นิยายนางเอกทํางานในผับ จบแล้ว ธัญวลัย

กอร์โดบาร์ ผับ แอนด์ เรสเทอรองส์  

พิมมาถึงที่ทำงานก่อน6โมงเย็นประมาณ15นาที เมื่อมาถึงร่างบางก็เดินมาตอกบัตรตรงทางเข้าหลังร้านในส่วนของพนักงาน เสร็จแล้วก็เอากระเป๋าไปเก็บในตู้ล๊อกเกอร์หยิบชุดที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ไปเปลี่ยนในห้องน้ำ พิมออกมาในชุดเสื้อโปโลสีดำพอดีตัวปักโลโก้ร้านไว้ตรงหน้าอกด้านซ้าย กางเกงสกินนี่รัดรูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้งช่วงล่างได้เป็นอย่างดี ร่างแน่งน้อยทว่าซ่อนรูปอวบอัดไปทุกสัดส่วนพร้อมลุยงานสำหรับวันนี้แล้ว 

"สวัสดีค่ะพี่โอ๋"พิมเอ่ยทักผู้จัดการร้านสาวสวย 

"จ้า มาไวนะเรา กินไรมายังเนี่ย ไปกินข้าวก่อนมั้ย" โอ๋ เอ่ยทักเด็กสาวที่ตนพาเข้ามาทำงานที่นี่ด้วยตัวเองเนื่องจากโอ๋เคยประมาทขับรถเฉี่ยวพิมจนล้มถลอกปอกเปิกไปทั้งตัว เด็กสาวตรงหน้าก็ยังไม่เอาเรื่อง  ทัังที่หล่อนเป็นฝ่ายผิด แต่พิมขอแค่ช่วยออกค่ารักษาค่าทำแผลแค่นั้น หลังจากนั้นโอ๋ก็แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนเด็กสาวตลอด และรับรู้ว่าพิมเก่งภาษาอังกฤษก็เลยให้พิมมาทำงานพิเศษที่นี่ซึ่งมีลูกค้าชาวต่างชาติแวะเวียนมาเยอะมาก "พิมยังไม่หิวค่ะพี่ ไว้รอกินตอนเบรกพร้อมอัญดีกว่าค่ะ" 

"จ้า แต่ถ้าไม่ไหวก็ไปกินซะนะ เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป"

"แหมพี่ รุ่นนี้แล้วถึกมากขอบอก  นั่นไงยายอัญมาพอดี" อัญญาเป็นเพื่อนกับพิมมาตั้งแต่มัทธยมต้นจนเข้ามหาลัย เป็นเด็กสาวที่่เรียบร้อยอ่อนหวาน โครงหน้าไม่ต่างกับนางในวรรณคดี เรียกได้ว่างามอย่างไทยแท้เลยทีเดียว ฐานะทางบ้างของอัญค่อนข้างดีเป็นผู้ดีเก่า ในส่วนนี้พิมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องขอมาทำงานพิเศษด้วย ในเมื่อเพื่อนไม่อยากเล่า เธอก็ไม่กล้าถาม ได้แต่เก็บความสงสัยข้อนี้ไว้

 "สวัสดีค่ะพี่โอ๋"  อัญยกมือไหว้สวัสดีผู้จัดการสาว 

"จ้า สวัสดีจ้ะ " 

"พี่โอ๋ งั้นพิมกับอัญขอตัวไปทำงานก่อนนะ "      "โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ขอไปเช็คความด้านหน้าก่อนนะ" โอ๋ยิ้มหวานให้สองสาวแลัวเดินออกไปด้านนอก

 "อัญแกกินไรยัง" 

"กินแล้ว พิมล่ะ" 

