ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

ใครที่เป็นมือใหม่หัดเที่ยวญี่ปุ่น มั่นใจว่าทุกคนต้องปวดหัวกับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นโดยเฉพาะเรื่องการเดินทางโดยรถไฟอย่างแน่นอน เพราะญี่ปุ่นเองเค้ามีบริษัทเดินรถไฟอยู่หลายเจ้า และแต่ละเจ้าก็มีเส้นทางรถไฟแตกยิบย่อยเข้าไปอีก ทีนี้เราก็อาจจะงงๆ หน่อยในตอนแรก เพราะแต่ละบริษัท แต่ละพื้นที่ในบางเส้นทางใช้ตั๋วด้วยกันได้บ้าง ไม่ได้บ้างแล้วแต่พาสนั้นๆ แต่อย่าพึ่งหมดกำลังใจไปนะ โชคดีหน่อยที่เส้นทางรถไฟส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นที่เชื่อมต่อกันทั้งประเทศ เค้าเป็นของ Japan Railways หรือ JR ที่เชื่อมเมืองต่างๆ ทั่วประเทศเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น (Shinkansen) ที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะนั่งซักครั้งในชีวิตด้วย

Show

⚡️ ใครที่กำลังวางแพลนเที่ยวญี่ปุ่นหลากหลายเมืองละก็ มาอ่านบทความนี้กันได้เลย โดยรีวิวนี้จะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ JR PASS ที่หลายคนน่าจะกำลังหาข้อมูลอยู่ ถือเป็นรีวิวปูพื้นฐานสำหรับทุกคนที่กำลังวางแพลนเที่ยวญี่ปุ่นกันเนอะ ซึ่งก๊อตจะมาบอกทั้งหมดเลยว่า JR PASS คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง มีข้อจำกัดอย่างไร รวมถึงซื้อที่ไหนกันเนอะ โอเค๊ ว่าแล้วเราก็มาลุยกันเล้ย 🙂

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

Japan Rail Pass (JR Pass) คืออะไร?

Japan Rail Pass หรือ JR PASS คือบัตรที่ใช้เดินทางไม่จำกัดในเส้นทางรถไฟของบริษัท JR  Group เป็นหลัก นอกจากรถไฟแล้ว บางภูมิภาคยังมีบริการเรือและรถบัสของ JR เองที่เข้าร่วมใน JR PASS นี้ด้วย โดยตัว JR PASS เองนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 คลาส (คล้ายเครื่องบิน) คือ Ordinay (ชั้นธรรมดาทั่วไป) และ Green (เฟิร์สคลาส) โดยแต่ละคลาสก็จะแบ่งย่อยออกไปอีก 2 ราคา คือราคาผู้ใหญ่ และราคาเด็ก (อายุ 6-11 ปี) นั่นเอง

👀 สำหรับคนหรือนักท่องเที่ยวที่จะซื้อ JR PASS ได้นั้น จะต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินเข้าประเทศญี่ปุ่นแบบชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งคนไทยอย่างเราๆ ที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบปกติ เรามีสิทธิ์ซื้อ JR Pass ได้ 100% แน่นอน ไม่ต้องห่วง

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

รีวิวหน้านี้ เราจะพูดถึง JR Pass (All Area) ที่ถือเป็นพาสตัวใหญ่สุดที่ครอบคลุมทั้งประเทศของญี่ปุ่นนะเออ คือต้องปูพื้นอย่างนี้ก่อน รถไฟ JR ของญี่ปุ่น เค้าจะมีทั้งหมด 6 บริษัท ที่ดำเนินการวิ่งรถไฟในแต่ละภูมิภาค คือ JR Hokkaido, JR East, JR Central, JR West และ JR Kyushu ซึ่งแต่ละบริษัทของเค้าเองก็จะมีภาคแยกย่อยออกไปแต่ละภูมิภาค ตามพื้นที่ต่างๆ แต่สำหรับ JR Pass (All Area) ที่เรากำลังพูดถึงนี้ ก็คือจับรวบเส้นทางหมดของบริษัท JR ทั้ง 6 บริษัท มาอยู่ในพาสเดียวนั่นเอง

