1.กรณีผู้เอาประกันภัยไม่เปิดเผยข้อความจริง หรือแถลงข้อความเท็จ บริษัทฯ จะบอกล้างสัญญาภายใน 2 ปี นับ ตั้งแต่วันทำสัญญาหรือวันต่ออายุกรมธรรม์ หรือวันกลับคืนสู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ครั้งสุดท้าย
2. กรณีผู้เอาประกันภัยฆ่าตัวตายด้วยใจสมัครภายใน 1 ปี นับแต่วันทำสัญญาหรือวันต่ออายุกรมธรรม์หรือวันกลับคืน สู่สถานะเดิมของกรมธรรม์ครั้งสุดท้าย หรือถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตายโดยเจตนา
3. กรณีผู้เอาประกันภัยแถลงอายุคลาดเคลื่อนไม่ถูกต้องแท้จริงอยู่นอกจำกัดอัตราเบี้ยประกันภัยตามทางค้าปกติของบริษัทฯ
สร้างหลักประกัน ตลอดเส้นทางของชีวิต ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็สามารถทำระกัน
ชีวิตได้ ด้วยเบี้ยประกันที่จ่ายเบี้ยและคุ้มครองระยะยาว โดยจ่ายเบี้ยประกันไม่
แพง และได้รับความคุ้มครองชีวิตสูง เพราะถ้าเสียชีวิตก่อนครบสัญญา 90 ปี
ครอบครัวภรรยา พ่อแม่ ลูก จะได้วงเงินชดเชย แต่ถ้าครบอายุ 90 ปี คุณยัง
สุขภาพแข็งแรงดีอยู่ ก็ได้รับเงินก้อนที่ทำไว้คืนกลับมาใช้จ่ายพร้อมเงินปันผล
เห็นไหมครับว่า ประกันชีวิตจากไปก่อนเวลา ครอบครัวก็ได้รับเงินชดเชยแต่ถ้าอยู่ครบก็ได้เงินคืน
ดังนั้น ประกันชีวิต จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ได้เงินคืนได้แน่นอนครับ
จุดเด่น
พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดชีวิต
- จ่ายเบี้ยประกันไม่แพง
- สร้างหลักประกันเงินล้าน ให้กับครอบครัวได้สบายๆด้วยเงินครบสัญญา 100%
- คุ้มครองชีวิต 100% ยาวนานถึงครบอายุ 90 ปี
- ทำได้ตั้งแต่ อายุ 30 วัน - 80 ปี
ตัวอย่างความคุ้มครอง
สอบถาม/นัดทำประกัน
กดแอดไลน์สอบถามได้ที่
วิธีการชำระเบี้ยประกัน
1. โอนเข้าบัญชี ผ่าน Mobile banking หรือเค้าน์เตอร์ทุกธนาคาร
2. เช็คเงินสดสั่งจ่ายในนามบริษัท " บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต "
3. ชำระด้วยเงินสดพร้อมรับใบเสร็จรับเงินจากบริษัท
4. ชำระด้วยบัตรเครดิตทุกธนาคาร(ไม่มีค่าธรรมเนียม)
สมัครทำประกันง่าย ๆ เพียง 6 ขั้นตอนดังนี้
1.แจ้งชื่อ เพศ และวันเดือนปีเกิด
2.แจ้งแบบประกัน ทุนประกันที่ต้องการ
3.รอรับใบเสนอขายจากตัวแทนทางไลน์หรืออีเมล์
4.นัดหมายตัวแทนเข้าไปทำประกันโดยโทร
5.เข้าไปทำประกันที่บ้านพร้อมอธิบายรายละเอียด เก็บเอกสาร
และเบี้ยประกัน(เงินสด ,โอนเข้าบัญชีบ.เมืองไทยประกันชีวิต)
6.นำเอกสาร/เบี้ยประกันส่งเข้าบริษัท และอนุมัติประมาณ 3-15 วัน
เอกสารที่ใช้ทำประกัน
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน 1 ชุด
ไทยประกันชีวิตเผยผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2565 เบี้ยประกันรับใหม่เพิ่มขึ้น 26% VONB เพิ่มขึ้นถึง 29% ชี้ทุกช่องทางการขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้านกำไรสุทธิกว่า 8,000 ล้านบาท ยันไม่กระทบจากประกันโควิดแบบเจอ-จ่าย-จบ พร้อมเดินหน้าเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และวางแผนการเงินส่วนบุคคล ควบคู่การส่งมอบคุณค่าให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (Annual Premium Equivalent : APE) อยู่ที่ 9,641 ล้านบาท เติบโต 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 และมีผลรวมกำไรที่คาดว่าจะได้รับตั้งแต่วันแรกถึงวันสิ้นสุดของกรมธรรม์ (Value of New Business : VONB) 5,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนของปีก่อนหน้า ส่งผลให้ VONB Margin หรือกำไรจาก VONB เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อยู่ที่ 53.4% ทำให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 14.1%
ช่องทางการขายทุกช่องทางของบริษัทฯ มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง ทั้งในด้าน APE และ VONB สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของช่องทางการการขายที่หลากหลาย โดยช่องทางการขายผ่านตัวแทนฯ มี VONB คำนวณต่อปี เติบโตถึง 25% เป็นผลจากประสิทธิภาพในการขยายตลาด การผลิตเบี้ยฯ และการรีครูทตัวแทนฯ ใหม่ ผ่านแคมเปญการตลาดที่หลากหลาย
“บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการ Upskill และ Reskill ตัวแทนฯ โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะด้านดิจิทัล เพื่อให้เป็น Digital Agent ที่พร้อมเป็น Life Solutions Partner ที่สามารถดูแลชีวิตและวางแผนทางการเงินให้กับลูกค้าได้ในทุกช่วงชีวิต ทุกจังหวะชีวิต และทุกการใช้ชีวิต รวมถึงตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบเฉพาะบุคคลด้วยความรวดเร็ว โดยบริษัทฯ พัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยในการทำงาน เช่น TL Pro Plus ที่ช่วยให้ตัวแทนฯ สามารถนำเสนอขาย รับชำระเบี้ยประกันภัย และนำส่งเคสเข้าบริษัทฯ ได้อย่างสะดวกผ่านมือถือ หรือแท็ปเล็ต” นายไชยกล่าว
ทางด้านช่องทางพันธมิตรมีการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี VONB เติบโตสูงถึง 41% เป็นผลจากการฟื้นตัวภายหลังสถานการณ์โควิด-19 และความสำเร็จจากการกำหนดกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ร่วมกับพันธมิตร
สำหรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรในระยะยาว และมีความอ่อนไหวน้อยต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนร่วมในเงินปันผล หรือ Participating Product, ผลิตภัณฑ์ควบการลงทุน และสัญญาเพิ่มเติม ซึ่งกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์นี้จะผลักดันให้บริษัทฯ มีกำไรอย่างยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ
นายไชยกล่าวว่า ไทยประกันชีวิตยังคงมีอัตรากำไรสุทธิต่อเนื่อง โดยช่วง 9 เดือนของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 8,020 ล้านบาท อย่างไรก็ดีกำไรสุทธิที่ลดลงเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ ซึ่งธุรกิจประกันชีวิตจะมีผลขาดทุนจากการรับประกันภัยในปีแรก เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเบี้ยประกันรับปีแรก แต่จะเริ่มมีกำไรจากการรับประกันที่แข็งแกร่งในปีถัด ๆ ไป เห็นได้จาก VONB Margin ที่เติบโตอย่างมากของบริษัทฯ
นอกจากนี้บริษัทฯ ไม่มีการขายประกันภัยโควิด-19 แบบเจอ จ่าย จบ ซึ่งอัตราการเคลมสินไหมสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมาจากสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองกรณีรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดีอัตราการเคลมสินไหมสุขภาพจากโควิด-19 ของบริษัทฯ เริ่มลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนมีนาคมปี 2565
“อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน หรือ CAR Ratio ของบริษัทฯ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 อยู่ที่ 358% สูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงาน คปภ.กำหนดอยู่ที่ 140% ซึ่งเราให้ความสำคัญกับสถานะเงินทุนที่แข็งแกร่งอันเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน และแม้ว่าตั้งแต่ต้นปี 2565 เศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนพร้อมกับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น แต่ไทยประกันชีวิตยังสามารถรักษาการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่และสถานะทางการเงินไว้ได้ เนื่องจากเรามีผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจน มีทีมผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์และประสบการณ์ ภายใต้เจตนารมณ์ทางธุรกิจ หรือ Business Purpose ที่จะเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือ Life Solutions Provider แก่ลูกค้า รวมถึงการสร้างและส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด” นายไชยกล่าว