ว ตาม นซ แบบชงด ม แบรนด อเมร กา

เผยแพร่: 30 พ.ค. 2565 22:30 ปรับปรุง: 30 พ.ค. 2565 22:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Bomi by MizuMi เปิดตัว “อั๋น-ภูวนาท” พรีเซนเตอร์ Bomi 16.8 Balance Probiotics โชว์ศักยภาพแบรนด์เข้าถึงทุกกลุ่ม-วัย ย้ำ “ลำไส้สมดุล” เพื่อสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

Bomi by MizuMi ภูมิใจนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้องใหม่ล่าสุด นำเข้าจากเกาหลี “Bomi 16.8 Balance Probiotics” จัดเต็มโพรไบโอติกส์แบคทีเรียชนิดดี 16 พันล้านตัว จาก 8 สายพันธุ์เพื่อสุขภาพลำไส้ที่สมดุล ในรูปแบบ 4-Coated Technology เทคโนโลยีเคลือบแบคทีเรีย 4 ชั้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพทำงานสูงสุด เสริมการทำงานของลำไส้ อวัยวะสร้างภูมิต้านทานที่สำคัญที่สุด พร้อมเป็นเกราะป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ ชูจุดเด่นศักยภาพแบรนด์ไทยแบรนด์แรกที่ได้ร่วมงานกับ ILDONG Bioscience ซึ่งเป็นผู้ผลิต Probiotics อันดับ 1 ที่ใหญ่ทีสุดในเกาหลีใต้มานานกว่า 70 ปี พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ผู้ดำเนินรายการคนดัง “อั๋น ภูวนาท คุนผลิน” ตอกย้ำความสำคัญว่าทุกคนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถดูแลสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคุณภาพ

หนุย วริษฐา สืบพันธ์วงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป เปิดเผยว่า โบมิ (Bomi) แบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า Happy Body and mind ซึ่งเป็นแบรนด์ภายใต้ Mizumi สกินแคร์แบรนด์ไทยที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค ได้ขยายกลุ่มสินค้าในประเภทผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ (Supplement) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ จนสามารถเรียกเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างท่วมท้นและเรียกฮือฮาด้วยผลิตภัณฑ์ตัวแรก Bomi Instant Collagen คอลลาเจนกรอกปาก อร่อย สะดวก ที่มีนักแสดงดาวรุ่งสุดฮอตอย่าง พีพี-กฤษฏ์ อำนวยเดชกร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ รวมทั้ง Bomi Gold Collagen พรีเมียมคอลลาเจนชงดื่มเพื่อข้อเข่า

และตอนนี้บริษัทฯ พร้อมแล้วที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง “Bomi 16.8 Balance Probiotics” ตัวช่วยเพิ่มสารอาหารที่ดีต่อลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ จุดเริ่มต้นนำสารอาหารที่ดีไหลเวียนไปทั่วร่างกาย โดยคัดสรรโพรไบโอติกส์แบคทีเรียดีเพื่อสุขภาพลำไส้ที่สมดุล 16 พันล้านตัว จาก 8 สายพันธุ์ เพื่อผสานคุณประโยชน์ของสายพันธุ์แบคทีเรียที่หลากหลาย และมีปริมาณมากพอที่จะปรับสมดุลของลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อม Prebiotics (Fiber) อาหารชั้นดีของโพรไบโอติกส์ เพื่อส่งเสริมการทำงานของโพรไบโอติกส์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังมี Zinc ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้ง Vitamin C ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการทำงานของภูมิคุ้มกันอีกด้วย ไฮไลท์ของ Bomi 16.8 Balance Probiotics ยังอยู่ที่กระบวนการผลิตในรูปแบบ 4-Coated Technology หรือเทคโนโลยีเคลือบแบคทีเรีย 4 ชั้น เพื่อไม่ให้แบคทีเรียถูกทำลายโดยกรดในกระเพาะอาหารก่อนเดินทางถึงลำไส้ และมีเป้าหมายเน้นความสะดวกในการบริโภค โดนใจทุกกลุ่มเพียงฉีกซองขนาด 3,000 มิลลิกรัม กรอกปากได้เลย มาพร้อมรสโยเกิร์ตแสนอร่อย ช่วยให้การกินง่ายขึ้น