"ยัง แต่เราไม่หิว ไว้กินตอนเบรกช่วง3ทุ่มพร้องกันนะ" ยิ่งดึกที่ผับตอนนี้ยิ่งคึกคัก เศรษฐีผู้มีอันจะกินมากหน้าหลายตา รวมทั้งดาราเซเชปต่างๅก็มีให้เห็นจนชินตา เพราะผับแห่งนี้ไม่ใช่ว่าใครจะเดินเข้ามาได้ ต้องเปิดเมมเบอร์ที่แพงลิปลิ่วหลักแสนถึงจะเข้าได้ แน่นอนว่าที่ค่าเมมเบอร์แพงหูฉี่แบบนี้ไม่ใช่แค่กิน ดื่ม เต้นรำแค่นีัแน่

***ขออภัยใครรอnc++ขอเลื่อนเป็นตอนสามนะจ้า เค้าขอโทษ****

บทที่3

น้ำมนต์

วันนี้คงเป็นวันที่หนักหนาเอาการอีกวันเพราะฉันต้องเดินหางานทำ ไปมาแล้วก็หลายบริษัทมีแต่รอแจ้งอีกรอบนะคะ คงทำใจว่าไม่ได้แน่ๆถ้าแบบนี้ แต่ก็ต้องเดินหาไปเรื่อยๆ ตอนนี้ฉันแค่คิดว่างานอะไรคงต้องทำเพราะถ้าไม่มีงานทำฉันอดตายแน่ เงินก็ร่อยหรอลงทุกวัน

ล่วงเลยเวลามาเกือบสองทุ่ม แต่ร่างบางของน้ำมนต์ยังเดินตามถนนอยู่เลย

“เฮ้อ เหนื่อยมาก ปวดขาไปหมดเดินทั้งวัน งานก็ไม่ได้ ทำไงละทีนี้ยายน้ำมนต์เอ้ย” ฉันได้แต่บ่นไปเรื่อยเปื่อยแล้วนั่งนวดขารอรถเมลล์เพื่อที่จะกลับไปตั้งหลักที่ห้องเช่าก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน

ผ่านมาอีกวันฉันก็ยังไม่มีงานเหมือนเดิม เลยตัดสินใจโทรไปปรึกษาส้มเผื่อมีงานให้ฉันทำบ้าง เพื่อนฉันรับงานเป็นนางแบบอิสระ เราเป็นเพื่อนรักกันสนิทกันมาก แต่นิสัยเราต่างกันมากส้มเป็นผู้หญิงที่สูง สวย หุ่นนางแบบ แต่งตัวเปรี้ยว สาวปาร์ตี้ตัวยง ในขณะที่ฉันแต่งตัวธรรมดาเชยๆ ไม่เคยเที่ยวกลางคืนเพราะต้องทำงานเก็บเงินส่งตัวเองเรียน

“ฮัลโหลส้ม”

“อ้าว ว่าไงยัยน้ำมนต์ หายไปเลยนะช่วงนี้ “

“เออ ขอโทษนะ มีเรื่องให้ช่วยหน่อยนะสิ” ฉันกรอกเสียงไปตามสายแบบเกรงใจ

“มีอะไรฉันช่วยได้ก็จะช่วย บอกมาเลยไม่ต้องเกรงใจ”

“คือ ฉันพึ่งตกงานอะ แกพอจะมีงานอะไรให้ฉันทำบ้างไหมอะ”-

“อืม เดี่ยวชั้นถามพี่ที่รู้จักให้นะ แล้วเดี่ยวโทรบอกแกอีกทีละกัน” ส้มตอบฉันมาแล้วเราคุยกันเรื่อยเปื่อยอีกสักพักก็วางสายไป

นที

ที่เดินทางมาถึงภูเก็ตแล้วในช่วงสายของวันนี้พร้อมเลขาคู่ใจคือ คม ลูกน้องที่นทีไว้ใจที่สุด

“นายครับ เดี่ยวทางโรงแรมจะส่งรถมารับนะครับ พรุ่งนี้มีดูสถานที่ก่อสร้างที่เกาะครับ ทางผู้รับเหมานัด 9โมงเช้าครับ” คมรายงานตามแผนงานที่ได้วางไว้ให้เจ้านายรับทราบ

