ทําไมถึงสนใจงานนี้ ภาษาอังกฤษ

คราวนี้มาดูกันค่ะ ว่าเราจะใช้ เหตุผลอะไรได้บ้าง ในการตอบคำถามว่า ทำไมถึงอยากทำงานที่นี่ และ เราเป็น ผู้สมัครที่เหมาะสม กับตำแหน่งนี้อย่างไร

10 เหตุผล เอาไว้ตอบว่า ทำไมถึงอยากทำงานที่นี่ กับ บริษัทนี้

1. บริษัทคุณเป็นบริษัทที่่มีชื่อเสียง

นี่เป็น เหตุผล ที่หลายๆคน อาจจะหยิบยก เอาเป็น คำตอบ เวลาเจอ คำถามสัมภาษณ์งาน นี้ ว่า เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่ง เป็นแรงบันดาลใจ อยากเข้ามาทำงานกับ ที่นี่ เพราะ อยากจะเป็นส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาบริษัท ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ให้ดีขึ้นไปอีก

2. ได้ดูวีดีโอ แนะนำ บริษัท แล้วรู้สึกสนใจ

หลายๆครั้ง มีประกาศรับสมัครงาน บริษัท หลายๆที่ อาจจะมีการ ทำวีดีโอ ภายในองกรณ์ ว่า มี ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการอะไรบ้าง รวมไปถึง ชีวิต ความเป็นอยู่ ของพนักงานในบริษัท ซึ่ง สามารถเอามาเป็น เหตุผล ไปตอบได้ว่า ทำไมถึงอยากทำงานกับบริษัทนี้

3. เป็นบริษัทที่ มี ปณิธาน ตรงกับ เป้าหมายในชีวิตการทำงานของคุณ

หลายๆครั้ง บริษัท ต้องการคนที่มี ปณิธาน ตรงกับ บริษัท หากเป็นเรื่องจริงที่ว่า ปณิธาน ของบริษัท ไปในแนวทางเดียวกันกับสิ่งที่คุณต้องการ ในชีวิต ก็สามารถเอามาตอบได้ค่ะ

4. เป็นบริษัทที่ ดูแล พนักงาน อย่างดี

สวัสดิการ ทั้ง เงินเดือน ค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าเดินทาง ที่บริษัท มองให้พนักงาน ถือ เป็น การดูแล พนักงาน ที่จะดึงดูด คนเก่งๆ ที่มี ศักยภาพ เข้ามาทำงานกับบริษัท เหตุผลนี้ ก็เป็นหนึ่งในเหตุ ผลที่ดี ที่จะเอามาตอบได้ แต่ต้องระวัง ด้วยว่า เค้าดูแลเราดีจริง และ เรามี ศักยภาพ อะไร ไปมอบ ให้กับบริษัทด้วย

5. บริษัทมี ประวัติการการทำงานที่ยาวนาน

บริษัทที่มีประวัติ การทำธุรกิจ มาอย่างยาวนาน 10, 20, 30 ปีขึ้นไป ถือเป็นการ พิสูจน์ว่า มี ทีมบริหารที่ดี ที่สามารถอยู่รอด มาได้จนถึง ทุกวันนี้ ซึ่งแน่นอนว่า กว่าที่เค้าจะ บริหารออกมาดี ระบบการทำงานต่างๆ จะต้องถูกวาง อย่างเป็นระบบ ดังนั้น การที่ใช้เหตุผลนี้ เป็นตัวกำหนด ว่า ทำไมถึงอยากทำงานที่นี่ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี และ มีเหตุผล แถมยังได้แสดงถึง ทัศนคติในการทำงาน ที่ดีของคุณอีกด้วย

6. บริษัทที่มั่นคง

ใครๆ ก็อยากทำงานกับ บริษัทที่มั่นคง ยิ่งเป็น บริษัทที่เปิดเป็น บริษัทจำกัด มหาชน ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึง ความยิ่งใหญ่ และ ความมั่นคง ของบริษัท เป็นเหตุผลที่ตอบได้ค่ะ

7. เป็นบริษัท ที่เปิดโอกาส ให้ คลื่นลูกใหม่

บริษัท Star Up หลายๆบริษัท มักจะมีแนวทาง การคัดคนเข้าไปทำงาน โดยดูจาก ศักยภาพ ในการทำงาน มากกว่า อายุ วุฒิการศึกษา ดังนั้น หลายๆบริษัท เปิดกว้าง รับคลื่นลูกใหม่เข้าไปทำงาน ไม่มีระบบใครอยู่นานกว่า ได้เลื่อนตำแหน่งงาน ก่อน แต่จะวัดกันที่ผลงาน ซึ่ง เดี๋ยวนี้ โลกยุค 2021 บริษัทใหม่ๆ ก็ปรับเปลี่ยน และ ให้ โอกาส คนที่ผลงาน มากกว่า วุฒิที่คุณจบมาแล้ว

