ตัวอย่าง การวิจารณ์งานศิลปะ

                        วิจารณ์:เป็นผลงานที่ดีเลิศในการลงสีสันที่ตัดกัน มีความกลมกลืนของภาพเป็นรูปปลาคล้ายปลากัดที่มีคับยาวเเละเยอะเป็นการลงสีที่ยากมากเพราะคีบทั้งสองต้องใช้การตวัดเเละทำออกมาให้เหมือนกันอย่างสวยงาม  พื้นหลังสวยงามมากทำให้ภาพที่มองออกมานั้นมีความเเปลกตาเป็นอย่างมาก
          เป็นขั้นตอนของการตัดสินงานศิลปะนั้น ดี หรือมีความ บกพร่องอย่างไร การประเมินหรือการตัดสิน เป็นขั้นตอนที่จำเป็น ที่ต้องมีการพิจารณา ตรวจสอบ ถึงเจตนาและผลที่เกิดขึ้น ของงานศิลปะชิ้นนั้น อาจจะเปรียบเทียบ กับงานศิลปะชิ้นอื่น ที่มีลักษณะ คล้ายคลึงกัน ที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกัน การที่จะ ประเมิน หรือตัดสินผลงานศิลปะอย่างมีสุนทรียภาพนั้น จะต้องมีเหตุผลและ ใช้หลักเกณฑ์ อย่างยุติธรรมและมีคุณธรรม

ตวั อยา่ ง - การวิจารณง์ านศลิ ปะ

Example Art Criticism

ศ 1.1 สร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์ ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สร้างสรรค์
วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณค์ ุณคา่ งานทศั นศิลป์
ศ 1.1 ม.4-6/8 ประเมนิ และวจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
โดยใช้ทฤษฎกี ารวจิ ารณศ์ ลิ ปะ

1. ขนั ระบุข้อมูลของผลงาน
ประเภทงาน : จิตรกรรม
ชือผลงาน : โมนาลซิ า ( Mona Lisa )
ชือศลิ ปิน : เลโอนารโ์ ด ดา วนิ ชี ( Leonado da Vinci )
ศลิ ปินชาวอติ าเลยี น
ขนาดผลงาน : 77 x 53 ซม.
เทคนิค วสั ดุ : สนี าํ มนั บนแผน่ ไม้
ผลงานสรา้ งเมือปี : พ.ศ.2046 - 2049 ( ค.ศ.1503 - 1506 )
ปัจจบุ นั อยทู่ ี : พพิ ิธภณั ฑล์ ฟู ว์ กรุงปารสี ประเทศฝรงั เศส
รูปแบบการสรา้ งสรรค์ : เป็นงานศลิ ปะตะวนั ตก การถ่ายทอดรูปแบบเหมือนจรงิ
ตามลกั ษณะแบบอยา่ งของศลิ ปะสมยั ฟืนฟศู ลิ ปะ
วทิ ยาการ ( Renaissance )

2. ขันพรรณนาในผลงาน
เป็นภาพเขียนครงึ ตวั ( Portrait ) หญิงผมยาว มีผา้ คลมุ หวีผมแสก

กลาง เสอื คลมุ ดว้ ยสดี าํ เรยี บ เห็นใบหนา้ เกือบตรง ลาํ ตวั บดิ เอียงเลก็ นอ้ ย
มือขวาวางควาํ สมั ผสั ขอ้ มือซา้ ย ทีวาราบอยบู่ นทีวางแขนของเกา้ อี เบืองหลงั
เป็นภาพของทิวทศั น์ สงบเงียบ บรรยากาศเรน้ ลบั ชวนฝัน
ภาพสว่ นขยายนยั นต์ าและรอยยิม ของโมนาลซิ า ทีแสดงออกถงึ ความรูส้ กึ ที
ตอ้ งการคน้ หาบางสงิ ซอ่ นเลศนยั และปรศิ นาใหผ้ ดู้ ู เกิดความรูส้ กึ
และตงั คาํ ถามวา่ โมนาลซิ า กาํ ลงั คดิ อะไรอยู่

2. ขันพรรณนาในผลงาน
เป็นภาพเขียนครงึ ตวั ( Portrait ) หญิงผมยาว มีผา้ คลมุ หวีผมแสก

กลาง เสอื คลมุ ดว้ ยสดี าํ เรยี บ เห็นใบหนา้ เกือบตรง ลาํ ตวั บดิ เอียงเลก็ นอ้ ย
มือขวาวางควาํ สมั ผสั ขอ้ มือซา้ ย ทีวาราบอยบู่ นทีวางแขนของเกา้ อี เบืองหลงั
เป็นภาพของทิวทศั น์ สงบเงียบ บรรยากาศเรน้ ลบั ชวนฝัน
ภาพสว่ นขยายนยั นต์ าและรอยยิม ของโมนาลซิ า ทีแสดงออกถงึ ความรูส้ กึ ที
ตอ้ งการคน้ หาบางสงิ ซอ่ นเลศนยั และปรศิ นาใหผ้ ดู้ ู เกิดความรูส้ กึ
และตงั คาํ ถามวา่ โมนาลซิ า กาํ ลงั คดิ อะไรอยู่