ราคา JR Pass ปี 2023

สำหรับราคาบัตรของ JR Pass ในปี 2023 จะเป็นตามราคาด้านล่างนี้เลย สำหรับนักท่องเที่ยวไทยอย่างเรา ญี่ปุ่นเค้าจะให้ฟรีวีซ่าเรา 15 วันแบบเต็มที่ ดังนั้น บัตร JR Pass ยอดฮิตของคนไทยคงหนีไม่พ้นแบบ 7 วันนั่นเอง

ประเภท JR Pass

Ordinary (ทั่วไป)Green (เฟิร์สคลาส)

ระยะเวลา

ผู้ใหญ่เด็กผู้ใหญ่

เด็ก

7 วัน

29,650 เยน
(~ 7,412.50 บาท)
14,820 เยน
(~ 3705 บาท)
39,600 เยน
(~ 9,900 บาท)
19,800 เยน
(~ 4,950 บาท)

14 วัน

47,250 เยน
(~ 11,812.50 บาท)
23,620 เยน
(~ 5,905 บาท)
64,120 เยน
(~ 16,030 บาท)

32,060 เยน
(~ 8,015 บาท)

21 วัน60,450 เยน
(~ 15,112.50 บาท)
30,220 เยน
(~ 7,555 บาท)
83,390 เยน
(~ 20,847.50 บาท)

41,690 เยน
(~ 10,422.50 บาท)

* เงินบาทคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 เยน = 0.25 บาท (มีนาคม 66) อันนี้อ้างอิงเพื่อให้เห็นราคาไทยเฉยๆ นะ ตอนนี้ให้ดูราคาเองอีกที

ซื้อ JR Pass ที่ไหน?

สำหรับการซื้อ JR Pass นั้นง่ายแสนง่ายมาก เพราะตอนนี้เราสามารถซื้อ JR Pass ที่ญี่ปุ่น หรือซื้อออนไลน์ล่วงหน้าจากเว็บตอนที่เราอยู่ในประเทศไทยได้เลย ถ้าให้ก๊อตแนะนำก็คือ หากเรารู้แล้วว่าแพลนทริปเราควรใช้ JR Pass ให้เราซื้อออนไลน์ล่วงหน้าไปเลย โดยเว็บที่ก๊อตแนะนำที่สุดคือ Klook หรือ KKday ที่เค้ามักจะมีส่วนลดท็อปอัพเพิ่มเติมจากโปรโมชั่น หรือบัตรเครดิตต่างๆด้วย ซึ่งถูกและสะดวกกว่าการไปซื้อหน้างานที่ญี่ปุ่นแหละ ยังไงลองเทียบราคากันระหว่างสองเจ้านี้ได้เลย

🎫 เช็คราคาและซื้อบัตร JR Pass [ผ่าน Klook] [ผ่าน KKday]⚡️ ส่วนลด Klook ประจำเดือน


🌝⚡️ สำคัญมากก! เราควรซื้อ JR Pass ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 ก่อนบินไปญี่ปุ่น เพราะเมื่อเราซื้อ JR Pass ผ่านเว็บแล้ว เราจะต้องรอใบ Exchange Order จัดส่งมาที่บ้าน ซึ่งเราต้องใช้เจ้าตัวนี้ไปแลกบัตร JR Pass จริงที่ญี่ปุ่นภายใน 90 วัน คือมันไม่ใช่บัตรที่ซื้อแล้วได้มาเป็นออนไลน์ ปริ้นท์เอาไปใช้ได้เลยงี้ ดังนั้น ดูเวลาดีๆ ด้วยเด้อ

JR Pass สามารถใช้นั่งอะไรได้บ้าง?

