ทิ้งขยะใน ที่ดิน ส่วน บุคคล

แหล่งรวบรวมคอนเทนต์คุณภาพ ทั้งในรูปแบบวิดีโอคลิป สามารถดูได้ทุกที่ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้งานหลากหลายอุปกรณ์

TAGS

บันเทิง, ข่าวสาร, ก็อซซิป, คลิปตลก, คลิปเด็ด, ดูดวง, เพลงฮิต, เกม, ความรัก, กีฬา

การกำจัดขยะมูลฟอย หญ้าหรือสิ่งอันไม่พึงประสงค์ใดๆในที่ดินนั้นของตัวเองนั้น ชาวบ้านหลายๆคนมักนิยมใช้วิธีการใช้เชื้อเพลิงจุดเผาเพราะเป็นวิธีที่ได้ผลอย่างรวดเร็วและและเสียค่าใช้จ่ายน้อย โดยเฉพาะเกษตรกร เมื่อหมดฤดูการเพาะปลูกแล้ว ก็จะต้องทำการเผาฟางข้าว ต้นหรือซังข้าวโพด หรือเศษไม้ใบหญ้า หรือเปลือกหรือกากของพืช เพื่อเตรียมการทำการเพาะปลูกใหม่ในฤดูกาลต่อไป ซึ่งการกำจัดเศษซากพืชหรือขยะด้วยวิธีนี้ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาปัญหาโลกร้อนแล้ว ยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญกับเจ้าของที่ดินข้างเคียงเนื่องจากกลุ่มควันและฝุ่นละอองจากขี้เถ้า และยังอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามไปยังที่ดินข้างเคียงอีกด้วย ซึ่งการกระทำเหล่านี้มีกฎหมายอัตราโทษไว้ ตามระดับของความร้ายแรงแห่งการกระทำ ดังนี้

1.หากการเผาหญ้าหรือขยะหรือสิ่งอื่นใดในที่ดินของตนเองนั้น ยังไม่รุนแรงถึงขั้นที่อาจจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของบุคคลอื่น กล่าวคือ ยังไม่ถึงขั้นที่จะน่ากลัวว่าไฟนั้นจะลุกลามไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่น เป็นแต่เพียงก่อให้เกิด กลิ่น แสง สี เสียง รังสี ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แก่ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียง เช่นมีฝุ่นควันลอยและเศษขี้เถ้าไปเข้าไปเข้าบ้านใกล้เรือนเคียงเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านได้รับความเดือดร้อนรำคาญ เช่นนี้ ตามกฎหมายกำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจสั่งห้ามเป็นหนังสือให้ผู้เจ้าของที่ดินผู้เผาหยุดกระทำการดังกล่าวได้ และยังสามารถกำหนดวิธีการเพื่อป้องกันเหตุรำคาญที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่นห้ามมิให้ทำการเผาอีกต่อไป และหากเจ้าของที่ดินผู้เผายังฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ก็จะมีความผิดอาญา โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25 ,26,28,74 )

2.หากการเผาหญ้าหรือขยะหรือสิ่งอื่นใดในที่ดินของตนเองนั้น มีความรุนแรงถึงขั้นที่ “น่าจะ” เป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่น เช่น จุดไฟแล้วไม่ดูแล ปล่อยให้ไฟลุกลามจนเพื่อนบ้านต้องเรียกรถดับเพลิงมาดับไฟ เพราะไฟใกล้จะไหม้ถึงบ้านเพื่อนบ้าน เช่นนี้เจ้าของที่ดินผู้เผาจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ทั้งนี้โดยที่ไม่ต้องเกิดเพลิงไหม้หรือความเสียหายขึ้นจริงๆเลย เพียงแต่น่าจะเกิดก็เป็นความผิดตามมาตรา 220 แล้ว และหากเกิดอันตรายขึ้นแก่ทรัพย์สินหรือบุคคลอื่นจริงๆ ผู้กระทำก็ต้องรับโทษหนักขึ้น ตามมาตรา 218 หรือมาตรา 224 แล้วแต่กรณีซึ่งมีระวางโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ยกเว้นหากทรัพย์สินที่เกิดเพลิงใหม้หรืออาจจะเกิดเพลิงใหม้นั้นมีราคาเล็กน้อย ผู้กระทำก็จะได้รับโทษเบาลงตามมาตรา 223

3.หากลักษณะการเผาหญ้าหรือขยะหรือสิ่งอื่นใดในที่ดินของตนเองนั้น ผู้กระทำย่อมเล็งเห็นผลได้อยู่แล้วว่า ลักษณะการจุดไฟเผาของตนอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นได้อย่างแน่นอน เช่นจุดไฟในลักษณะที่ใกล้เคียงกับบ้านหรือทรัพย์สินของคนอื่นอย่างมาก ในช่วงที่ลมแรง เช่นนี้ผู้กระทำผิดย่อมมีความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217-218 แล้วแต่กรณี ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกขั้นสูงถึงประหารชีวิต

