ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

Advertisement

นิยามทางการศึกษา

การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา

ระดับก่อนประถมศึกษา หมายถึง การศึกษาในประเภทศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และชั้นเด็กเล็ก โดยมีระยะเวลาเรียน 1 ปี และการจัดการศึกษาประเภทอนุบาล มี 2 หลักสูตร คือ อนุบาลหลักสูตร 2 ปี และหลักสูตร 3 ปี ในการรวมอนุบาลหลักสูตร 2 ปี และหลักสูตร 3 ปี ได้รวมชั้นอนุบาล 1 ของหลักสูตร 2 ปี กับชั้นอนุบาล 2 หลักสูตร 3 ปี ไว้ในช่องชั้นอนุบาล 2 และรวมชั้นอนุบาล 2 ของหลักสูตร 2 ปี กับชั้นอนุบาล 3 ของหลักสูตร 3 ปี ไว้ในช่องรวมชั้นอนุบาล

ระดับประถมศึกษา หมายถึง การศึกษาที่มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถขั้นพื้นฐาน ในเวลาเรียน 6 ปี

ระดับมัธยมศึกษา หมายถึง การศึกษาหลังระดับประถมศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วงตอน คือ มัธยมศึกษาตอนต้น ที่จัดทำโดยกรมศิลปากรเทียบเท่าชั้น ม. 3 และมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็น 2 ประเภท คือ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทสามัญ คือ ชั้น ม.4 ถึง ม. 6 และประเภทอาชีวศึกษา คือ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หลักสูตรประกาศนียบัตรนาฎศิลป์ชั้นกลาง หลักสูตรประกาศนียบัตรศิลปชั้นกลาง

การศึกษาระดับอุดมศึกษา หมายถึง การศึกษาหลังระดับมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งได้แก่ หลักสูตรอนุปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประกาศนียบัตรนาฎศิลป์ชั้นสูง ประกาศนียบัตรศิลปชั้นสูง ระดับปริญญาตรี และรวมหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพครูเทคนิคชั้น (ปทส.) และระดับสูงกว่าปริญญาตรี ได้แก่ ประกาศนียบัตรบัณฑิตปริญญาโท ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง และปริญญาเอก

Advertisement

การศึกษาของสงฆ์ หมายถึง การศึกษาของสงฆ์ ที่จัดโดยหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กองพุทธศาสนาศึกษา ฝ่ายการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาและธรรมบาลี และสถาบันในกำกับของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย

การศึกษานอกระบบ หมายถึง การศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่มตัวอย่าง

นักเรียน/ผู้เรียน หมายถึง ผู้ที่ได้รับการศึกษาในสถานศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และที่เทียบเท่าทั้งนี้รวมถึงการศึกษานอกระบบโรงเรียน

นักศึกษา หมายถึง ผู้ที่ได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

ผู้เข้าใหม่ หมายถึง นักเรียน/ผู้เรียน/ผู้เข้ารับการศกึษาหรือฝึกอบรมใหม่ในชั้น ปีที่ 1 ของระดับการศึกษา/หลักสูตร ที่เข้าศึกษา

ผู้สำเร็จการศึกษา หมายถึง นักเรียน /ผู้เรียน/นักศึกษา ที่ฝึกอบรมครบตามหลักสูตร และผ่านเกณฑ์การวัดผลที่กำหนดไว้ของแต่ละระดับ และประเภทการศึกษา

สถานศึกษา หมายถึง สถานที่ ที่ตั้งขึ้นเพื่อให้การศึกษาและฝึกอบรมซึ่งสถานศึกษามีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น โรงเรียน สถาบัน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย ศูนย์/สำนักนักเรียน เป็นต้น

งบประมาณรายจ่าย หมายถึง งบประมาณรายจ่ายตามลักษณะงาน โดยสำนักงบประมาณจัดจำแนกตามหลักการของสำนักงานสถิติแห่งสหประชาชาติ ปี ค.ศ. 1980 ซึ่งจำแนกลักษณะงานออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่
1) ด้านการบริหารทั่วไป แบ่งเป็น การบริหารทั่วไปของรัฐ การป้องกันประเทศ และการรักษาความสงบภายใน
2) ด้านการบริการชุมชนและสังคม แบ่งออกเป็น การศึกษา การสาธารณสุข การสังคมสงเคราะห์ และการเคหะและชุมชน และการศาสนา วัฒนธรรมและนันทนาการ
3) ด้านการเศรษฐกิจ แบ่งออกเป็น การเชื้อเพลิงและพลังงาน การเกษตร การเหมืองแร่ ทรัพยากรธรณี การอุตสาหกรรมและการโยธา การคมนาคมขนส่งและสื่อสาร และการบริการเศรษฐกิจ และ
4) ด้านอื่นๆ คือ การดำเนินงานอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

งบประมาณรายจ่ายด้านการศึกษา หมายถึง วงเงินงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้แก่ หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารการศึกษา การจัดการศึกษาทุกระดับทุกประเภทรวมทั้งการศึกษานอกโรงเรียน ซึ่งสำนักงบประมาณ ได้จำแนกไว้เป็น 5 ระดับ/ประเภทการศึกษาได้แก่ ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา การศึกษาไม่กำหนดระดับ การบริการสนับสนุนการศึกษา และการศึกษาอื่น

