมายถึงประสิทธิผลที่มากขึ้น สร้างผลดีต่อองค์กรได้ในภาพรวม

          ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งการทำงานเชิงรุกให้เกิดขึ้นในองค์กร เริ่มต้นได้จากตัวเรา ส่งต่อพลังเชิงบวกไปถึงทุกคนในองค์กร ในขณะเดียวกันผู้บริหารก็ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาการทำงานเชิงรุกให้เกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพต่อคนทำงาน jobsDB เชื่อว่าถ้าคุณมีทัศนคติการทำงานเชิงรุก และนำไปปฏิบัติแล้ว ทั้งตัวคุณและองค์กรจะพัฒนาไปสู่ทิศทางของความสำเร็จได้ดังมุ่งหวังตั้งใจอย่างแน่นอน

Increase your chances of getting hired. Create a jobsDB profile

Increase your chances of getting hired. Update your jobsDB profile

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

6 คำพูดง่าย ๆ ที่ควรใช้กับเพื่อนร่วมทีม

เคล็ดลับทำงานฉับไว ทันเดดไลน์ ไม่ผิดพลาด