อา. 30/10, 12:15 หลังเที่ยง

AM PM คืออะไร ย่อมาจากอะไร และใช้ยังไง และตัวย่อแบบไหนจึงจะถูก a.m. AM หรือว่า A.M.  ยังคงเป็นประเด็นให้สับสนสำหรับหลายๆคนที่ยังไม่เข้าใจระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมงอยู่ไม่มากก็น้อย เอาแค่ตอนเช้าเนี่ยเขาใช้ a.m. หรือ p.m. ก็จำไม่ได้แล้ว

อา. 30/10, 12:15 หลังเที่ยง

 การใช้ AM และ PM

– AM PM ย่อมาจากอะไร

– AM PM ย่อแบบไหนถูก

– AM PM นำไปใช้อย่างไร

– ตารางเปรียบเทียบเวลา 12 ชั่วโมงและ 24 ชั่วโมง

AM PM ย่อมาจากอะไร

– AM ย่อมาจาก Ante Meridiem หมายถึง Before noon แปลว่า ก่อนเที่ยง  เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน (24:00) ถึงก่อนเที่ยงวัน ( 11:59 )

– PM ย่อมาจาก Post Meridiem หมายถึง After noon แปลว่า หลังเที่ยงวัน  เริ่มตั้งแต่เที่ยงวัน (12:00) ถึงก่อนเที่ยงคืน (23:59)

AM PM ย่อแบบไหนจึงจะถูก

ตัวย่อของ PM และ AM ที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับมีด้วยกัน 3 รูปแบบคือ

– ตัวพิมพ์เล็กมีจุด a.m. และ p.m.

– ตัวพิมพ์ใหญ่ขนาดเล็กไม่มีจุด AM และ PM

– ตัวพิมพ์ใหญ่ขนาดเล็กมีจุด  A.M. และ P.M. 

AM PM นำไปใช้อย่างไร

→ a.m. เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน 12:00 am (24.00) ถึงก่อนเที่ยงวัน 11:59 am

→ p.m. เริ่มตั้งแต่เที่ยงวัน 12.00 p.m.  ถึงก่อนเที่ยงคืน 11:59  (23.59)

ตัวอย่างประโยคการใช้ a.m. และ p.m.

The train leaves Chiang Mai at 8:30 a.m. and arrives in Bangkok at 19:30 p.m.
รถไฟออกจากเชียงใหม่เวลา 8.30 นาฬิกา และ ถึงกรุงเทพเวลา 19.30 นาฬิกา

I leave school at 3:30 PM and get home at 5:00 PM.
ผมออกจากโรงเรียเวลาบายสามโมงครึ่ง และถึงบ้านเวลาห้าโมงเย็น

The meeting will start at 9 A.M. and will finish at 2 P.M.
การประชุมจะเริ่มเวลาเก้าโมงเช้า และจะเสร็จเวลาบ่ายสองโมง

อย่างที่บอกไว้นะครับว่า a.m. และ p.m. มีสามรูปแบบเดียวกัน ถ้าในบทความของเราเขียนรูปแบบไหนไว้ ก็ให้ใช้รูปแบบนั้นให้เหมือนกันทั้งบทความนะครับ ถ้าใช้ผสมปนเปกันมันจะดูไม่ดี เช่น

การถามเวลาเป็นเหตุการณ์ทั่วไปที่มักจะพบในการสื่อสารภาษาอังกฤษ เมื่อคุณต้องการถามใครสักคนว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว คุณสามารถลองใช้รูปแบบคำถามต่อไปนี้โดยขึ้นอยู่กับบริบทและเป้าหมายในการสื่อสาร

  • What time is it? (มันเป็นเวลากี่โมง?)
  • Do you know what time it is? (คุณรู้ไหมว่าเวลาเท่าไหร่แล้ว?)
  • What’s the time? (ตอนนี้กี่โมงแล้ว?)
  • Do you have the time? (คุณรู้ไหมว่าเวลาเท่าไหร่แล้ว?)
  • Have you got the time? (คุณรู้ไหมว่าเวลาเท่าไหร่แล้ว?)
  • Hoặc lịch sự hơn là “Could you tell me the time, please?” (คุณสามารถบอกฉันได้ไหมว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว?)