ปี หมายถึง การนับหน่วยเวลาของรวบการจัดเก็บ/แสดงข้อมูล ณ เวลาใด โดยปีการศึกษาเป็นหน่วยเวลาของข้อมูลด้านการศึกษา ปีงบประมาณเป็นหน่วยเวลาของข้อมูลงบประมาณรายจ่ายด้านการศึกษา และปี พ.ศ. เป็นหน่วยเวลาของข้อมูลประชากร

ที่มา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) 
 http://www.onec.go.th/cms/categoryview.php?categoryID=CAT0000057

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

1.โรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนที่เป็นอีกหนึ่งที่ตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะทั้งกฎระเบียบที่ค่อนข้างเข้มงวดตั้งแต่เรื่องทรงผมและเครื่องแบบ ที่จะช่วยฝึกวินัยและความเป็นระเบียบให้ลูกของคุณ เรียนรู้สังคมที่หลากหลาย ตลอดจนการเรียนการสอนที่เข้มข้นไม่แพ้โรงเรียนประเภทอื่น รวมถึงค่าเทอมที่ถือว่าย่อมเยาว์อีกด้วย

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

2.โรงเรียนสองภาษา
โรงเรียนลูกครึ่งที่มีการเรียนเหมือนโรงเรียนไทยแทบทุกอย่าง ที่แตกต่างคือมีการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแต่ละโรงเรียนก็จะมีสัดส่วนในการสอนภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่เห็นได้ชัด คือ เด็กจะได้เรียนกับเจ้าของภาษาจริง ฝึกทักษะพูด อ่าน เขียนอย่างจริงจัง ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกได้ทั้งภาษา และมีความเป็นไทยอยู่ในบางวิชา

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

3.โรงเรียนสาธิต
โรงเรียนที่เป็นได้ทั้งรัฐบาลและเอกชน ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่อยู่ในสังกัด โรงเรียนสาธิตจะมีการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ๆ และวิธีคิดนอกกรอบ ทั้งยังเป็นโรงเรียนที่มีตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับมัธยม มีกิจกรรมในโรงเรียนให้เข้าร่วมมากมาย สภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการแก่เด็กอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

4.โรงเรียนคาทอลิก
โรงเรียนที่มีพื้นฐานทางด้านศาสนา  จึงมีลักษณะเฉพาะที่นำเอาพื้นฐานความเชื่อศาสนามาประยุกต์เข้ากับวัฒนธรรมในการพัฒนาบุคลิกภาพ เน้นให้นักเรียนมีระเบียบวินัย รู้จักบังคับตนเอง และเตรียมความพร้อมทั้งการวางตัว การเข้าสังคมหรือการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม สำหรับเรื่องวิชาการก็เข้มข้น บวกกับเป็นโรงเรียนที่มีพื้นฐานเป็นศาสนาคริสต์ ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าทักษะพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษของลูกดีแน่นอน

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

5.โรงเรียนทางเลือก
คือโรงเรียนที่เป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐบาล ระบบการศึกษาจึงแตกต่างกับระบบหลัก โดยเน้นการเรียนเชิงปฏิบัติ การเรียนนอกห้อง และกิจกรรมหลากหลายมากกว่า โดยปรับการเรียนการสอนที่ให้ทั้งความสุขและการเรียนรู้ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้และมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ

ประเภทสถานศึกษา มีอะไรบ้าง

6.โรงเรียนนานาชาติ
โรงเรียนที่อ้างอิงหลักสูตรของต่างชาติเป็นหลัก เช่น อเมริกัน อังกฤษ หรือออสเตรเลีย มีการเรียนเหมือนประเทศเจ้าของหลักสูตร แต่ยังมีเรียนวิชาภาษาไทยเป็นวิชาบังคับอยู่ ซึ่งครูส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติเป็นหลัก ทำให้ทักษะด้านภาษาอังกฤษของลูกคุณดีมากแน่นอน เพราะเรียนรู้จากเจ้าของภาษาโดยตรง  เน้นกระบวนการที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามช่วงพัฒนาการของเด็ก แต่การเรียนในโรงเรียนนานาชาติ ลูกอาจจะซึมซับค่านิยม ประสบการณ์ความเป็นตะวันตกของเพื่อนและครูต่างชาติที่จะส่งผลต่อความประพฤติและความคิดได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องยอมรับ และพร้อมที่จะส่งเสริมและปลูกฝังความเป็นไทยให้ลูกของคุณเรียนรู้ควบคู่กันไปด้วย

โรงเรียนแต่ละประเภทก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ และลูกของคุณว่าเหมาะสม หรือต้องการการเรียนการสอนแบบไหน ทั้งด้านค่าใช้จ่าย วิชาการ กิจกรรม และสภาพแวดล้อมนั้นเอง

สถานศึกษา มีอะไรบ้าง

สถานศึกษา” หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอ านาจหน้าที่ หรือมีวัตถุประสงค์ใน การจัดการศึกษา

ประเภทของการศึกษามีอะไรบ้าง

การจัดการศึกษาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. การศึกษาตามอัธยาศัย (Informal Education) 2. การศึกษาในโรงเรียน (Formal Education) 3. การศึกษานอกโรงเรียน หรือการศึกษานอกระบบ (Non-Formal Education)

การศึกษาขั้นพื้นฐาน ถึงชั้นไหน

การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา

การศึกษาของไทยมีกี่รูปแบบ อะไรบ้าง

ระบบการศึกษาของไทย ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีสามรูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษา ที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลา ของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่ง เป็นเงื่อนไข ของการสำเร็จการศึกษา ที่แน่นอน โดยการศึกษาในระบบมีสองระดับ คือ