“โอเคได้” ผมตอบคมไป แล้วหยิบแว่นตาสีดำขึ้นมาสวมก่อนที่จะก้าวขึ้นรถที่ทางโรงแรมมารับเพื่อที่จะได้พักผ่อนก่อนที่จะลุยงานพรุ่งนี้

โรงแรมในเครือ เจริญมณีวงศ์

“สวัสดีคะบอร์ด” พนักงานต้อนรับทักทายผมที่เดินเข้ามาภายในโรงแรม

ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ หล่อคมทำให้สาวๆที่อยู่ในล็อบบี้หันมองกันคลอแทบเคล็ด ด้วยทุกคนรู้กิตติศัพท์ของเขาดีว่าเจ้าชู้แค่ไหน แต่อย่าหวังที่จะมาจับเขาเพราะเขาไม่โง่ และไม่เชื่อในความรัก เพราะครั้งนึงเขาเคยเสียศูนย์เพราะรักผู้หญิงคนนึงมาก ผู้หญิงสำหรับเขาแค่เครื่องบำบัดความใคร่ก็เท่านั้น

นทียังจำนาทีที่เขาเสียใจได้ขึ้นใจ วันที่คนที่เขารักหักหลังเขา

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน

ผมที่จะมาเซอไพร้แฟนกลับต้องเจอเซอไพร้เสียเอง

“อ๊ะ อ๊ะ แรง แรงหน่อยคะ ใกล้แล้วๆๆ”

“ฮู้ว์ มันส์ มาก รูยังแน่นอยู่เลย”

“อะ สะ สะ เสียว เสียวร่องมากคะ”

คงไม่ต้องบอกว่าเสียงอะไร ผมเดินเข้าไปเปิดประตูดูหน้าผูหญิงที่ผมเคยรักแบบเต็มๆตาเพราะมันคงไม่มีอีกแล้วความรักที่สดใสแบบนั้น ในเมื่อเธอตอบแทนความรักของผมโดยการเอาผู้ชายคนอื่นมาเสพสมในที่ของผม ด้วยความโกรธที่เหมือนโง่เป็นควาย ผมเลยเข็ดกับความรัก ชาตินี้ขอไม่รักใครอีกเลย ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาแค่ผ่านมาและผ่านไปสำหรับผม

ทุกคนรู้ดีว่าผมใช้ผู้หญิงเปลือง ไม่ใช้ซ้ำ ครั้งเดียวจบ

ตอนนี้ผมกลับมาถึงคอนโดผมแล้วหลังจากไปดูงานที่ภูเก็ตหลายวัน งานผ่านไปได้ด้วยดี เป็นที่น่าพอใจมากสำหรับผม ผมดูแลธุรกิจของครอบครัวและของตัวเองที่อยากทำเล่นๆหลายอย่าง วันนี้พวกผมนัดกันดื่มเหมือนเดิมที่ผับไอ้วายุ

เวลาสี่ทุ่มผมเดินเข้ามายังโต๊ะประจำของพวกเรา ซึ่งมีแค่ไอ้ครูซ กับก้องภพที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมสาวๆขนาบข้าง

“ไอ้วายุหายหัวไหนเนี้ย” ผมถามไอ้สองตัวนั้นไป

“เห็นว่าขอเคลียร์งานอีกแปบ” เป็นไอ้ครูซที่เงยหน้าจากอกของเด็กมันขึ้นมาตอบผม

“หึ เคลียร์งานหรือเคลียร์สาว”

ดื่มไปได้สักพัก วายุก็เดินเข้ามานั่ง พร้อมเรียกเด็กเสริฟเข้ามาอีกสองสามคน เด็กร้านมันบอกเลยแจ่มๆทั้งนั้น

ทางด้านน้ำมนต์

หลังจากที่คุยกับส้มเสร็จ ฉันก็ทำความสะอาดห้อง นั่งหางานต่อเผื่อมีงานที่สนใจ จนได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง เลยละจากหน้าจอคอม หันมากดรับโทรศัพท์