ผู้บริหารสาวคนเก่งแห่ง มิซึฮาดะ กรุ๊ป ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Bomi 16.8 Balance Probiotics ในประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้ทุกคนรู้จักผลิตภัณฑ์มากขึ้น Bomi 16.8 Balance Probiotics ได้เชิญพรีเซ็นเตอร์คนดัง ไอดอลของคนทำงานและเป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ อย่าง อั๋น-ภูวนาท คุนผลิน เข้ามาขับเคลื่อนแบรนด์ Bomi by MizuMi และโปรโมทคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่ล่าสุดนี้ด้วย

ทั้งนี้ นอกจากผลิตภัณฑ์เด่นทั้งสอง อย่าง Bomi Collagen และ Bomi 16.8 Balance Probiotics แล้ว แบรนด์โบมิยังมี Bomi Immu C วิตามินซีจากอเมริกา และสมุนไพรไทยเสริมภูมิต้านทาน ซึ่งสามารถสะท้อนความตั้งใจของแบรนด์ที่จะเป็นตัวช่วยและทางเลือกของคนรักสุขภาพอย่างชัดเจน โดยบริษัทฯ วางแผนว่าแบรนด์เตรียมตัวเปิดตัวสินค้ามากถึง 8 - 10 ไลน์สินค้าภายในปี 2566 โดยเป้าหมายหลักของแบรนด์ Bomi จะมุ่งตอบโจทย์ในการดูแลสุขภาพของคนไทย และเข้าถึงคนทุกกลุ่มทุกวัยให้ได้ เน้นให้มีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเพื่อลำไส้ให้สมดุล Bomi 16.8 Balance Probiotics โดย 1 กล่องบรรจุ 14 ซอง ซองละ 3 กรัม ในราคากล่องละ 790 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bomiprobiotics.com พร้อมจำหน่ายทุกช่องทางแล้วที่ : Watsons, Eve&Boy, Beautrium, Boots, Shopee, Lazada

เชื่อว่าคอกาแฟหลายคนต้องดีใจ ที่กรุงเทพมหานครกำลังจะกลายเป็นเมืองหลวงแห่งกาแฟ เพราะบรรดาคาเฟ่ใหม่ ๆ ต่างพากันเปิดตัวหลายร้านให้เราออกไป Hopping กันแบบไม่ซ้ำ และยังมีแบรนด์คาเฟ่ชื่อดังจากเมืองนอก ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ฮ่องกง ฝรั่งเศส และแคนาดา ที่อิมพอร์ตคุณภาพความอร่อยส่งตรงถึงไทย จนแฟน ๆ Cafe Hopper ตัวจริงต้องเตรียมไปต่อแถวรอลิ้มลองรสชาติซิกเนเจอร์ที่หน้าร้านกันตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้บริการเลยทีเดียว BKK. จึงขอชวนมาทำความรู้จัก 6 แบรนด์กาแฟคุณภาพที่แลนด์ดิ้งมาเปิดสาขาที่ไทยแล้ววันนี้ และดูกันว่าแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์อะไรที่แฟน ๆ ชาวไทยต้องหาโอกาสไปลองกันสักครั้ง!

% Arabica

% Arabica เป็นร้านกาแฟดังสัญชาติญี่ปุ่น ที่เริ่มต้นโดยนักธุรกิจหนุ่มชาวญี่ปุ่น Kenneth Shoji ที่เดินทางไปทำธุรกิจทั่วโลกแล้วค้นพบว่า ‘กาแฟ’ คือคำตอบของชีวิต ก่อนจะซื้อฟาร์มกาแฟในเกาะฮาวาย และต่อยอดธุรกิจมาเป็นผู้ส่งออก Tornado King Coffee Roaster เครื่องคั่วสัญชาติญี่ปุ่น และเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย Slayer Machine เครื่องชงเอสเพรสโซหนึ่งในแบรนด์ที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก และร่วมมือกับ Junichi Yamaguchi แชมป์ลาเต้อาร์ตจาก The Coffee Fest Latte Art World Championship เปิดร้านกาแฟแห่งแรกขึ้นที่เกียวโตในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 และขยายสาขาไปทั่วโลกรวมกว่า 50 สาขาในปี 2020 นี้ ในคอนเซ็ปต์และปรัชญาที่ยึดถือมาตลอดอย่าง "See The World Through Coffee"