บัตร JR Pass สามารถใช้ขึ้นนู่นขึ้นนี่ได้เยอะมาก ไม่ว่าเราจะแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นที่ไหน ภูมิภาคอะไร เบื้องต้นคือเราควรรู้ก่อนว่ามันใช้ JR Pass ได้หรือเปล่า เพราะรถไฟ JR บางสายหรือบางประเภทนั้นไม่สามารถใช้ JR Pass ขึ้นไม่ได้ รวมถึงรถไฟเอกชนที่ไม่ได้เดินรถด้วยบริษัท JR หรือรถบัสยอดนิยมอย่าง Highway Bus ที่ใช้นั่งข้ามเมือง ก็ไม่ได้ถูกรวมใน JR Pass เช่นกันนะ

JR Trainsรถไฟทุกสายและทุกประเภทที่ดำเนินการโดย Japan Railways สามารถใช้ JR Pass ได้ทั้งหมด ทั้งรถด่วนพิเศษ (Limited Express), รถด่วน (Express), รถเร็ว (Rapid) หรือ รถไฟธรรมดา (Local)

* บางเส้นทางอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในทางที่รถไฟ JR เค้าไปใช้เส้นทางรถไฟเอกชน

แผนที่เส้นทางรถไฟทั้งหมดที่ใช้ JR Pass ได้ คลิก

Shinkansen
รถไฟชินคันเซ็นรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น (Shinkansen) ทุกสายในญี่ปุ่น ในขบวน “HIKARI”, “SAKURA”, “KODAMA” และ “TSUBAME” สามารถใช้ JR Pass ได้ * ยกเว้นขบวน “NOZOMI” และ “MIZUHO”

* ชื่อที่บอกด้านบนคือชื่อขบวนรถไฟที่แตกต่างกันตามความด่วนจี๋นะ ยกตัวอย่าง “NOZOMI” สำหรับ JR Pass จะใช้ไม่ได้กับขบวน “NOZOMI” ระหว่าง โตเกียว <-> โอซาก้า ที่ถือเป็นขบวนชินคันเซ็นที่เร็วที่สุด (จอดสถานีน้อยที่สุด) แต่เรายังสามารถใช้ JR Pass ขึ้นชินคันเซ็นขบวน “HIKARI” ในเส้นนี้ได้ โดยจะใช้เวลาเดินมากกว่านิดหน่อย (จอดสถานีเยอะกว่า) นั่นเอง

แผนที่ Shinkansen ที่ JR Pass ใช้ได้ คลิก

Tokyo Monorail / Narita Express (N’EX)จากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) เราสามารถใช้ JR Pass นั่งเข้าโตเกียวได้เลย แต่ถ้าใครมาลงสนามบินนาริตะ (Narita Airport) เราสามารถใช้ JR Pass ขึ้น Narita Express (N’EX) เข้าเมืองได้เช่นกัน .. แต่ให้รู้ไว้ว่า Keisei Skyline เราใช้ JR Pass ขึ้นไม่ได้เน้อJR Ferryเรือเฟอร์รี่ไปยัง เกาะมิยาจิม่า (Miyajima) ฮิโรชิม่าJR Bus รถบัสท้องถิ่นแต่ละสายของบริษัท JR (JR Bus : JR Hokkaido Bus, JR Bus Tohoku, JR Bus Kanto, JR Tokai Bus, West Japan JR Bus, Chugoku JR Bus, JR Shikoku Bus, JR Kyushu Bus) สามารถใช้ JR Pass ได้

* รถบัส JR ที่เป็นแบบ Express Bus รวมรสบัสบริษัท Highway Bus บัตร JR Pass ไม่สามารถใช้ได้

นอกจาก JR Pass แบบทั้งประเทศแล้ว มันยังมีแบบไหนอีกบ้าง?

นอกจาก JR Pass (All Area) ที่ครอบคลุมการใช้เดินทางทั่วประเทศ แต่ละบริษัทลูกของ JR เค้าก็ยังนั้นมี Pass แบบซอยย่อยตามพื้นที่ภาคต่างๆของประเทศญี่ปุ่นอีกเยอะแยะมากมาย เช่น JR Hokkaido ที่เป็นบริษัท JR บนเกาะฮอกไกโด เค้าก็จะมี Pass ของที่ใช้เดินทางบนฮอกไกโดเอง หรือแม้แต่เกาะคิวชูทางใต้ ที่เค้าก็มีพาสของตัวเองที่สามารถใช้เดินทางภายในเกาะคิวชูได้เช่นกัน