ดังนั้นแล้ว ในกำจัดหญ้า ขยะ หรือ สิ่งของอื่นๆที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว ควรจะหาทางกำจัดด้วยวิธีอื่นๆ ที่มีความปลอดภัยและเดือดร้อนต่อผู้อื่นน้อยที่สุด หรือหากจำเป็นต้องทำการกำจัดด้วยวิธีการเผาจริงๆ ก็ควรประสานกับเพื่อนบ้านของเจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียง เพื่อให้ทราบล่วงหน้า และหาวิธีทำให้เพื่อนบ้านเดือดร้อนน้อยที่สุด และขณะทำการเผาต้องดูแลอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

-ตามที่ อบต.ทับน้ำ ได้จัดทำโครงการจังหวัดสะอาดของ อบต.ทับน้ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559  เป็นต้นมา และจัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมอบรมการคัดแยกขยะในครัวเรือน ตามหลัก 3 Rs ใช้น้อย    ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้ความรู้แก่พี่น้องประชาชนตั้งแต่ระดับโรงเรียน และในชุมชน จัดทำที่ทิ้งขยะอันตรายในชุมชน จัดกิจกรรมทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ แจกถังขยะแยกสีแก่โรงเรียนและวัด เพื่อการรณรงค์การคัดแยกขยะ โดยให้พี่น้องประชาชนทุกครัวเรือนได้มีการคัดแยกขยะในครัวเรือน ออกเป็น 4 ชนิด คือขยะรีไซเคิล คือ ขยะที่สามารถขายได้ ขยะอินทรี หรือขยะเปียก ให้ใช้วิธีฝังหรือทำน้ำหมักชีวภาพ ขยะทั่วไป คือ ขยะที่ไม่สามารถขายได้และไม่เกิดประโยชน์ ให้ทำลายโดยวิธีเผาหรือฝัง ภายในบริเวณบ้านเรือนของตนเองโดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่เพื่อนบ้านและชุมชน และขยะพิษหรือขยะอันตราย เช่น หลอดไฟฟ้า แบตเตอรี่ ประป๋องสเปร์ ผลิตภัณฑ์ใส่ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศรัตรูพืช ให้นำไปทิ้งในที่ทิ้งขยะพิษที่ อบต.ทับน้ำ จัดเตรียมไว้ให้ ทั้งนี้ก็เพื่อความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ ป้องกันการเกิดขยะสะสม สร้างความสกปรกขึ้นในชุมชน และจากการประชาสัมพันธ์ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา เมื่อพบเห็นผู้มาทิ้งขยะในที่สาธารณะ มีผู้แจ้งว่ามีผู้นำขยะมาทิ้งบริเวณไร่นาริมถนนภายในชุมชน และบริเวณริมคลองเป็นจำนวนมาก  จึงขอแจ้งว่าการกระทำของท่านเป็นการทำให้พื้นที่สาธารณะที่ประชาชนดูแลร่วมกันเกิดความสกปรก และอาจเป็นแหล่งกระจายของเชื้อโรค ขัดกับนโยบายในการรักษาความสะอาดพื้นที่ จึงขอแจ้งย้ำเตือนให้ประชาชนทุกท่านได้มีการคัดแยกขยะ และกำจัดขยะในครัวเรือนในบริเวณบ้านเรือนของตนเอง   ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนให้สะอาด เรียบร้อย และขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ร่วมกันรักษาความสะอาดบริเวณบ้านเรือนของตนเอง หรือแม้แต่บริเวณหน้าบ้านริมถนน ริมคลองสาธารณะ เราก็สามารถร่วมกันดูแลได้  และหากท่านใดพบเห็นการทิ้งขยะในที่สาธารณะ ทิ้งขยะไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย โปรดแจ้งที่ อบต.ทับน้ำ โดยขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบว่า การทิ้งขยะในที่หรือทางสาธารณะ ทั้งริมถนน ริมคลอง หรือพื้นที่ว่างเปล่านั้น มีความผิดทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535

-มาตรา 32 ห้ามมิให้ผู้ใด (1) ทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยลงบนที่สาธารณะ (2) ปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในที่ดินของตนในสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ

-มาตรา 33 ห้ามมิให้ผู้ใดเทหรือทิ้งสิ่งปฏิกูล น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ

-มาตรา 35 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

-ซึ่งหากประชาชนท่านใดพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว และมีหลักฐานชัดเจน โปรดแจ้งได้ที่ อบต.ทับน้ำ

ได้ทุกช่องทาง เพราะท่านคือส่วนหนึ่งของชุมชน จงช่วยกันรักษาชุมชนให้เกิดความสะอาด และเป็นระเบียบ เรียบร้อย