% Arabica

ร้านกาแฟดังสัญชาติญี่ปุ่น เปิดสาขาที่ไทยแล้วเป็นครั้งแรกที่ ICONSIAM

นอกจากสไตล์การตกแต่งร้านแบบมินิมัลในโทนสีขาว มีโลโก้เปอร์เซ็นต์เป็นเอกลักษณ์แล้ว คุณภาพและรสชาติกาแฟก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะ % Arabica มีฟาร์มกาแฟเป็นของตัวเอง และใช้เทคโนโลยีการคั่วแบบ Made To Order อีกทั้งยังเทรดดิ้งเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากทั่วโลกมาใช้ ทำให้ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ล้วนแล้วแต่อยากตามไปลิ้มลองรสชาติกาแฟให้ครบทุกสาขา

รวมทั้งสาขาในประเทศไทยที่เปิดตัวครั้งแรกแล้วที่ ICONSIAM ออกแบบโดยบริษัท Nomura Kougeisha ในดีไซน์ Futuristic แปลกตาใจกลางห้าง และมีพื้นที่นั่งจิบกาแฟโค้งรับไปรอบ ๆ ตัวร้านแบบ 360 องศา ซึ่งสาขาไทยเรานี้ถูกจัดให้เป็นร้านที่มีพื้นที่กว้างเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และยังเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยก็ว่าได้ พร้อมห้องคั่วกาแฟกลางร้านที่โอบล้อมด้วยกระจกใส เผยให้เห็นบรรยากาศและขั้นตอนการคั่วกาแฟของเหล่าบาริสต้าที่กำลังคั่วกาแฟด้านในได้อย่างใกล้ชิด

เครื่องชงกาแฟ Slayer Machine เอกลักษณ์ประจำของ % Arabica

สำหรับเมนูที่พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยแบบสากล ขอแนะนำ Iced Americano, Iced Latte ที่สามารถเลือกเมล็ดกาแฟได้ตามใจชอบ และเมนู Hot Spanish Latte ที่เพิ่มเติมความพิเศษของรสชาติกาแฟด้วยความ Creamy หอมหวานจากนมข้นหวานที่หลายคนจะต้องติดใจ และอย่าลืมตามไปช้อปไอเท็มดีไซน์สุดมินิมัลจาก % Arabica ที่ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ของแบรนด์สู่ทุกผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดภาพจำมากกว่าเพียงแค่การดื่มกาแฟเท่านั้น แต่ทั้งหมดคือไลฟ์สไตล์ในแบบฉบับของ % Arabica

นอกจากกาแฟแล้ว ยังสามารถช้อปไอเท็มดีไซน์สุดมินิมัลจาก % Arabica ได้อีกด้วย

Iced Latte

% Arabica ชั้น 1 ศูนย์การค้า ICONSIAM เปิดทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น. www.facebook.com/arabica.th

Café Kitsuné Bangkok

สด ๆ ร้อน ๆ กับคาเฟ่ Café Kitsuné Bangkok แบรนด์กาแฟจากฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น ที่เปิดตัวสาขาแรกที่ประเทศไทย แบบไม่ต้องบินไกลไปถึงต่างประเทศไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และได้กระแสตอบรับดีชนิดที่ว่าแถวต่อคิวล้นออกมาบริเวณหน้าร้าน เดิม Maison Kitsuné’ แบรนด์แฟชั่นสัญลักษณ์สุนัขจิ้งจอกนี้ ถือกำเนิดโดยชายหนุ่ม 2 สัญชาติ Gildas Loaëc จากประเทศฝรั่งเศส และ Masaya Kuroki จากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยการรวบรวมความเป็นไลฟ์สไตล์ระหว่างดนตรีกับแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว สะท้อนศิลปะการใช้ชีวิตลงไปในรูปแบบของแฟชั่น เสียงเพลง และเครื่องดื่ม

‘Maison’ หมายถึงบ้านในภาษาฝรั่งเศส และ ‘Kitsuné’ หมายถึงสุนัขจิ้งจอกในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผสมผสานกลิ่นอายของฝรั่งเศสและญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกัน

Café Kitsuné Bangkok

พื้นที่ร้านรวบรวมความเป็นไลฟ์สไตล์ระหว่างดนตรีกับแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว

อีกหนึ่งความพิเศษของ Café Kitsuné ก็คือกาแฟ ซึ่งทางร้านมีโรงคั่วเมล็ดกาแฟ (Kitsuné Roastery) เป็นของตัวเอง โดยโรงคั่วแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดโอกายาม่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะส่งต่อเมล็ดกาแฟที่คั่วแล้วไปยัง Café Kitsuné ทุกสาขาทั่วโลก ทำให้รสชาติของกาแฟทุกสาขามีรสชาติเดียวกัน โดยทางแบรนด์ได้คัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีที่มาจากแหล่งเพาะปลูกชั้นเยี่ยมอย่างประเทศคอสตาริก้า นิคารากัว เอลซัลวาดอร์ และกัวเตมาลา เป็นต้น โดยเครื่องดื่มแนะนำที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ก็คือ กาแฟลาเต้, มัทฉะลาเต้ หรือจะเป็น น้ำส้มยูซุผสมน้ำผึ้ง ซึ่งสามารถเลือกดื่มได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ควบคู่ไปกับขนมซิกเนเจอร์ของแบรนด์อย่างคุกกี้ดีไซน์พิเศษรูปสุนัขจิ้งจอก

จิบกาแฟ พร้อมช้อปสินค้าแฟชั่นแบบเพลิน ๆ

ทางแบรนด์คัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีที่มาจากแหล่งเพาะปลูกชั้นเยี่ยมหลายประเทศ

เครื่องดื่มแนะนำที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ก็คือกาแฟลาเต้ มัทฉะลาเต้ หรือจะเป็นน้ำส้มยูซุผสมน้ำผึ้ง

Café Kitsuné ชั้น G, The Glass Quartier, ศูนย์การค้า EmQuartier เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. www.facebook.com/ppgroupthailand www.facebook.com/EmporiumEmquartier

Tim Hortons

Tim Hortons ร้านกาแฟแบรนด์ดังจากแคนาดา ที่ชนะใจลูกค้าทั่วโลกมาแล้วอย่างล้นหลามด้วยรสชาติกาแฟระดับพรีเมียม ขนมที่อบสดใหม่ และความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด พร้อมเปิดให้บริการแก่ชาวไทยแล้วเป็นครั้งแรกที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ และนับเป็นประเทศที่ 14 ของแบรนด์ที่ขยายสาขาทั่วโลก พร้อมตกแต่งร้านที่ให้บรรยากาศแบบแคนาดาตามประเทศต้นกำเนิด โดยมีแก้วกาแฟสีแดงใบยักษ์สะดุดตาที่ตั้งเป็นเอกลักษณ์บริเวณหน้าร้าน

Tim Hortons

พร้อมตกแต่งร้านที่ให้บรรยากาศแบบแคนาดาตามประเทศต้นกำเนิด

ย้อนกลับไปในปี 1964 คือจุดเริ่มต้นของ Tim Hortons ที่นักกีฬาฮอกกี้ทีมชาติชื่อดัง Tim Hortons จากรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ตั้งใจเข้าสู่วงการธุรกิจร้านอาหาร โดยเริ่มต้นจากการเปิดร้านกาแฟและโดนัทภายใต้ชื่อ Tim Horton Donuts ที่เน้นเสิร์ฟกาแฟสุดคลาสสิกและโดนัท ซึ่งเป็นอาหารจานด่วนยอดนิยมของชาวอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะทิมบิทส์โดนัทลูกกลม ๆ ชิ้นพอดีคำที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ก่อนจะย่อชื่อเหลือเพียง Tim Hortons ในปัจจุบัน และเสิร์ฟอาหารเช้าอื่น ๆ เพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น แซนด์วิช ครัวซองต์ คุ้กกี้ ฯลฯ