สำหรับคนที่แพลนเที่ยวญี่ปุ่นแค่ภูมิภาคเดียว หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ JR Pass แบบทั่วประเทศก็ได้นะ ยังไงลองดูพาสแต่ละภูมิภาค หรือแต่ละพื้นที่ก่อนว่ามันคลุมแพลนทั้งหมดเรามั้ย เพราะแน่นอนว่า พาสแบบเดินทางเฉพาะภูมิภาคนั้นถูกและประหยัดกว่าพาสใหญ่แน่นอน ก๊อตแนะนำให้เราไปดูแผนที่ ที่แยกย่อยไปตามพาสของแต่ละภูมิภาคได้ที่ Klook เลย เค้าทำไว้ดีมากกก! คลิกดูแผนที่แต่ละพาสได้ที่นี่เลย

 

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

คุ้มมั้ยที่จะซื้อ JR Pass?

ความคุ้มค่าของการซื้อ JR Pass มันขึ้นอยู่กับแพลนเที่ยวของเราเลยจริงๆ สมมติแพลนเราเที่ยวแต่ในตัวเมืองเป็นหลัก เช่น เที่ยวแค่ในตัวเมืองโตเกียว เราอาจจะซื้อแค่ Tokyo Metro Pass ที่ใช้เดินทางรถไฟใต้ดินแบบไม่จำกัดเท่านั้นพอ หรือสมมุตเราเที่ยวแต่โซนคิวชู เช่น ฟุกุโอกะ-นางาซากิ-คุมาโมโต้-ยูฟุอิน อันนี้ควรซื้อแค่ Kyushu Rail Pass เท่านั้น ไม่ต้องถึงขั้นซื้อ JR Rail Pass แบบทั่วประเทศ

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่แพลนเรายิ่งใหญ่อลังการโดยการเที่ยวข้ามภูมิภาค ที่พาสแบบภูมิภาคไม่รองรับ อย่างเช่น เราอยากเที่ยวทั้งเกาะฮอกไกโด แล้วลงมาที่โตเกียวด้วยงี้ การซื้อ JR Pass ก็จะตอบโจทย์และคุ้มค่าเรามากที่สุดนั่นเอง ดังนั้น ก่อนจะซื้อพาส ดูแพลนตัวเองแล้วสำรวจพาสทุกพาสที่เค้ามีขาย เมื่อได้แล้วลองหาราคาค่าตั๋วรถไฟจาก Google Map ดูว่าเท่าไหร่ แล้วเปรียบเทียบกับราคาพาสว่าคุ้มและประหยัดกว่ามั้ยนั่นเอง

ตัวอย่างราคารถไฟชินคันเซ็นระหว่างเมือง 

  • โตเกียว-เกียวโต: ตั๋วรถไฟชินคันเซ็นราคาปกติแบบไป-กลับ ราคาจะอยู่ที่ 28,000 เยน (~7,250 บาท)
  • โอซาก้า-ฮิโรชิมา: ตั๋วรถไฟชินคันเซ็นราคาปกติแบบไป-กลับ ราคาจะอยู่ที่ 22,000 เยน (~5,700 บาท)
  • โตเกียว-ซัปโปโร: ตั๋วรถไฟชินคันเซ็นราคาปกติแบบขาเดียว ราคาจะอยู่ที่ 26,000 เยน (~6,750 บาท)

หากเราซื้อ JR Pass แบบ 7 วัน ในราคา 29,650 เยน (~7,677.15 บาท) หากเราขึ้นรถไฟในตัวอย่างลิสด้านบนซักหนึ่งเส้นทาง และมีตัวเมืองอื่นๆ ที่เราอยากเที่ยวอีกเพิ่มเติมโดยที่เราสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็น หรือรถไฟทั่วไปได้อีก รับรองว่าคุ้ม เพราะอย่าลืมว่า เราสามารถนั่งไปไหนก็ได้ แบบไม่จำกัดในระยะเวลา 7 วันเลยทีเดียว

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

สรุป ความเริ่ดของ JR Pass ที่นอกจากจะช่วยเรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายหากเราเดินทางด้วยรถไฟเยอะแล้ว อีกเรื่องที่ดีคือความยืดหยุ่น หากทริปมีอะไรเปลี่ยนแปลงอยากไปที่อื่นเพิ่มเติม เราสามารถใช้ JR Pass เดินทางไปไหนก็ได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม แค่เดินทางให้อยู่ในระยะเวลาที่กำหนดของบัตรเราแค่นั้นเอง ถือว่าดีอยู่น้า

