เป็นการศึกษาวิจัยประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นศึกษาปรากฏการณ์ในภาพรวม ซึ่งสังเกตสิ่งที่ศึกษาอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปรกติแล้วนิยมใช้การวิเคราะห์จากเอกสาร แบบสัมภาษณ์ และการสังเกตเพื่อการรวบรวมข้อมูลที่เป็นภาพรวมและหลากหลายมิติ โดยการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้นต้องสามารถครอบคลุมลักษณะสำคัญทั้ง 5 ของการวิจัยเชิงคุณภาพประกอบด้วย Show
ซึ่งในการเสาะหาข้อมูลของการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยกระบวนการการสังเกตุและการสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เหมาะสมกับประเภทของการวิจัยและมีประสิทธิภาพดังที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นนั้น ก็มีความจำเป็นต้องควรคุมและใช้วิธีที่เหมาะสมด้วย ซึ่งสามารถแสดงได้ดังนี้
การสังเกตในการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ต้องศึกษาและบันทึกผลไปตามความเป็นจริงและเป็นวัตถุวิสัย (Objective) โดยไม่มีการดัดแปลงหรือใส่ความเห็นของตนในกระบวนการนี้ นอกจากนั้นยังต้องกำหนดจุดยืนของผู้ศึกษาวิจัยต่อปรากฎการณ์ให้ชัดเจนและเหมาะสมกับชุดข้อมูลที่ต้องการ ในปัจจุบันการวิจัยเชิงคุณภาพนิยมใช้การสังเกต 2 ประเภทในการเก็บข้อมูล ได้แก่ การสังเกตแบบมีส่วนร่วม และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม
การสัมภาษณ์ในการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ต้องเป็นการสัมภาษณ์แบบไม่มีโครงสร้าง หรือกึ่งโครงสร้าง กล่าวคือเป็นคำถามที่ยืดหยุ่นไปตามประเด็นของกลุ่มตัวอย่าง มีลักษณะเป็นการสนทนาโต้ตอบ และเป็นคำถามปลายเปิด โดยนอจกาประเด็นของคำถามแล้ว ในการสัมภาษณ์ในการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ศึกษาวิจัยเองจะต้องมีทักษะมีความรู้ลึกและกว้างในเรื่องที่สัมภาษณ์ รวมถึงมีความสามารถในการจับประเด็น เพื่อดำเนินการสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบและมีโครงสร้างที่เหมาะสมกับประเด็นที่สนทนาอยู่ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เป็นการศึกษาวิจัยประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่มากกว่าสองตัวแปรขึ้นไป โดยตัวแปรต้นและตัวแปรามต้องมีความสัมพันธ์เชิงเส้น และมีแบบจำลองของการวัดปริมาณเชิงบวก (additive model) มีจุดประสงค์ในการทำนายความเป็นไปได้ในลักษณะที่คล้ายคลึงกับลักษณะที่ศึกษาในอนาคต ซึ่งการวิจัยเชิงปริมาณที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้นต้องคำนึงถึงคุณภาพในองค์ประกอบของ 3 ส่วนหลัก ได้แก่
การวิจัยเชิงปริมาณส่วนมากนิยมเก็บข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถาม และทำการประมวลผลข้อมูลผ่านระบบสถิติเป็นหลัก ซึ่งในข้อกำหนดที่เคร่งครัดของการวิจัยเชิงปริมาณนั้น ได้กำหนดให้มีการใช้แนวทางปฏิฐานนิยม (Positivism)ในการอธิบายปรากฎการณ์และผลการศึกษา เพื่อลดความคลาดเคลื่อนของการสรุปชุดข้อมูลให้มากที่สุดแม้จะไม่สามารถลบความคลาดเคลื่อนของชุดข้อมูลได้ทั้งหมดก็ตาม การวิจัยเชิงปริมาณจึงนิยมกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ ไว้เพื่อระบุถึงแนวโน้มที่ชุดข้อมูลในการศึกษาที่ “อาจจะ” ผิดพลาดได้ ในร้อยละ 1 หรือร้อยละ 5 