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับเวลา ให้คุณใช้ตัวอย่างการบอกเวลาดังต่อไปนี้:

  • It’s … (ตอนนี้เป็นเวลา…)
  • Exactly … ((จริงๆตอนนี้เป็นเวลา…)
  • About … ((ประมาณ…)
  • Almost … (ใกล้จะ…)
  • Just gone … (เกือบจะ…)

วิธีบอกเวลาในภาษาอังกฤษที่ถูกต้องที่สุด

เพื่อให้สามารถบอกเวลาในภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องนั้น  เรามีสูตร

It’s + number (ตัวเลข) + o’clock

เช่น:

  • It’s 3 o’clock (ตอนนี้เป็นเวลา 3 โมง)

หากคุณกำลังพูดคุยกับเพื่อนหรือคนรู้จักคุณสามารถละเว้นคำว่า “o’clock” และเพียงแค่พูดว่า “It’s 5” ก็ได้ (ตอนนี้คือ 5 โมง)

วิธีบอกชั่วโมงต่อด้วยนาที

การบอกชั่วโมงต่อด้วยนาทีในภาษาอังกฤษมีวิธีอ่านดังต่อไปนี้

  • วิธีที่ 1: ชั่วโมง + นาที (อ่านด้วยตัวเลขปกติ)

เช่น: 

  • It’s ten thirty five.  (ตอนนี้เป็นเวลา 10 โมง 35 นาที)
  • It’s nine fifteen. (ตอนนี้เป็นเวลา 9 โมง 15 นาที)
  • ธีที่ 2: ใช้คำว่า “past” ด้วยสูตรนาที + past + ชั่วโมง

เช่น:

  • It’s 09:20 = twenty past nine. (ตอนนี้เป็นเวลา 9 โมง 20 นาที)
  • It’s 9:09= nine past nine. (ตอนนี้เป็นเวลา 9 โมง 9 นาที)
  • It’s 2:15= a quarter past two (ตอนนี้เป็นเวลา 2 โมง 15 นาที)

วิธีบอกเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้ว

การบอกเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้วในภาษาอังกฤษ เรามีสูตร นาที + to + ชั่วโมง

เช่น:

  • 4:40: It’s twenty to five. ((ตอนนี้เป็นเวลา 4 โมง 40 นาที)
  • 8:57: It’s three to nine. (ตอนนี้เป็นเวลา 8 โมง 57 นาที) 

วิธีบอกเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้วและเกือบจะถึงชั่วโมงถัดไป

–  สูตร: ชั่วโมง + นาที + วินาที

เช่น:

  • It’s five fifty-seven (5:57) (ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมง 57 นาที)
  • It’s four thirty seven (4:37) (ตอนนี้เป็นเวลา 4 โมง 37 นาที)

แค่ 15 นาที เราสามารถใช้ “a quarter” และ “half” เวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้ว

จะมี:

  • A quarter past = 15 minutes past
  • A quarter to = 15 minutes to
  • Half past = 30 minutes past

เช่น:

  • It’s 1:15 = It’s a quarter past one. = It’s fifteen past one (ตอนนี้เป็นเวลา 1 โมง 15 นาที)
  • It’s 12:45 = It’s a quarter to twelve.  It’s fifteen to twelve. (ตอนนี้เป็นเวลา 1 โมง 15 นาที)
  • It’s 7:30 = It’s half past seven. It’s thirty past seven. (ตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงครึ่ง)

*ข้อสังเกต:

ข้อสังเกตเช่นใช้ “O’clock” เมื่ออ่านตรงตามเวลานั้นๆ11 o’lock (11 โมง) หรือ 6 o’lock (6 โมง)สามารถละเว้น “a” ใน “a quarter และ “minutes” เมื่อบอกเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้วและชั่วโมงที่เป็นเลขคี่ในภาษาอังกฤษIt’s 10:40 (minutes) (ตอนนี้เป็นเวลา 10 โมง 40 (นาที))ในภาษาอังกฤษ – อเมริกัน คนอเมริกันมักจะใช้ “after” แทน “past” เมื่อบอกเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้ว– It’s 3:25 – It’s twenty five after three. 
อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ “half past” จะไม่สามารถใช้ “past” แทน “after” ได้นอกจากนี้ “to” คนอเมริกันมักจะใช้ “till” หรือ “before” เมื่อเกือบจะถึงชั่วโมงถัดไปIt’s 11:50 – It’s eleven before/till twelve.
(อีก 10 นาทีจะ 12 โมง)

วิธีบอกเวลาในภาษาอังกฤษที่ใช้ AM และ PM

อา. 30/10, 12:15 หลังเที่ยง
การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษด้วยวิธีต่างๆ

โดยปกติแล้ว พวกเรามักจะอ่านเวลาตามระบบ 12 ชั่วโมงหรือ 24 ชั่วโมง  เมื่อใช้ระบบ 12 ชั่วโมง เพื่อแสดงและอ่านเวลาภาษาอังกฤษ พวกเราใช้ สองสัญลักษณ์ A.M และ P.M เพื่อแยกแยะเวลาเช้าและบ่าย

ในนั้น:

  • A.M ((Ante Meridiem = Before noon = ก่อนเที่ยง): ช่วงเช้าตั้งแต่ 0:00 ถึง 12:00
  • P.M. (Post Meridiem = After noon = หลังเที่ยง): ช่วงบ่ายตั้งแต่ 12:0 ถึง 23:59

เช่น:

  • 15:20 – It’s fifteen twenty หรือ 3:18 P.M. –  It’s three twenty P.M (ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย 3 โมง 20 นาที)
  • 7:30 – It’s seven thirty hoặc 7:30 A.M. – It’s seven-thirty A.M (ตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงเช้า 30 นาที)

วิธีอธิบายช่วงเวลาของวันด้วยภาษาอังกฤษ

เมื่อต้องการอธิบายไทม์ไลน์ด้วยจำนวนชั่วโมงและนาทีที่เฉพาะเจาะจง คุณจำเป็นต้องรู้วิธีบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ เมื่อคุณต้องการพูดถึงช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในวัน แต่ไม่ละเอียดและเจาะจงว่

Noon (ตอนเที่ยง)

ตอนเที่ยงจะถูกนับเป็น 12 นาฬิกา A.M

เช่น:

  • We can have lunch together around noon. (เที่ยงนี้พวกเราไปกินข้าวด้วยกันนะ)

Midday (เที่ยงวัน)

คำว่า “Midday” มีความหมายเหมือนกับ “noon” ถูกใช้เพื่อบอกเวลาตั้งแต่ 1 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมงของแต่ละวัน

เช่น:

  • Today will be extremely hot at midday. (ช่วงเที่ยงวันนี้อากาศร้อนมาก)

Afternoon (ช่วงบ่าย)

Afternoon มีความหมายว่า “after noon passes”(หลังจากเที่ยง). ความยาวของช่วงเวลา

“afternoon” ยาวหรือสั้นขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาลและขึ้นอยู่กับเวลาพระอาทิตย์ตก

โดยปกติแล้ว afternoon จะนับตั้งแต่ 12 โมง(เที่ยงวัน) จนถึง 6 โมงเย็น

เช่น:

  • I will go to the library this afternoon. (บ่ายนี้ฉันจะไปห้องสมุด)

Midnight (เที่ยงคืน)

Midnight ใช้เพื่ออ้างถึงช่วงเวลา 12 โมง(เที่ยงคืน) (0:00น.) จนถึงตี 3

เช่น:

  • The plane takes off at midnight. (เครื่องบินจะออกตอนเที่ยงคืน)

Twilight ((พลบค่ำ)

พลบค่ำเป็นช่วงเวลาทันทีหลังดวงอาทิตย์ตก ท้องฟ้ายังคงอยู่ในยามพลบค่ำ มีเพียงแสงจางๆ บนท้องฟ้า