สำหรับเมนูยอดนิยมที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ขอแนะนำเมนูที่พลาดไม่ได้อย่าง Freshly Brewed Coffee หรือ Cold Brew อย่างเช่น Vanilla Dream Cold Brew, Double Double ที่เสิร์ฟกาแฟระดับพรีเมียมอาราบิก้าแท้ 100% ให้ได้ลิ้มรสความอร่อยแบบต้นตำรับ หรือจะลองเป็นเมนูไฮไลต์ Ice Capp กาแฟอาราบิกาเข้มข้นปั่นผสมกับครีมนมรสชาติเนียนนุ่ม ที่มีให้เลือกหลายเมนู เช่น Cookies & Cream Ice Capp, Birthday Cake Ice Capp ฯลฯ ที่เหมาะจะดื่มคู่กับบรรดาโดนัทและเบเกอรีโอมเมดสดใหม่ในทุก ๆ วัน พร้อมให้คอกาแฟทุกท่านได้ลิ้มลอง

ทางร้านเน้นเสิร์ฟกาแฟและโดนัทสุดคลาสสิก ซึ่งเป็นอาหารจานด่วนยอดนิยมของชาวอเมริกาเหนือ (Photo by www.facebook.com/timhortonsth)

ไม่ควรพลาดสั่งกาแฟสักแก้วดื่มคู่กับโดนัทและเบเกอรีโฮมเมดอร่อย ๆ ของทางร้าน (Photo by www.facebook.com/timhortonsth)

Tim Hortons สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น G เปิดทุกวันเวลา 07.00-22.00 น. โทร. 0-2264-6262 www.facebook.com/timhortonsth

Hario Cafe Bangkok

“เราอยากให้ที่นี่เป็น Community ของคนที่หลงใหลในรสชาติและรสสัมผัสของกาแฟ”

คำกล่าวนี้คือคอนเซ็ปต์ของ Hario Cafe คาเฟ่จากญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จจนเลือกประเทศไทยเป็นสาขาที่ 3 ของโลก ในย่านโชคชัย 4 ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบและคลุกคลีอยู่ในวงการกาแฟมาก่อนนั้น จะต้องรู้จักแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟดริปคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Hario แน่นอน

จากสาขาแรกที่ญี่ปุ่น Hario Cafe Bangkok ยังคงความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์การตกแต่งร้านให้ออกมาในโทนสีขาวแบบสไตล์ Minimal ที่ทั้งเรียบง่าย เน้นความสบายตาด้วยแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านกระจกรอบทิศทาง ดึงดูดใจให้ใครหลายคนได้แวะเวียนมาชิลล์เอาต์ตลอดทั้งวันด้วยการจัดสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่น และเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของร้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้

Hario Cafe Bangkok

จากแบรนด์ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กาแฟดริปคุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น สู่คาเฟ่ Minimal เรียบง่ายในไทย

เมนูเครื่องดื่มของทางร้านเน้นเสิร์ฟ Specialty Coffee โดยทางร้านมีมุม Slow Bar เอาใจสายกาแฟที่ชอบกาแฟ Drip, Syphon และ Cold Brew รวมทั้งร่วมพูดคุยเรื่องกาแฟอย่างใกล้ชิดเหล่าบาริสต้า พร้อมดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟคุณภาพดี และอีกหนึ่งความพิเศษ คือเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์ที่มีคาแร็กเตอร์โดดเด่น อันเนื่องมาจากแหล่งเพาะปลูกที่นำเข้ามาจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยทางร้านจะเพิ่มเมล็ดกาแฟหายากที่เบลนด์ขึ้นเป็นพิเศษตามฤดูกาล เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาลิ้มรสชาติของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น Costa Rica, Kenya Indonesia และ House Blend

นอกจากนี้ยังมี Victory Series: Infinity Blend เป็นกาแฟที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง จาก International Coffee Tasting Competition 2019 ซึ่งผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟจากแม่สลอง ขุนช้างเคี่ยน และอินโดนิเซีย ซึ่งใช้เป็นตัวเบสรสชาติกาแฟ Cold Brew ของทางร้านอีกด้วย

เมนูเครื่องดื่มของทางร้านเน้นเสิร์ฟ Specialty Coffee พร้อมมุม Slow Bar เอาใจคอกาแฟตัวจริง