3. ขนั วเิ คราะห์
ดา้ นความงาม เป็นภาพทีสรา้ งสรรค์ โดยยดึ ทฤษฎีการเลยี นแบบตามธรรมชาติ
มีรอยยมิ มมุ ปาก
จดั ภาพตามแบบอยา่ งของศลิ ปะ สมยั ฟืนฟศู ลิ ปวทิ ยาการ (Renaissance)
คอื มีบคุ คลเป็นประธานของภาพ และมฉี ากหลงั เป็นทวิ ทศั น์ แสดงบรรยากาศตาม
จินตนาการ เพราะศลิ ปินในสมยั นนั มีความเชือวา่ มนษุ ยเ์ ป็นศนู ยก์ ลางของจกั รวาล
ดา้ นสาระ เป็นภาพทีแสดงใหเ้ หน็ วฒั นธรรมการแตง่ กายของคนชนั สงู ในสมยั นนั
ดา้ นอารมณค์ วามรูส้ กึ อารมณค์ วามรูส้ กึ ภายในของโมนาลซิ าทแี ฝงอยใู่ นทา่ ทาง
และสะทอ้ นใหเ้ หน็ ไดจ้ ากนยั นต์ าและรอยยมิ ปรศิ นา รวมทงั ความรูส้ กึ ทีรบั รูไ้ ดจ้ าก
บรรยากาศในมา่ นหมอกของฉากหลงั

การวเิ คราะหท์ ศั นธาตุ
เสน้ แสดงการใชเ้ สน้ โคง้ และเสน้ ลกั ษณะอนื ๆ ไดส้ มั พนั ธก์ ลมกลนื กนั
รูปรา่ ง รูปทรง แสดงรูปรา่ ง รูปทรง ลกั ษณะธรรมชาตขิ องคน และทวิ ทศั นไ์ ดอ้ ยา่ ง
สวยงาม
สี แสดงภาพสสี ว่ นรวมเป็นโทนสนี าํ ตาลอมเขียวและดาํ สนี าํ ตาลหมายถงึ ธรรมชาติ
หรอื โลก สนี าํ ตาลออกดาํ หมายถงึ ความสขุ มุ ความลกึ ลบั ซอ่ นเรน้ และสเี ขยี วหมายถงึ
ชีวติ ขนาด สดั สว่ น แสดงขนาดของคนไดเ้ หมาะสมกบั ขนาดภาพ และแสดงสดั สว่ น
ทางกายวภิ าคไดถ้ กู ตอ้ ง งดงามตามธรรมชาติ
แสงเงา แสดงการใชแ้ สงเงาทีกลมกลนื เหมอื นธรรมชาติ บรเิ วณใบหนา้ และมอื ใหแ้ สง
สวา่ งมาก
บรเิ วณวา่ ง มีทวิ ทศั นอ์ ยฉู่ ากหลงั ทาํ ใหภ้ าพมรี ะยะใกลไ้ กล มีมิตติ นื ลกึ
และเหมอื นจรงิ
ลกั ษณะผวิ แสดงการใชล้ กั ษณะผิวในสว่ นของใบหนา้ และมอื ดว้ ยการเกลยี สใี ห้
นมุ่ นวล และเหมือนจรงิ โดยเฉพาะมอื ขวาใหค้ วามรูส้ กึ เหมอื นมีเลอื ดเนือจรงิ ๆ

การวเิ คราะหห์ ลักองคป์ ระกอบศลิ ป์
เอกภาพ การจดั ภาพโดยรวม มีความเป็นเอกภาพดว้ ยเสน้ รูปรา่ ง รูปทรง สี แสงเงาทีสมั พนั ธก์ ลมกลนื

กนั ทงั รูปคนและธรรมชาติ ทาํ ใหท้ งั ภาพดเู ป็นอนั หนงึ อนั เดียวกนั
ดลุ ยภาพ แสดงภาพโมนาลิซา ตรงแกนกลาง วางทา่ อยใู่ นแนวรูปสามเหลยี ม จดั วางทิวทศั นไ์ วใ้ นบรเิ วณ

วา่ ง มีลกั ษณะของดลุ ยภาพ แบบซา้ ยขวาเทา่ กนั ซงึ ใหค้ วามรูส้ กึ สงบทางกายภาพ
จดุ เดน่ แสดงจดุ เดน่ อยบู่ นใบหนา้ มีดวงตาทีใหค้ วามรูส้ กึ เหมือนมองผดู้ ผู ลงานอยตู่ ลอดเวลา และ