เช่น:

  • I love the color of the skies at twilight. (ฉันชอบสีท้องฟ้าตอนพลบค่ำมาก)

Sunset และ Sunrise (พระอาทิตย์ตกและรุ่งอรุณ)

Sunset คือเวลาที่เกิดขึ้นก่อน twilight (พลบค่ำ) เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้มสวยแต่ยังไม่มืดมิด

ส่วน Sunrise คือเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า

เช่น:

  • Let’s go to the beach by the sunset. (ไปทะเลตอนพระอาทิตย์ตกกันเถอะ)
  • I’d rather climb to the top of mountain by the sunrise. (อยากปีนขึ้นไปบนยอดเขาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น

The Crack of Dawn (เช้ามืด เช้าตรู่)

รุ่งอรุณ คือช่วงเวลาตั้งแต่ตี 4 ถึง 6 โมงเช้า ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นนั่นเอง

เช่น:

  • My mom always wakes up at the crack of dawn. (แม่ฉันมักจะตื่นขึ้นมาตอนเช้าตรู่)

วิธีบอกเวลาโดยประมาณในภาษาอังกฤษ

ในบางกรณี เมื่อคุณต้องการอธิบายช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่ไม่กว้างเกินไปหรือเจาะจงเกินไป คุณสามารถใช้วิธีต่างๆในการบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษดังต่อไปนี้:

Past และ Till

ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เกิน 30 นาทีไปแล้วหรือยังไม่เกิน คุณสามารถสลับใช้ past หรือ till (เขียนย่อคำว่า until – จนถึง)

เช่น:

  • 6:30 = half past six (6 ครึ่ง) = thirty minute till 7 (อีกครึ่งชั่วโมงจะถึง 7 โมง)

Couple และ Few

A couple minutes จะเทียบเท่ากับประมาณ 2-3 นาที ส่วน a few minute ยาวกว่า เทียบเท่ากับ 3 ถึง 5 นาที วิธีอธิบายทั้ง 2 นี้มีการใช้งานที่คล้ายกันเมื่ออธิบายเวลา

เช่น:

  • It’s a couple/few minutes past four. (ตอนนี้เป็นเวลา 4 โมงกว่าๆแล้ว)

By

By ใช้เพื่ออธิบายช่วงเวลา – ก่อนช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง

เช่น:

  •  I want you to finish my homeworks by ten o’ clock (ฉันอยากทำการบ้านให้เสร็จช้าสุดภายใน 10 โมงนี้)

About, almost, around

About, almost, around ใช้กับความหมาย“ประมาณ”

เช่น: 

  • About ten minutes past noon. (เลยเที่ยงมา 10 นาทีแล้ว)
  • 5:12 = It’s about/around 5 o’clock. (ตอนนี้ประมาณ 5 โมง)

เมื่อบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษ พวกเรามักจะมีนิสัยเลือกวิธีบอกเวลาที่ง่ายที่สุด บอกชั่วโมง + นาที
วิธีการบอกแบบนี้มันไม่ผิด ดังนั้น ถ้าอยากให้การสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณ “อินเตอร์” มากขึ้นและหลากหลายขึ้น  คุณควรเรียนรู้วิธีบอกเวลาเมื่อเลย 30 นาทีมาแล้วหรือยังกำลังจะเริ่มต้นชั่วโมงใหม่ให้เหมือยกับเจ้าของภาษาด้วยการใช้คำเหล่านี้ “quarter”, “half”, “past” หรือ “to” ให้คุณสังเกตและอ่านวิธีการข้างต้นอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดนะ

ข้างต้นนี้เป็นคำแนะนำอย่างละเอียดที่สุดเกี่ยวกับวิธีบอกเวลาในภาษาอังกฤษ หากต้องการเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับเวลาและเรียนรู้วิธีบอกเวลาเหมือนเจ้าของภาษาเพิ่มเติม อย่าลืมดาวน์โหลด GOGA ฟรีได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้