Yuzu Cold Brew

และกาแฟทั้งหมดยังใช้อุปกรณ์ที่มาจากแบรนด์ HARIO แบรนด์อุปกรณ์กาแฟที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในญี่ปุ่น ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากการผลิตแก้วบีกเกอร์ และกลายมาเป็นที่มาของชื่อร้านนั่นเอง ทางร้านจึงมีโซนพิเศษที่วางโชว์สินค้าให้คอกาแฟได้ทดลองใช้และช้อปอุปกรณ์กลับไปใช้งานที่บ้านอีกด้วย

Coffee Royale

Hario Cafe Bangkok โชคชัย 4 ซอย 39 เขตลาดพร้าว เปิดทุกวัน เวลา 06.00-24.00 น. (ทางร้านได้ปรับเวลาเปิด-ปิดใหม่หลังสถานการณ์ COVID-19) โทร. 08-5480-2920 www.facebook.com/hariocafebkk

Kurasu Bangkok

Kurasu Bangkok อีกหนึ่งคาเฟ่ที่ส่งตรงจากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่มีจุดเร่ิมต้นจาก Online Homeware Store ในประเทศออสเตรเลียโดย Yozo Otsuki และภรรยา ก่อนจะเปิดเป็นร้านกาแฟในเกียวโตบ้านเกิด พร้อม Retail Space เล็ก ๆ ที่ตั้งใจมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟไปพร้อม ๆ กับหน้าร้านโชว์สินค้า จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่น ก่อนจะเลือกพิกัดอย่าง Bambini Villa ย่านทองหล่อ ประเทศไทยเป็นหมุดหมายให้คนรักกาแฟมารวมตัวกัน ซึ่งสาขานี้เป็นสาขาต่างประเทศแห่งที่ 2 ต่อจากประเทศสิงคโปร์

หากใครเคยมีโอกาสได้ไปเยือน Kurasu สาขาจากประเทศญี่ปุ่น ต้องถูกใจกับสไตล์ที่ชัดเจนในเรื่องความมินิมัลตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านสีขาวสบายตา อุปกรณ์ชงกาแฟ รวมไปถึงวัฒนธรรมการชงกาแฟที่ถ่ายทอดผ่านบาริสต้าสุดติสต์ ที่ครั้งนี้ตัวแทนจากบาริสต้าจากประเทศไทยก็ได้ไปทำการเทรนด์ฝีไม้ลายมือในการชงกาแฟจากต้นตำรับมาให้เราตามไปลิ้มลองรสชาติแบบไม่ต้องนั่งเครื่องไปไกลเลยทีเดียว

Kurasu Bangkok

อุปกรณ์ชงกาแฟที่ส่งตรงจากเกียวโต ซึ่งสั่งทำเฉพาะให้เป็นแบรนด์ Kurasu เท่านั้น

หนึ่งสิ่งที่ Kurasu ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ไป คือ อุปกรณ์ชงกาแฟที่ส่งตรงจากเกียวโต ซึ่งสั่งทำเฉพาะให้กับแบรนด์ Kurasu เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น แก้วกาแฟ Dripper และเซรามิกเนื้อแมตท์จากแบรนด์ 1616/arita japan ไปจนถึงอุปกรณ์การชงและดื่มกาแฟ จากแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง HARIO และ KINTO Japan รุ่น Limited Edition ที่ขายเฉพาะ Kurasu อีกด้วย

มินิมัลตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น

ความโดดเด่นของ Kurasu คือวิธีการชงกาแฟแบบ Slowbar

ความโดดเด่นของ Kurasu คือวิธีการชงกาแฟแบบ Slowbar ที่เน้นใช้อุปกรณ์และฝีไม้ลายมือในการโชว์รสชาติของกาแฟ โดยเฉพาะ Hand Drip ที่ทางร้านมีเมล็ดกาแฟพิเศษจากหลากหลายที่ให้เลือกชิม โดยสลับสับเปลี่ยนเมล็ดมาให้ลองกันเรื่อย ๆ ทุก 2 เดือน ไม่ว่าจะเป็น Ethiopia Gesha Village Oma, Ethiopia Dumerso, Brazil และ El Salvador และเมล็ดกาแฟพิเศษเฉพาะสาขานี้ที่ไม่ควรพลาดอย่าง Kurasu Bangkok Blend เมล็ดกาแฟเบลนด์จากหมู่บ้านแม่จันใต้ที่คั่วพิเศษจากร้าน Cultivar 11 เพื่อนบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณติดกัน โดยจะมีชาร์ตอธิบายรสชาติของกาแฟแต่ละชนิดให้เข้าใจโดยง่าย และมีบาริสต้าคอยพูดคุยให้คำแนะนำที่บริเวณเคาน์เตอร์บาร์อย่างเป็นกันเอง

