อาชีพฝ่ายซัพพลายเชนและโลจิสติกส์แนะนำอาชีพฝ่ายฝ่ายซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ ว่าต้องทำอะไรบ้าง มีการทำงานอย่างไร เพื่อนๆจะได้เอาไปเป็นความรู้ประกอบการอาชีพที่เหมาะสมและสนใจ ซึ่งการเลือกเรียน สาขาการจัดการโลจิสติกส์ เป็นหนึ่งในสาขาของ คณะบริหารธุรกิจ ในที่นี้เราพูดถึง ม.เอกชน ก็คือ ม.รังสิต หรือ มหาวิทยาลัยรังสิตนั่นเอง ปัจจุบันสาขาการจัดการโลจิสติกส์กำลังมาแรงเลยทีเดียว มีคนเรียนเป็นจำนวนมาก "Supply Chain Management" คือกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขั้นตอนการทำงานทั้งหมด (managing flows) เพื่อลดค่าใช้จ่ายและพัฒนาคุณภาพและระดับสินค้าคงคลัง ซึ่งหมายถึงการประสานข้อมูลจากลูกค้า ผ่านกระบวนการผลิต และจัดการสายการผลิตของสินค้าจนเสร็จสมบูรณ์ ระบบซัพพลายเชนอาศัยขบวนการทำงานร่วมจำนวนมากเพื่อผลิตสินค้าที่ถูกต้องตามความต้องการของลูกค้า ให้ถูกที่ ถูกเวลา และถูกจำนวน จึงต้องอาศัยการประสานงานที่ดีจากหน่วยการผลิตต่างๆ การขาย การตลาด การเงิน และการพัฒนาสินค้า
ระบบซัพพลายเชนต้นทาง (upstream supply chain) (วัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จ อุปกรณ์และชิ้นส่วน) มีความแตกต่างจากระบบซัพพลายเชนปลายทาง (downstream supply chain) (สินค้าที่เสร็จสมบูรณ์) เรารวมการทำงานทั้งหมดเป็นซัพพลายเชนRDI (RDI supply chain) ในการจัดการสินค้าสำหรับโครงการพัฒนาใหม่ๆ ความซับซ้อนของระบบซัพพลายเชนต้องอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศที่ดีเพื่อประมวลข้อมูลจำนวนมากได้ และยังต้องอาศัยความสามารถและประสิทธิภาพของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จุดประสงค์ของระบบโลจิสติกส์ คือ การจัดการขบวนการทางกายภาพของสินค้าทั้งในและต่างประเทศทั้งหมดโดยแบ่งตามทวีป เน้นการเก็บรักษาและขนส่งสินค้าให้แก่ทุกหน่วยธุรกิจ เช่น วัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จ และสินค้าที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เป็นต้น ระบบโลจิสติกส์ทำงานภายใต้โครงสร้างเศรษฐกิจและเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพการบริการ และดำเนินการตามกำหนดการขั้นตอนความปลอดภัยและสวัสดิภาพ งานด้านโลจิสติกส์ส่วนใหญ่จะถูกส่งต่อให้บริษัทผู้เป็นพันธมิตรกับเราดำเนินการ หน้าที่ภายในองค์กรด้านนี้จึงมีเพียง การจัดการ ประสานงาน ศึกษา จัดระบบ และการใช้ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง โอกาสด้านอาชีพในแผนกซัพพลายเชน (Supply Chain) · การคาดการณ์ความต้องการ (Demand forecasts) · วางแผนการผลิต – วางแผนโรงงาน จัดซื้อวัตถุดิบ จัดการขนส่ง/จัดเก็บ วางแผนด้านกลยุทธ์และกำลังการผลิต · วางแผนธุรกิจ “แผนงานการขายและดำเนินการ” S&OP · วางแผนกระจายสินค้า การทดแทนสินค้า และทีมจัดหาสินค้า · หน่วยสนับสนุน ด้านสินค้าคงคลัง วิศวกรรมด้านซัพพลายเชน สารสนเทศ และการจัดการข้อมูล · ด้านโกดังสินค้า - จัดการและดำเนินการ รับมอบ ถ่ายเทและจัดเก็บสินค้า เช็คสต็อก และขนส่งไปยังลูกค้า · ขนส่ง – ต่อรองทางด้านสัญญา จัดการการขนส่งทั้งทางบกและทางเรือ · นำเข้า / ส่งออก – กฏระเบียบทางศุลกากร ประสานงานด้านการขนส่ง · จัดกำลัง – ประสานงานระหว่างหน่วยงานและโลจิสติกส์แผนกต่างๆ ในการวางแผนการขนส่งเพื่อกำหนด ”แผนการขนส่ง” ด้านโลจิสติกส์ เพื่อให้เกิดค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด · สนับสนุน – ศึกษาวิธีการจัดการโลจิสติกส์แบบใหม่ๆ ที่ได้ผลดี รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานระบบสารสนเทศ และการจัดการข้อมูล แหล่งที่มา : http://www.michelincareers.com/th/tha/สาขาอาชีพที่น่าสนใจ/ซัพพลายเชน-และ-โลจิสติกส์ ผู้จัดการด้านชัพพลายเชน (Supply Chain Manager) เทียบกับ Conductor ในวงออเคสตร้า ผู้จัดการด้านชัพพลายเชน (Supply Chain Manager) เทียบกับ Conductor ในวงออเคสตร้า ผู้จัดการด้านชัพพลายเชน (Supply Chain Manager) หมายถึง ผู้มีหน้าที่บริหารและจัดการในส่วนของงานด้านชัพพลายเชน ซึ่งมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำได้แก่ ผู้ผลิต (ผู้ให้บริการ) ผู้ซื้อ (ผู้รับบริการ) และผู้ขายวัตถุดิบปัจจัยในการผลิต (ผู้ขาย) เพื่อช่วยลดต้นทุนในการผลิต อันนำไปสู่การเพิ่มผลกำไรของกิจการ โดยกระบวนการชัพพลายเชนเริ่มตั้งแต่ กระบวนการวางแผน (Plan) กระบวนการจัดซื้อ (Procurement) การผลิต (Manufacturing) การจัดเก็บ (Storage) การจัดจำหน่าย (Distribution) ตลอดจนการขนส่ง (Transportation) การรับคืน (Return) และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ซึ่งมีผลสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานการผลิตการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า บทบาท ผู้จัดการด้านชัพพลายเชน (Supply Chain Manager) 1. จัดการวางแผนยกระดับความสามารถในการบริหารในชัพพลายเชนเช่น การลดสินค้าคงคลัง การเพิ่มผลิตภาพ หรือการลดความสูญเปล่าอย่างไร 2. จัดการส่งเสริมเพื่อสร้างความเติบโตของธุรกิจเช่น การเพิ่มโอกาสในการออกสินค้าใหม่เร็วขึ้น การเปิดตลาดใหม่ๆการสร้างความพอใจแก่ลูกค้ามากขึ้นอย่างไร 3. จัดการส่งเสริมให้มีความยั่งยืนของธุรกิจเช่น การลดต้นทุนธุรกิจ การบริหารเงินทุนหมุนเวียน ฯลฯ อย่างไร เทียบผู้จัดการด้านชัพพลายเชน (Supply Chain Manager) กับคอนดัชเตอร์ในวงออเคสตร้า จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าผู้จัดการด้านชัพพลายเชน จะต้องเป็นผู้ที่ส่งสัญญานและประสานการทำงานร่วมกันในองค์กร ให้เกิดเป็นรูปแบบที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกันไปได้อย่างสมบูรณ์ โดยแบ่งการมองออกเป็น - ผู้นำ หากเทียบผู้จัดการด้านชัพพลายเชน (Supply Chain Manager) กับคอนดัชเตอร์ มีหน้าส่งสัญญานการทำหน้าที่ให้แก่กลุ่มเครื่องดนตรีแต่ละกลุ่มจะเล่นตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้เสียงดนตรีที่ไพเราะ ผู้จัดการด้านชัพพลายเชน ก็จะประสานให้แต่ละกลุ่มงานในองค์กรดำเนินการงานประสานกันได้อย่างราบรื่นมีประสิทธิภาพดีที่สุด ในความเหมาะสมกลมกลืนกันตลอดโซ่อุปทาน - หน้าที่ กลุ่มงานต่างๆ ในชัพพลายเชน เทียบได้กับกลุ่มเครื่องดนตรีที่มีการจัดรวมกันไว้ในแต่ละจุด ดนตรีแต่ละประเภทจะต้องเล่นตามสัญญษนที่คอนดัชเตอร์ ส่งสัญญานให้เล่น ดังเบา ช้าเร็ว หรือตามจังหวะเวลา ในส่วนงานชัพพลายเชนจะมีกลุ่มงานในชัพพลายเชนที่แยกการทำงานตามเป้าหมายในงานของตนเช่น ฝ่ายแผน ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดส่ง ฯลฯ แต่ละฝ่ายจะมีความสามารถและเป้าหมายในการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนนี้ผู้จัดดการชัพพลายเชนจะเป็นผู้ส่งสัญญานให้แต่ละหน่วยงานได้ทำทั้งเรื่อง จังหวะการทำ ระยะเวลา จำนวนมากน้อย หากแต่ละกลุ่มมีการจัดการที่ดีจะช่วยให้เกิดความสามารถขององค์กรที่ดี - สัญญานที่ส่ง ในวงออเคสต้าผู้เล่นเครื่อวคนตรีแต่ละกลุ่มจะได้รับสัญญานจากคอนดัชเตอร์ โดยการมองสัญญานไม้ในมือคอนดัชเตอร์ ที่ส่งสัญญานให้ผู้เลนดนตรีแต่ละชนิดได้เล่นเพื่อให้เกิดการประสานเสียงดนตรีให้เกิดความไพเราะ ผู้จัดการชัพพลายเชนก็จะใช้การส่งข่าวสารถึงแต่ละฝ่ายให้มีการทำงานประสานร่วมกัน ปัจจุบันการส่งขาวสารได้มีการส่งผ่านข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วย ซึ่งทำให้สามารถเชื่อมโยงถึงผู้ทำงานในแต่ละกลุ่มงานได้รวดเร็วและถูกต้อง เกิดการทำงานร่าวกันได้ดีที่สุด |