บางคนอาจจะ เรียนรู้การทำงานทุกอย่าง จาก คอร์สออนไลน์ ทำงานเองหน้างาน แต่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย ชื่อดัง แต่ถ้าหากคุณทำงานได้ เค้าก็รับ แล้วค่ะ

8. เป็นบริษัท ที่มีอุดมการณ์ที่ทันสมัย

เดี๋ยวนี้เราจะเลือกเข้าไปทำงาน บริษัทไหน เด็กรุ่นใหม่หลายคน ดูเลยว่า คนรุ่นไหนบริหาร แล้ว ผู้บริหาร มีทัศนคติ ที่เปิดโลก ไหม ดูได้จากไหน ดูจากนโยบาย สนับสนุน โครงการต่างๆ ของบริษัท ถ้าเป็นบริษัทที่ สนับสนุน ความถูกต้อง แน่นอนว่า ก็เป็นบริษัทที่ คนอยากจะเข้าไปทำงานด้วย

9. ชอบสินค้า และ บริการของบริษัท

หลายๆครั้งเราใช้ สินค้า และ บริการ ของบริษัทใดๆ ที่ใส่ใจ รายละเอียด ของลูกค้ามากๆ สร้าง Platform ขึ้นมาให้ ผู้ใช้ใช้งานได้อย่างสะดวก และ มีประสบการณ์ที่ดี ในการใช้บริหาร เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ ดึงดูด คนเข้าไปทำงานด้วยเช่นกัน

10. เป็นบริษัท ที่ทำในสิ่งที่คุณชอบ และ สนใจ

การตอบไปตรงๆว่า ชอบ และ สนใจบริษัท นี้ จริงๆ จากใจ ก็เป็นสิ่งที่ตอบได้ อาจจะลงรายละเอียด ในฐานะ คนทำงาน นิดนึงว่า ทำไมถึงชอบ ชอบอะไร จนถึงอยากมาทำงานกับบริษัท ของเรา

เราคงปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้การสัมภาษณ์งานสำหรับบางบริษัท แค่ภาษาไทยอย่างเดียวอาจจะไม่พอ! ยิ่งถ้าบริษัทที่คุณสนใจเข้าสมัครงานต้องทำงานร่วมกับชาวต่างชาติด้วยแล้ว หลายที่จึงเลือกที่จะเสริมพาร์ทการสัมภาษณ์แบบภาษาอังกฤษเข้ามา นอกเหนือจากการขอดูคะแนนการสอบด้านภาษาต่างๆ

หลายคนอาจจะเกร็งไม่น้อย เมื่อต้องถูกถามเป็นภาษาอังกฤษแบบนี้ แต่อย่างห่วงไป เพราะวันนี้เรา วอลล์สตรีทอิงลิช จะมาไกด์เล็กๆ น้อยๆ ให้คุณกัน

I have……. ability to be an asset to your company.

(ผม / ดิฉัน มีคุณสมบัติ……ที่จะสร้างคุณค่าให้กับบริษัทของคุณ ครับ / ค่ะ)

สำหรับประโยคนี้ เหมาะกับสำหรับคำถามประเภท “Why should we hire you?(ทำไมเราต้องจ้างคุณ)  หรือ “What makes you the best fit for this position?(อะไรทำให้คุณคิดว่าคุณเหมาะกับตำแหน่งนี้) 

โดยส่วนมาก คำถามแนวนี้ทางบริษัทจะต้องการให้คุณได้พรีเซ็นต์ผลงาน และตัวคุณนั่นเอง วิธีที่คุณจะตอบคำถามนั้นได้ดีที่สุด คือการทำความเข้าใจรายละเอียดของตำแหน่งที่คุณสมัคร ก่อนที่จะนำเสนอเอกลักษณ์หรือจุดเด่นในตัวคุณที่ทำให้คุณเหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น และสามารถช่วยบริษัทได้อย่างไรบ้าง 

I am very outgoing and have the people skills needed to get customers interested.

(ผม / ดิฉัน เป็นคนเข้าสังคมง่าย และมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็นในการทำให้ลูกค้าสนใจ)

ประโยคคำตอบแบบนี้ เหมาะสำหรับคำถามจากทางบริษัทที่ถามถึงตัวตน หรือคุณสมบัติเฉพาะตัวของผู้สมัครนั่นเอง อย่างคำถาม “Tell me about yourself.” (ไหนลองพูดเกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังซิ) หรือ “What would you say about your personality?”  (คุณมีลักษณะนิสัยอย่างไร)

เคล็ดลับหลักๆ เราอยากให้คุณพูดถึงลักษณะนิสัย บุคลิกภาพที่ดีของตัวคุณให้ตัวเองดูดีที่สุด และควรเล่าอย่างมีชั้นเชิง เช่นประโยคข้างต้นที่เราได้ยกตัวอย่างไป

ตัวอย่างประโยคอื่นๆ : I’d say I’m hardworking and honest. (ผม ดิฉัน เป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ ครับ / ค่ะ )

ทําไมถึงสนใจงานนี้ ภาษาอังกฤษ

I had a bit of trouble with my English classes, but I am trying to improve.