ตัวอย่างทริปตัวเองตอนไปเที่ยวทั่วเกาะฮอกไกโด โดยใช้ JR Pass

จากประสบการตัวก๊อตเองที่ได้ไปเที่ยวฮอกไกโดมาโดยการใช้ JR Pass เที่ยวรอบเกาะฮอกไกโดก่อน จากนั้นก๊อต้องบินกลับไทยจากโตเกียว ซึ่งทริปนี้ถือว่านั่งรถไฟได้โหดมาก นั่งเปลี่ยนเมืองเกือบทุกวันในฮอกไกโด โดยจุดที่คุ้มสุดของการใช้ JR Pass ทริปนี้คือการนั่งรถไฟชินคันเซ็น ยิงตรงจากฮอกไกโดกลับโตเกียว แถมยังใช้นั่ง Narita Express เข้าสนามบินโตเกียวอีกด้วย ถือว่าคือคุ้มค่ามากเลยแหละ

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

จากรูทเที่ยวฮอกไดโดที่ผมได้ไป ถ้าไม่ซื้อ JR Pass เลย ผมจะต้องเสียค่ารถไฟทั้งหมด 62,180 JPY หรือประมาณ 15,500 บาท แต่ด้วยทริปนี้ที่ใช้ JR Pass เราเสียค่าพาสแค่ 29,650 เยน หรือประมาณ 7,600 บาทเท่านั้น ซึ่งนี่แหละ JR Pass คือช่วยประหยัดเงินเยอะมาก ประหยัดไปเกินครึ่งอีก สำหรับใครที่อยากตามรอยฮอกไกโดแบบผม สามารถอ่านรีวิวเที่ยวฮอกไกโดได้ที่นี่เลย

ทริปโตเกียว-โอซาก้า ซื้อ JR Pass คุ้มมั้ย?

รูทนี้น่าจะเป็นรูทนิยมสำหรับคนเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกๆ กับสองเมืองยอดนิยมระหว่างโตเกียวและโอซาก้า ถ้าถามว่าคุ้มมั้ยสำหรับการ JR Pass สำหรับรูทนี้ อันนี้บอกตามตรงว่าขึ้นอยู่กับแพลนระหว่างทริปว่าเรามีแวะเมืองไหนอีกบ้างหรือเปล่า

⚡️ สมมุตถ้าเราไปเที่ยวญี่ปุ่นโดยลงเครื่องที่โตเกียว และบินกลับไทยจากโอซาก้า อันนี้คือไม่คุ้มที่จะซื้อ JR Pass เพราะเราขึ้นรถไฟชินคันเซ็นแค่ขาเดียว แต่ถ้าเราขึ้น-ลงเครื่องจุดเดียวที่โตเกียว แล้วมีแพลนแวะเที่ยวนาโกย่า รวมถึงเที่ยวทั้งโอซาก้าและเมืองรอบๆ อย่าง เกียวโต-นารา-โกเบ อันนี้น่ะคุ้ม เพราะเราจะประหยัดไปได้หน่อยนึงราวๆ 1,000-2,000 บาท หากใช้ JR Pass นั่นเอง

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

⚡️ เมื่อเราซื้อ JR Pass เราจะได้ Exchange Order และต้องไปแลกเป็น JR Pass ตัวจริงที่ญี่ปุ่น

อันนี้ควรรู้ไว้ ซื้อ JR Pass มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Klook หรือเอเจนซี่ต่างๆ เราจะได้เป็นใบ Exchange Order ซึ่งเจ้า Exchange Order (EO) นี้คือเป็นใบยืนยันการซื้อชั่วคราวที่ต้องใช้เป็นหลักฐานในการไปแลกตัว JR Pass ฉบับจริงที่ญี่ปุ่น ที่ JR Ticket Office ซึ่งมีที่ไหนบ้าง ดูได้ที่ลิงค์นี้เลย