ตามแต่ความเหมาะสมของชุดข้อมูล นอกจากความเคร่งครัดในการกำหนดแนวทางแบบปฏิฐานนิยมในการศึกษาแล้ว การวิจัยเชิงปริมาณยังเน้นถึงการควบคุมตัวแปรแทรกซ้อน หรือตัวแปรควบคุมให้มีความเสถียร เพื่อให้ผลการวิจัยมีความน่าเชื่อถือ และเน้นไปยังการกำหนดมิติหรือองค์ประกอบขององค์ประกอบของปรากฎการณ์ที่ต้องการศึกษาอย่างเป็นระบบ ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยเฉพาะเครื่องมือวิเคราะห์เชิงสถิติ และไม่ผลการศึกษาวิจัยในรูปแบบของตัวเลขเพื่อสร้างผลการศึกษาเชิงประจักษ์ ข้อมูลเชิงคุณภาพ VS ข้อมูลเชิงปริมาณข้อมูลเชิงคุณภาพ หมายถึง ข้อมูลที่ไม่สามารถเปรียบเทียบเชิงปริมาณ เช่น มากกว่า น้อยกว่าได้ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลที่แสดงฐานะ สถานภาพ คุณสมบัติ ตัวอย่างของข้อมูลประเภทนี้ ได้แก่ ชื่อของพนักงานในบริษัท เพศ วัน เดือน ปี ชนิดของสินค้า เป็นต้น ถึงแม้ว่าข้อมูลประเภทนี้จะกำหนดด้วยตัวเลขก็ไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบกับเชิงปริมาณได้เช่น หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่ หรือการกำหนดตัวเลขแทนข้อมูลบางอย่าง เช่น 1 แทนเพศชาย และ 2 แทนเพศหญิง แต่ไม่อาจกล่าวได้ว่า 2 มีค่ามากกว่า 1 ตัวเลขทั้งสองเป็นแต่เพียงแสดงว่าแตกต่างกัน เท่านั้น การวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลเบื้องต้นจะกระทำได้ด้วยการเปรียบเทียบจำนวนความถี่ของข้อมูล หรือการเปรียบเทียบ ปริมาณของค่าสัมพัทธ์ ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลประเภทนี้ไม่สามารถบวก ลบ คูณ หรือหารกันได้ เขียนโดย Be_Enjoy ที่01:44 ส่งอีเมลข้อมูลนี้BlogThis!แชร์ไปที่ Twitterแชร์ไปที่ Facebookแชร์ใน Pinterest ป้ายกำกับ: ข้อมูลเชิงคุณภาพ, ข้อมูลเชิงปริมาณ ข้อมูลเชิงปริมาณ คืออะไร พร้อมยกตัวอย่างQuantitative Data หรือ ข้อมูลเชิงปริมาณคือข้อมูลในรูปแบบหนึ่งที่สามารถวัดค่าออกมาเป็นตัวเลขได้อย่างชัดเจน ซึ่งชนิดข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวเลขโดยสามารถวัดออกมาเป็นปริมาณว่ามีจำนวนมากหรือน้อย ตัวอย่างข้อมูลเชิงปริมาณได้แก่ น้ำหนัก, ส่วนสูง, จำนวนประชากร, อุณหภูมิ โดยข้อมูลประเภทนี้สามารถนำเอาไปประยุกต์ใช้กับวิชาทางสถิติ ...
ข้อมูล เชิง ปริมาณแบ่งออกเป็นกี่ประเภท1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) เป็นข้อมูลที่วัดค่าได้ว่ามากหรือน้อยในเชิง ปริมาณ เช่น รายได้ อายุ ความสูงจำนวนสินค้า ฯลฯ ซึ่งแบ่งได้ 2 แบบ คือ 1.1 ข้อมูลแบบต่อเนื่อง (Continuous Data) หมายถึง ข้อมูลที่มีค่าต่อเนื่องกันในช่วงที่ กำหนด สามารถแจงสมาชิกในข้อมูลได้ เช่น ความสูง อายุ ระยะทาง เป็นต้น 1.2 ข้อมูลแบบไม่ ...
เป้าหมายเชิงคุณภาพคืออะไร๔. เป้าหมาย
เป็นการบอกความต้องการภายหลังสิ้นสุดโครงการแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ แบ่งเป็นเป้าหมายเชิงปริมาณและเป้าหมายเชิงคุณภาพ @ เป้าหมายเชิงปริมาณ : ระบุจำนวนของสิ่งหรือผู้ที่เราจะกระทำ @ เป้าหมายเชิงคุณภาพ : ระบุคุณลักษณะ/มาตรฐาน/ประสิทธิภาพของสิ่งนั้นๆ
อายุเป็นข้อมูลเชิงอะไร1. ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) เป็นข้อมูลที่วัดค่าได้ว่ามากหรือน้อยในเชิง ปริมาณ เช่น รายได้อายุความสูงจานวนสินค้า ฯลฯ ซึ่งแบ่งได้2 แบบ คือ
|