รอยยิมทีเป็นปรศิ นา
ความกลมกลืน แสดงการจดั ภาพของสว่ นประกอบตา่ งๆ ทางทศั นธาตุ ทงั รูปแบบของเสน้ รูปรา่ ง รูปทรง สี

ขนาด สดั สว่ น แสงเงา บรเิ วณวา่ ง และพืนผิวไดอ้ ยา่ งสมั พนั ธก์ ลมกลนื กนั ทงั เทคนิค วิธีการ
ซงึ สอดประสานกบั อารมณ์ ความรูส้ กึ ของภาพไดอ้ ยา่ งงดงาม
ความขดั แยง้ แสดงความขดั แยง้ ในดา้ นนาํ หนกั สี แสงเงา สว่ นรวมของภาพมีความเขม้ คลาํ ตา่ งกบั สว่ น

ใบหนา้ ทีใชน้ าํ หนกั สี ลงเงาออ่ นกวา่ แตม่ ีผลดีคือชว่ ยสง่ เสรมิ บรเิ วณสว่ นใบหนา้ ใหม้ ีความ
เจิดจา้ เดน่ ชดั และงดงามยิงขนึ

4. ขันตคี วาม
เป็นงานจิตรกรรมภาพเหมือน (Portrait)ทีมีชือเสียง

มาก เป็นภาพของหญิงสาวในทา่ นงั แตง่ กายตามสมยั นิยมใน
แฟชนั แบบ ฟลอเรนไทน์ ในอิตาลี เบืองหลงั เป็นภาพทวิ ทศั นภ์ เู ขา
ทีดนู มุ่ เบา แสดงออกทางอารมณค์ วามรูส้ กึ บนใบหนา้ โดยเฉพาะ
แววตาและรอยยิมทีเป็นปรศิ นา ไมส่ ามารถจะบอกได้ วา่ เธอกาํ ลงั
ยิม หวั เราะ รอ้ งไห้ หรอื เธอตอ้ งการบอกอะไรบางอยา่ งกนั แน่ ผทู้ ีได้
ชมภาพนี จะเกิดจินตนาการ ในการสรา้ งความรูส้ กึ หรอื อารมณ์
เขา้ ไปในภาพดว้ ย

5. ขันประเมนิ ผล
หลกั ทศั นธาตแุ ละหลกั การจดั องคป์ ระกอบศิลป์
ศิลปินนาํ หลกั ทศั นธาตแุ ละการจดั องคป์ ระกอบ

ศิลป์ มาใชใ้ หเ้ กิดความสมั พนั ธก์ นั ทงั ในสว่ นประธาน
และสว่ นรองของภาพ ทาํ ใหผ้ ลงานมีเอกภาพ ดลุ ยภาพ
จดุ เดน่ ความกลมกลืน และความขดั แยง้ ไดง้ ดงาม
ตามกรรมวธิ ีการจดั องคป์ ระกอบศิลป์ แบบศิลปะ
สมยั ฟื นฟศู ิลปวิทยาการ (Renaissance)

ทกั ษะฝี มอื และการถา่ ยทอดความงาม
จิตรกรมีทกั ษะ และความสามารถในการเขียนภาพเหมือนจรงิ และ

พฒั นา กรรมวิธีการแกป้ ัญหา ระยะตืนลกึ ของภาพ โดยใชเ้ ทคนิคภาพสีหมน่
(Sfum ato)ทาํ ใหฉ้ ากหลงั ดนู มุ่ เบา และใชโ้ ทนสหี นกั กบั ตวั นางแบบ
นอกจากนี จิตรกรยงั นาํ หลกั ทศั นมติ เิ ชิงอากาศ (AerialPerspective)
มาใชใ้ นการแกป้ ัญหาระยะตืนลกึ คอื การทาํ ใหภ้ าพ ดเู หมือนกบั มองผา่ น
ปรมิ าณอากาศ สีของสงิ ทีอยใู่ นระยะไกล ดจู างลงเป็นลาํ ดบั ซงึ จะขนึ อยกู่ บั
ปรมิ าณความชืนในอากาศ สแี ละเสน้ รอบนอก ของสงิ ทีอยรู่ ะยะไกลในภาพ
ทิวทศั น์ จะมีความชดั เจนนอ้ ยกวา่ สงิ ทีอยใู่ นระยะใกล้ ทาํ ใหภ้ าพดมู ีระยะตนื
ลกึ ซงึ ปรากฏในสว่ นฉากหลงั ของโมนาลซิ า จดั เป็นภาพทีแสดงระยะตนื ลกึ
และบรรยากาศ ยามหมอกลงจดั ไดอ้ ยา่ งลงตวั

ตวั อยา่ ง - การวิจารณง์ านศลิ ปะ

Example Art Criticism

คุณครูสุทธิพงษ์ นนทต์ ุลา
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎรพ์ ทิ ยา
ทเี กยี วข้อง HTTP://CHEERANAN.EXTEEN.COM/20071216/ENTRY