ไม่ควรพลาดเมนูแนะนำ Macha Latte Espresso (160 บาท) Kurasu Bangkok Blend เมล็ดกาแฟเบลนด์จากหมู่บ้านแม่จันใต้ที่คั่วพิเศษจากร้าน Cultivar 11

Macha Latte Espresso

Kurasu Bangkok ชั้น 1 โครงการ Bambini Villa เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. www.facebook.com/kurasubkk

The Coffee Academïc Thailand

The Coffee Academïcs ตัวแทนร้านกาแฟชื่อดังจากย่านคอร์สเวย์เบย์ในฮ่องกงเอง ก็เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้ง หลังจากขยายไปกว่า 14 สาขาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเนเธอร์แลนด์ ก่อตั้งโดย Jennifer Wai Fun Liu สถาปนิกสาวที่รักในการดื่มกาแฟ จนเป็นที่รู้จักของบรรดาชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และได้รับการจัดอันดับจาก BuzzFeed ให้เป็นหนึ่งใน ‘25 ร้านกาแฟที่จะต้องไปเห็นก่อนคุณจะตาย’ และในปี 2559 The Telegraph ยกให้เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่ดีที่สุดในโลก และอยู่ในคู่มือแนะนำร้านของมิชลินไกด์ในปี 2560 อีกด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราควรหาโอกาสไปชิมกาแฟที่ The Coffee Academïc Thailand สักครั้งที่โครงการ เวลา หลังสวน สินธรวิลเลจ สาขาแรกในประเทศไทย

The Coffee Academïc Thailand

พื้นที่สำหรับการเรียนรู้และเป็นพื้นที่ทางความคิดสำหรับกลุ่มคนรักกาแฟ

The Coffee Academïcs เปรียบเสมือนพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และเป็นพื้นที่ทางความคิดสำหรับกลุ่มคนรักกาแฟ ซึ่งตกแต่งด้วยกระจกใสโดยรอบให้ความโปร่งโล่ง เห็นบรรยากาศด้านในร้านที่เลือกใช้โต๊ะเก้าอี้ไม้โทนสีน้ำตาล และกลิ่นอายความเป็นฮ่องกงจากกระเบื้องโมเสกตรงบาร์กาแฟ

และโดดเด่นด้วยการคัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิก้าพิเศษ คุณภาพดีจากไร่กาแฟกว่า 50 แห่งทั่วโลก เช่น เปรู ปานามา เคนยา อินโดนีเซียและเยเมน ด้วยวิธีการคัปปิ้งที่พิถีพิถัน ถึงกับได้รับคะแนนด้านการเบลนด์กาแฟจาก Coffee Review 90+ คะแนน และคะแนนด้านเมล็ดกาแฟ 83+ คะแนนจากสมาคมกาแฟเลยทีเดียว ซึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ เมนูกาแฟซิกเนเจอร์ 4 ตัว ที่ได้นำความหวานจากธรรมชาติจากประเทศต่าง ๆ มาใช้ซึ่งทำให้รสชาติของกาแฟพิเศษไม่เหมือนใคร ได้แก่ Agave ลาเต้ที่ใช้ความหวานจากต้นอะกาเวของเม็กซิโก ผสมผสานกับพริกไทยดำทำให้ได้รสชาติหวานหอมปนเผ็ดเล็กน้อย, Jawa ลาเต้มัคคิอาโต้ ที่ใช้น้ำตาลโตนดของอินโดนีเซีย ผสมกลิ่นหอมของใบเตย, Okinava คาปูชิโนที่ใช้น้ำตาลทรายแดงจากจังหวัดโอกินาวาในประเทศญี่ปุ่น และ Manuka ลาเต้ที่ใช้น้ำผึ้งมานูก้าแท้จากประเทศนิวซีแลนด์