“ว่าไงส้ม”

“วันนี้แกว่างไหมอะ พอดีมีพี่ที่รู้จักเขาต้องการคนพอดี แต่เป็นงานที่ผับนะ ชั้นเลยจะมาถามแกก่อนว่าสนใจไหม ถ้าสนใจ คืนนี้เจอกันที่ผับเลย สองทุ่มเพราะผับเปิด สามทุ่ม”

“ได้ๆแก “ ชั้นตอบส้มไป ทำๆไปก่อนรองานดีกว่าอดตาย

“เค เดวนัดเจอกันด้านหน้านะ เดี่ยวฉันพาแกไปหาพี่เขา”

“ขอบคุณมากนะแก” หลังจากวางสายไป ฉันก้มมองนาฬิกาก็เกือบจะทุ่มแล้ว อาบน้ำแต่งตัวดีกว่า เดี่ยวสาย ฉันแต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาวแบบเชยๆๆตามสไตส์ฉันเหมือนเดิมกับกระโปร่งที่ยาวเลยเข่าลงมา หน้าตาไม่ต้องพูดถึงเพราะชั้นแทบจะไม่แต่งหน้า

ตอนนี้เวลา 20.05 น ฉันอยู่หน้าผับ K ผับที่โด่งดังมากในหมู่วัยรุ่นที่ชอบปาร์ตี้ ฉันยืนรอส้มอีกแปบ เธอก็เดินมา ผู้ชายด้านหน้าร้านหันมองส้มแบบน้ำลายแทบหก เพราะเธอใส่ชุดรัดรูปตึงเปรี๊ยะสีแดงเลือดนกที่ขับผิวให้ขาวยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยรูปร่างหุ่นนางแบบ แบบเธอใครไม่มองกับ้าแล้ว เดินมาหยุดตรงหน้าฉัน

“อ้าวน้ำมนต์รอนานไหม ปะเข้าข้างในกัน” ส้มที่เดินมาจากทางข้างหลัง พูดแล้วชวนเข้าไปด้านในพอดี

“อืม” เดินเข้าไปด้านในร้านเจอพนักงานกำลังจัดโต๊ะกันอยู่เพราะผับใกล้เปิดเต็มทีแล้ว

ส้มพาชั้นเดินมาจนถึงหลังร้านที่เป็นห้องแต่งตัว

“สวัสดีคะเจ๊” ส้มยกมือไหว้ผู้ชายแต่ใจหญิงคนนึง ฉันเลยไหว้ตาม

“เออ หวัดดีนางส้ม ว่าไง ไหนใครที่แกจะพามาสมัครงาน” เจ๊แกก็มองมาที่ฉัน

“คนนี้เหรอ “

“ใช่เจ๊ เพื่อนฉันเองละ พอดีมันตกงานอะเลยจะหางานทำไปพลางๆก่อน ชื่อน้ำมนต์” ส้มบอกเจ๊ไป

“สวัสดีคะ” ฉันเลยต้องไหว้ไปอีกรอบ

“อืม” เจ๊แกมองฉันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเพราะด้วยการแต่งตัวของฉันเหมือนแม่ชีมั้งคงไม่เหมาะกับงานสถานบันเทิงแบบนี้

“แน่ใจนะว่าเธอจะทำงานที่นี่ได้ “ เจ๊ถามกลับมา ฉันเลยได้แค่พยักหน้าตอบไป

“โอเควันนี้เริ่มงานเลย อ๋อลืมบอกไป ทำหน้าที่เด็กเสริฟนะ ทางร้านมียูนิฟอร์มให้ แต่วันนี้เด็กเจ๊ขาดเจ๊ขอยืมตัววันนึงนะ คงไม่เป็นไร” หลังเจ๊แกพูดจบแกก็อธิบายว่าฉันต้องทำงานยังไงวันนี้