(ผม / ดิฉัน มีปัญหาเล็กน้อยในวิชาภาษาอังกฤษ แต่ ผม / ดิฉัน ก็กำลังพยายามพัฒนาอยู่)

เชื่อว่าคงไม่มีบริษัทไหนถามแต่เรื่องดีๆ ของคุณแน่ และถ้าเกิดทางบริษัทถามถึงจุดด้อย หรือข้อเสียของคุณ อย่างคำถาม “What is your greatest weakness?” (อะไรคือข้อด้อยที่ใหญ่ที่สุดของคุณ)เข้าล่ะ ?

แน่นอนว่าคนเราไม่ควรจะโอ้อวดทักษะที่เกินตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมองว่าภาษาอังกฤษที่ตนใช้นั่นอยู่ในระดับที่พอสื่อสารได้ แต่ไม่ได้ดีเด่นมาก คำตอบที่เซฟที่สุด ถ่อมตน และแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้นิ่งนอนใจกับการศึกษาภาษาเพิ่มเติมนั่นเอง

ทําไมถึงสนใจงานนี้ ภาษาอังกฤษ

I want to further my career. I am looking for bigger challenges and new experiences.

(ผม / ดิฉัน ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ผม / ดิฉัน จึงมองหาความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ๆ)

ไม่มีใครที่ไม่ถามคำถาม “Why are you leaving or have left your job?” (ทำไมคุณถึงลาออกหรือกำลังจะลาออกจากงานเก่า) แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่นึกพิเรนท์ ตอบคำถามนี้แย่ๆ ด้วยการเผาที่ทำงานเก่า หรือเจ้านายเก่าอย่างแน่นอน โดยประโยคสุดคลาสสิค และดูกลางที่สุดก็คงหนีไม่พ้นประโยคขช้างต้นนี่นี่แหละ

เพราะนอกจากจะเป็นคำตอบแบบกลางๆ แล้ว ยังเป็นคำตอบที่สื่อให้ทางบริษัทเห็นว่าคุณมีความกระตือรือร้นที่อยากจะพัฒนาต่อไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดี และบริษัทไหนๆ ก็อยากจะได้

ตัวอย่างประโยคอื่น : “I recently received my degree, and I want to utilize my educational background in my next position.” ( ผม / ดิฉัน เพิ่งได้รับปริญญามา และ ผม / ดิฉัน ต้องการใช้ความสามารถจากพื้นฐานการศึกษาที่ผมมีกับงานใหม่นี้ ครับ / ค่ะ)

คำตอบนี่จะเหมาะกับเหล่าเด็กจบใหม่ ที่เพิ่งเริ่มต้นสมัครงาน ไม่เคยเริ่มงานกับที่ไหนมาก่อน

ทําไมถึงสนใจงานนี้ ภาษาอังกฤษ

My salary requirements are flexible, but I do have significant experience in the field that I believe adds value to my candidacy.”

(สามารถเจรจาได้ ครับ / ค่ะ แต่ ผม /ดิฉัน มีประสบการณ์ในสายงานนี้มาอย่างดี ผมเชื่อว่าตรงนี้สามารถนำมาคิดเป็นเงินเดือนของ ผม / ดิฉัน ได้)

จะบอกว่าประโยคนี้ นับว่าเป็นประโยคกึ่งๆ ปิดท้ายการสัมภาษณ์งานก็ไม่ผิดนัก เพราะเป็นประโยคตอบคำถามสำหรับ คำถามประเภท “What are your salary expectations?”(คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่)  ซึ่งมักจะเป็นคำถามปิดท้ายของการสัมภาษณ์งาน บางบริษัทใช้คำถามนี้เป็นอีกหนึ่งคำถามสำคัญที่ใช้ในประเมินการรับคนเข้างานเป็นหลักเลยก็มี

สำหรับใครที่มั่นใจ และมีเงินเดือนในใจที่แน่ชัด ก็สามารถบอกทางบริษัท หรือผู้ที่สัมภาษณ์คุณได้เลย แต่ถ้าใครที่ยังไม่มั่นใจนัก หรือผู้สัมภาษณ์พยายามต่อรองเงินเดือนของคุณอยู่ ก็สามารถตอบประโยคนี้กลับไปได้เช่นกัน

นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างประโยคคำตอบเท่านั้น เพราะของจริงคุณอาจจะต้องเผชิญกับคำถามมากมาย และหลากหลายมากกว่านี้ก็ได้! แต่ไม่ต้องห่วงไป เพราะถ้าเราเตรียมตัว เตรียมพร้อมให้ดี หมั่นเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจะช่วยให้การสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับคุณแน่นอน แถมยังช่วยสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์ได้ด้วยนะ! 

Post Views: 13,946