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

ขั้นตอนการแลก Exchange Order นั้น แทบไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่เราให้พาสปอร์ตของเรากับ Exchange Order ที่ JR Ticket Office เจ้าหน้าที่เค้าก็จะให้ตั๋ว JR Pass ฉบับจริงมา โดยเราสามารถเลือกวันสำหรับการเริ่มต้นใช้ JR Pass ได้ด้วย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเริ่มวันที่เราไปแลกตั๋ว JR Pass ฉบับจริงนะ นอกจากนี้ เรายังสามารถให้เจ้าหน้าที่ช่วยจองที่นั่งแบบ Reserved Seat ของเราได้ล่วงหน้าเลยแหละ ใครที่มีแพลน มีเวลาเป๊ะๆ แล้วว่าจะขึ้นรถไฟขบวนไหน เวลาอะไร ให้เค้าช่วยจองได้เลย เราจะได้มีที่นั่งแน่นนอนแบบสบายๆ แถมยังสะดวกและประหยัดเวลาไปม๊ากก สำหรับรอบรถไฟไหนที่เราเปลี่ยนใจ เราสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟเพื่อยกเลิกได้ตลอดเวลาด้วยเช่นกันนะ

ซื้อ ตั๋ว รถไฟ ญี่ปุ่น แบบ ไหน ดี

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องพื้นฐานที่เราต้องรู้ก่อนซื้อ JR Pass นั่นเอง น่าจะพอเห็นภาพและเข้าใจหลักการใช้คร่าวๆ กันบ้างแล้ว ลองให้เวลากับมันและทำความเข้าใจกับมันซักนิด รับรองว่าเราจะใช้ JR Pass เที่ยวญี่ปุ่นได้สนุกแน่นอน คอนเฟิร์ม  หากใครอ่านแล้วยังสงสัยตรงไหน สามารถคอมเมนต์ถามได้เล้ย

อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้วอ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗

ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วประมาณ 29 เมืองแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย

ซื้อตั๋วรถไฟญี่ปุ่นแบบไหนคุ้มสุด

บัตร Tokyo Wide Pass (แนะนำ) สำหรับ Pass นี้เป็นตั๋วรถไฟเหมาเริ่มต้นในระดับภูมิภาคที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวโตเกียวและเขตพื้นที่โดยรอบไปจนถึงภูเขาไฟฟูจิ เพราะนอกจากเส้นทางรถไฟในเมืองที่ใช้ได้เหมือน Pass แรกแล้ว ยังนั่งไปได้ถึงสนามบินนาริตะ, เมืองนิกโกะ, ชิบะ, ยามานาชิ, โยโกฮาม่า, และอิซุ ส่วน ...

ซื้อตั๋วรถไฟ ญี่ปุ่น ที่ไหนดี

ซื้อผ่านบริการเว็บจำหน่ายตั๋ว.
ซื้อได้ที่ร้านค้าที่ JR ระบุ หรือตัวแทนจำหน่าย ในต่างประเทศ.
ซื้อที่เคาน์เตอร์ให้บริการ ภายในประเทศญี่ปุ่น.
วิธีการสำรองที่นั่งแบบระบุหมายเลขที่นั่ง.

ตั๋วรถไฟญี่ปุ่นมีแบบไหนบ้าง

หลักๆมี 2 ประเภท คือ ประเภทแรกเป็นตั๋วที่จำเป็นในการขึ้นรถไฟทุกแบบทุกขบวนเรียกว่า ตั๋วขึ้นรถ ประเภทที่ 2 เป็นตั๋วที่จำเป็นในการนั่งที่นั่งหรือขึ้นรถไฟที่มีบริการพิเศษ มี 2 แบบ คือ ตั๋วรถด่วนพิเศษ และ ตั๋วกรีนคาร์

ซื้อตั๋วรถไฟที่ญี่ปุ่นใช้บัตรเครดิตได้ไหม

บริษัทรถไฟบางแห่งก็สามารถจ่ายได้ด้วยบัตรเครดิต นอกจากนี้ แม้แต่ในกรณีที่ตู้ไม่รับบัตรเครดิต คุณก็สามารถไปที่ช่องจำหน่ายตั๋วโดยสารแล้วซื้อตั๋วด้วยบัตรเครดิตได้อยู่ดี! ดังนั้น หากอยากจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตมากกว่า ก็ลองถามนายสถานีดูได้เลยค่ะ