“น้ำมนต์เดี่ยวฉันกลับก่อนนะ พอดีมีงานต่ออะ” ส้มหัมาบอกฉันก่อนที่เธอจะกลับไป เหลือไว้แค่ฉันกับงานใหม่

“ได้จะ ขอบใจมากนะส้ม “ ฉันหันไปขอบใจเพื่อนอีกที

บอกได้เลยคำเดียวว่าฉันไม่เคยมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้เลย นี่เป็นครั้งแรก ตายเป้นตายสุ้โว้ยเพื่อปากท้องของตัวเอง เพราะความจนมันน่ากลัว

ฉันสูดหายใจเข้าปอดแรงๆอีกทีแล้วมาฟังเจ๊แกบอกงานคร่าวๆ

“วันนี้เจ๊จะให้หนูใส้ชุดนี้นะ” เจ๊แกหันหลังแล้วไปหยิบชุดคอสเพล์กระต่ายสุดเซกวี่ยื่นมาให้ฉัน

“ *-* “ ฉันได้แต่ตาค้างมองชุดสลับกับมองหน้าเจ๊

“เอ่อเจ๊คะ คือหนูต้องใส่ชุดนี้จริงๆหรือ” ให้ตายสิ ฉันไม่เคยแต่งตัวแบบนี้เลยนะมันโป๊มากสำหรับชั้น

“ใช่ ช่วยเจ๊ก่อนวันนึง เพราะเด็กเจ๊ป่วยกะทันหันหาคนไม่ทัน ผับก็ใกล้จะเปิดละ เดี่ยวเฮียแกจะโวยวายเอา”  กลับบ้านตอนนี้ยังทันไหม วันแรกก็น่าจะไม่รอดสะแล้วน้ำมนต์เอ้ย

“อ้าว ไปเปลี่ยนชุดสิ เดี่ยวเจ๊แต่งหน้าให้ รีบๆละ”

“อ่อ คะ คะ “ ฉันเลยต้องจำใจเข้าไปเปลี่ยนชุด เอาวะเป็นไงเป็นกัน แค่วันนี้วันเดียว

“อะเค เรียบร้อย ว้าววว ไม่อยากจะเชื่อแต่งหน้าเสร็จอย่างกะคนละคน” เจ๊แกดุตื่นเต้นมากหลังจากที่จับฉันแต่งโน่น ใส่นี้จนเจ๊แกพอใจ ฉันมองกระจกยังแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือฉันจริงๆ

“ซ่อนรูปนะเธออ” เจ๊แกหันมาแซว แล้วแกก็เดินออกไปตรวจความเรียบร้อย พร้อมกันมาเตือนว่าเตรียมตัวให้พร้อมผับใกล้เปิดแล้ว

ฉันอยากจะกลับบ้านมาก ชุดอะไรก็ไม่รู้แทบจะปิดหน้าอกชั้นไม่มิด เดินทีนึงต้องดึงทีนึงเหมือนมันจะหลุด ฉันไม่ชินเอาสะเลยเพราะฉันไม่เคยคิดที่จะใส่ชุดที่ล่อเสือขนาดนี้ 

ข้างบนน่าหวาดเสียวแล้วข้างล่างก็ไม่แพ้กัน กางเกงจะสั่นอะไรขนาดนี้ แถมยังโชว์สะดืออีก ชาตินี้ทั้งชาติชั้นขอไม่แต่งแล้วนะชุดแบบนี้ขอครั้งนี้ครั้งสุดท้าย

เวลา สามทุ่ม ผับเปิดให้นักท่องราตรีทั้งหลายเข้ามาเสพบรรยากาศภายในร้าน คนมากมายต่างเลือกที่จะมาเที่ยว ณ สถานที่แห่งนี้ 

“เอาวะ เดี่ยวงานก็เสร็จ” ฉันได้แต่ปลอบใจตัวเองไปก่อนจะออกจากห้องแต่งตัว เพื่อเริ่มงาน ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดกระต่ายน้อยที่แสนจะเซ็กซี่รวมกับคนอื่นๆอีกประมาณ 10 คน เจ๊แกมอบหมายให้กระต่ายน้อยคอยเสริฟในชั้น VIP ของผับ

