ใบงาน โคลงโลกนิติ ม.1 พร้อมเฉลย

แบบทดสอบเรื่อง  โคลงโลกนิติ

   คำชี้แจง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดหรือเหมาะสมที่สุดเพียงคำตอบเดียว

  ๑.   โคลงโลกนิติมีที่มาจากข้อใด

ก. คัมภีร์โลกนิติ  กับ  สุภาษิตสอนหญิง                      ข. คัมภีร์โลกนิติ  กับ  คัมภีร์ธรรมบท

ค. สุภาษิตสอนหญิง  กับ  สุภาษิตพระร่วง                  ง. คัมภีร์พระธรรมบท  กับ  สุภาษิตสอนหญิง

๒.   ใครเป็นผู้รวบรวมและชำระโคลงโลกนิติของเก่า

ก. รัชกาลที่                                                               ข. รัชกาลที่                 

ค. เจ้าพระยาพระคลัง (หน)                                        ง. สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอ  กรมพระยาเดชาดิศร

๓.   ข้อใดเป็นวัตถุประสงค์หลักในการแต่งโคลงโลกนิติ

ก. เพื่อรักษาโคลงสี่สุภาพไว้                                        ข. เพื่อให้มีหนังสือสุภาษิตอ่าน

ค. เพื่อเป็นสุภาษิตสั่งสอนใจประชาชน                       ง. เพื่อเป็นเครื่องบำรุงสติปัญญาความคิด

๔.        ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น                นักเรียน

ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร                        ผ่ายหน้า

โคลงข้างต้นสอนในเรื่องใด

ก. สอนให้มีความซื่อสัตย์                                            ข. สอนให้เป็นคนประหยัด                

ค. สอนให้ตั้งใจทำการงาน                                           ง. สอนให้มีความมานะพากเพียรในการศึกษาเล่าเรียน

๕.        เว้นวิจารณ์ว่างเว้น                  สดับฟัง

เว้นที่ถามอันยัง                    ไป่รู้

เว้นเล่าลิขิตสัง                              เกตว่าง  เว้นนา

เว้นดังกล่าวว่าผู้                             ปราชญ์ได้ฤๅมี

จากโคลงข้างต้นข้อใดไม่ถูกต้อง

ก. นักปราชญ์ควรเว้นจากการพูดแสดงความคิดเห็น  

ข. นักปราชญ์ควรที่จะรับฟังคนอื่นพูดอยู่ตลอดเวลา

ค. นักปราชญ์ควรที่จะถามในสิ่งที่ตนเองไม่รู้

ง. นักปราชญ์ควรที่จะเขียนหรือจดบันทึกสิ่งต่าง  ๆ ไว้        

  ๖.        รู้น้อยว่ารู้มาก               เริงใจ

กลกบเกิดอยู่ใน                    สระจ้อย

ไป่เห็นชเลไกล                     กลางสมุทร

ชมว่าน้ำบ่อน้อย                   มากล้ำลึกเหลือ

โคลงบทนี้ตรงกับสำนวนตามข้อใด

ก. กบเลือกนาย                                        ข. กบในกะลาครอบ

ค. กบในสระบัวบาน                                ง. กบในสระน้อย ๆ

๗.        พระสมุทรสุดลึกล้น      คณนา

สายดิ่งทิ้งทอดมา                 หยั่งได้

เขาสูงอาจวัดวา                    กำหนด

จิตมนุษย์นี้ไซร้                    ยากแท้หยั่งถึง

โคลงบทนี้ต้องการจะสอนตามคำประพันธ์ในข้อใด

ก. เราก็จิตคิดดูเล่าเขาก็ใจ              รักกันไว้ดีกว่าชังระวังการ

ข. เกิดเป็นคนเชิงดูให้รู้เท่า             ใจของเราไม่สอนใจใครจะสอน

ค. ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด               ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

ง. แต่คนที่ควรชมนิยมกัน             ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา

๘.        รักกันอยู่ขอบฟ้า                     เขาเขียว

เสมออยู่หอแห่งเดียว                      ร่วมห้อง

ชังกันบ่แลเหลียว                           ตาต่อ  กันนา

เหมือนขอบฟ้ามาป้อง                    ป่าไม้มาบัง

โคลงบทนี้สรุปความได้ตรงกับข้อใด

ก. ถ้าอยากจะรักกันนาน ๆ ควรอยู่ห่างไกลกัน

ข. ถ้าอยากให้เกลียดชังกันควรอยู่ใกล้กันไว้

ค. การอยู่ใกล้หรือไกลไม่ใช่อุปสรรคให้รักหรือชัง

ง. รักกันถึงอยู่ไกลก็เหมือนใกล้  ชังกันถึงอยู่ใกล้ก็เหมือนไกล

  ๙.        สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ               ในตน

กินกัดเนื้อเหล็กจน                         กร่อนขร้ำ

บาปเกิดแต่ตนคน                          เป็นบาป

บาปย่อมทำโทษซ้ำ                        ใส่ผู้บาปเอง

โคลงบทนี้สรุปความได้ตรงตามข้อใด

ก. ทำดีได้ดีมีที่ไหน                                           ข. ทำชั่วได้ดีมีถมไป