ฉันและคนอื่นๆก็ทำหน้าที่ตัวเองไป จนพี่อีกคนเรียกให้ฉันเข้าไปช่วยเสริฟที่ห้อง VIP 9 ซึ่งเป็นที่ประจำของ เจ้าของผับและเพื่อนๆเขา ฉันที่เดินเข้าไปทีหลังพร้อมกับเครื่องดื่มที่ยกมาด้วยเสริฟให้แขกที่นั่งอยู่ภายในห้อง 4 คน 

“ เด็กใหม่เหรอ ไม่เคยเห็นหน้า” เป็นก้องภพที่เอ่ยทักออกมา

“คะ พึ่งมาทำวันแรกคะ” ฉันตอบไปแค่นั้น

สายตาของคนพวกนั้นมองมาแบบจ้องจะขย่ำมาก มันทำให้ฉันเริ่มกลัว แต่ฉันสังเกต มีผู้ชายคนนึงที่ฉันบังเอิญไปสบตา มันทำให้ฉันใจเต้นแรงมาก แล้วเป็นฉันที่หลบสายตาเขา เป็นผู้ชายที่สายตาน่ากลัวมากเหมือนพร้อมจะแผดเผาคนที่อยู่ตรงหน้าให้มอดไหม้ตลอดเวลา

หลังจากที่ชั้นออกมาจากห้องนั้น ต้องเอามือกุมหัวใจไว้เพราะมันยังเต้นเร็วและแรงมากเพราะสายตาของเขาคนนั้น

ด้านนที ที่วันนี้มานั่งดื่มกับเพื่อน

วันนี้ผับมันมีกระต่ายน้อยเดินไปทั่วโซน VIP ซึ่งพวกผมก็กำลังนั่งมองหาเหยื่อกันอยู่

ทันที่ที่ไอ้ก้องภพทักพนักงานเสริฟที่ใส่ชุดกระต่าย คนนั้นผมสะลายตาจากที่มองข้างล่างหันมาดูเทอ ทำให้ผมแทบลืมหายใจ หญิงสาวในชุดกระต่ายที่ใส่เกาะอกที่แทบจะปิดอะไรไม่มิด โชว์ผิวหน้าท้อง และขาขาวเนียนที่กางเกงแทบจะไม่ปิดอะไรเลย มีหูกระต่ายที่มองแล้วน่าขย่ำซะจริง ทันทีที่เธอมองมาเราสบตากับสักครู่เธอกหลบสายตาผม แล้วเดินออกจากห้องไป ผมยังมองตามเธอไปจนสุดทาง

“ เด็กใหม่ร้านมึงเหรอไอ้วายุ” ผมหันไปถามวายุทันที

“มั้ง เห็นเจ๊ต่ายมันว่าจะรับเด็กเสริฟเข้าใหม่มา”

“หึ ดี” ผมหันไปยิ้มมุมปากให้พวกมันอย่างมีแผนร้ายในใจ

“ มึงมีแผนร้ายใช่ไหม บอกมาซะดีๆ” ครูซถามขึ้นมาทันทีเพราะยิ้มแบบนี้ของผมพวกมันรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแม่กระต่ายน้อยคนนั้น

“ รอดูต่อไป อะไรที่กูอยากได้ มันก็ต้องได้” ผมยิ้มร้ายแค่มุมปาก 

------------------------------------------------------------------------------------------

ขอโทษด้วยนะถ้าแต่งไม่ดี พอดีพึ่งมาเริ่มแต่งเรื่องแรก อยากได้คำแนะนำจากรีดทุกๆท่านนะ แนะนำ ติติงกันมาได้ จะ ยินดีนำมาปรับเปลี่ยน

ขอบคุณล่วงหน้าจะ