ค. จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราเอง                                ง. ชั่วดีเป็นตราบาปไปจนตาย

๑๐.        นกน้อยขนน้อยแต่                  พอตัว

รังแต่งจุเมียผัว                               อยู่ได้

โคลงข้างต้นสอนในเรื่องใด

ก. สอนให้รู้จักประมาณตน                                ข. สอนให้รู้จักทำมาหากิน

ค. สอนให้รู้จักก่อร่างสร้างตัว                            ง. สอนให้รู้จักเก็บหอมรอมริบ

๑๑.        เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม                ใจตาม

เรายากหากใจงาม                           อย่าคร้าน

อุตส่าห์พยายาม                             การกิจ

เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าน                 อย่าท้อทำกิน

โคลงบทนี้ไม่ได้กล่าวถึงในข้อใด

ก. เห็นผู้มั่งมีทำสิ่งใด  ก็อย่าเผลอตัวทำตาม                ข. แม้ว่าเราจะยากจนก็ไม่ควรเกียจคร้าน

ค. ควรเอาอย่างเพื่อนบ้านที่เขาขยันทำมาหากินง. เห็นเงินของเขาอย่าอยากได้ใคร่ดีเอามาเป็นของตน

๑๒.        คุณแม่หนาหนักเพี้ยง    พสุธา

คุณบิดรดุจอา                    กาศกว้าง

คุณพี่พ่างศิขรา                    เมรุมาศ

คุณพระอาจารย์อ้าง             อาจสู้สาคร

โคลงบทนี้ใช้ภาพพจน์ตามข้อใด

ก. อุปมา           ข. อติพจน์            ค. นามนัย             ง. อุปลักษณ์

๑๓.   โคลงในข้อ ๑๒  สอนในเรื่องใด

ก. สอนให้มีความขยัน                                      ข. สอนให้มีความอดทน

ค. สอนให้มีความซื่อสัตย์                                 ง. สอนให้มีความกตัญญูรู้คุณท่าน

๑๔.   คำในข้อใดไม่ได้มีความหมายตรงกับคำว่า  พสุธา

ก. คีรี           ข. ธรณี                           ค. ปัถพี                          ง. วสุมดี

๑๕.        ก้านบัวบอกลึกตื้น                  ชลธาร

มารยาทส่อสันดาน                        ชาติเชื้อ

โฉดฉลาดเพราะคำขาน                  ควรทราบ

หย่อมญ่าเหี่ยวแห้งเรื้อ                   บอกร้ายแสลงดิน

โคลงบทนี้สรุปได้ตรงกับสำนวนในข้อใด

ก. บัวไม่ช้ำ  น้ำไม่ให้ขุ่น                         

ข. ช้างตายทั้งตัว  เอาใบบัวมาปิด

ค. สำเนียงส่อภาษา  กิริยาส่อสกุล           

ง. เด็กดอกไม้ไม่ไว้ขั้ว  เด็ดบัวไม่ไว้ใย

๑๖.   คำในข้อใด  จากโคลงในข้อ  ๑๕  จัดเป็นคำเอกโทษ

ก. ส่อ                         ข. หย่อม                        ค. ญ่า                    ง. เหี่ยว

๑๗.        โคควายวายชีพได้                   เขาหนัง

เป็นสิ่งเป็นอันยัง                            อยู่ไซร้       

     คนเด็ดดับสูญสัง                         ขารร่าง

     เป็นชื่อเป็นเสียงได้                         แต่ร้ายกับดี

โคลงบทนี้สอนในเรื่องใด

ก. สอนให้ปลงตก                                   

ข. สอนให้ทำความดี

ค. สอนให้รักษาทรัพย์                            

ง. สอนให้หาความสุขใส่ตัว

๑๘.        เพื่อนกิน  สิ้นทรัพย์แล้ว           แหนงหนี

     หาง่าย  หลายหมื่นมี                        มากได้

     เพื่อนตาย  ถ่ายแทนชี                   วาอาตม์

     หายาก  ฝากผีไข้                              ยากแท้จักหา

โคลงบทนี้สอนในเรื่องใด

ก. สอนเรื่องให้รักเพื่อนทุกคน                

ข. สอนเรื่องการปฏิบัติต่อเพื่อน

ค. สอนเรื่องการเลือกคบเพื่อน                

ง. สอนเรื่องเพื่อนเราเผาเรือน

๑๙.        อ่อนหวานมานมิตรล้น  เหลือหลาย

     หยาบบ่มีเกลอกราย             เกลื่อนใกล้

     ดุจดวงศศิฉาย                     ดาวดาษ  ประดับนา

     สุริยะส่องดาราไร้                 เพื่อร้อนแรงแสง

โคลงบทนี้ตรงกับสำนวนในข้อใด

ก. พูดไม่มีหางเสียง                                 ข. พูดดีเป็นศรีแก่ปาก

ค. พูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำ                       ง. พูดไปสองไพเบี้ย  นิ่งเสียตำลึงทอง

๒๐.   คำในข้อใดไม่ได้มีความหมายตรงกับคำว่า  ศศิ

ก. แข               ข. โสม                            ค. บุหลัน              ง. ทินกร