น้ำตาล (Sugar) คือชื่อเรียกของคาร์โบไฮเดรตชนิดละลายน้ำ มีรสหวาน โดยมีส่วนประกอบเป็นธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน สามารถนำไปประกอบอาหารเพื่อปรุงรสชาติอาหารให้มีความหวานได้ อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้เป็นอาหารเสริมให้กับร่างกาย โดยน้ำตาลที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ทางโภชนาการมากที่สุดก็คือ น้ำตาลซูโครส หรือน้ำตาลทราย Show
น้ำตาลไม่ใช่เพียงแต่ให้รสหวานอย่างเดียวเท่านั้น เพราะความจริงแล้ว ไม่ใช่น้ำตาลทุกชนิดจะให้ความหวาน ยกตัวอย่างเช่น น้ำตาลแล็กโตส ที่มีอยู่ในน้ำนมมนุษย์หรือน้ำนมของวัว ถือเป็นน้ำตาลที่ไม่ออกรสชาติหวาน เพราะน้ำตาลแล็กโตสมีปริมาณความหวานอยู่อย่างจำกัด ส่งผลให้รสชาติที่ได้จะมีความแตกต่างจากน้ำตาลประเภทอื่นๆ น้ำตาลเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ และยังช่วยให้ร่างกายเกิดความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพราะมีส่วนกระตุ้นการทำงานของสมอง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ ได้ด้วย เช่น อาหารกระป๋องและผลไม้กระป๋อง เป็นต้น ประเภทของน้ำตาลน้ำตาลสามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะของโมเลกุล ดังต่อไปนี้ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (Monosaccharides)น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว คือน้ำตาลที่มีโมเลกุลเล็กที่สุด ละลายได้ดี เหมาะสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ภายในร่างกายได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย น้ำตาลชนิดนี้มีรสหวาน โดยสามารถแบ่งเป็นชนิดย่อยได้ ดังนี้ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharides)
น้ำตาลโมเลกุลคู่ (Disaccharides)น้ำตาโมเลกุลคู่คือน้ำตาลที่ประกอบขึ้นจากน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุล ที่ส่วนใหญ่พบได้ตามธรรมชาติทั่วไป ทั้งในพืช ผัก ผลไม้ และอาหารประเภทต่างๆ โดยสามารถแบ่งเป็นชนิดย่อยได้ ดังนี้ น้ำตาลโมเลกุลคู่ (disaccharides)
น้ำตาลโมเลกุลใหญ่ หรือน้ำตาลเชิงซ้อน (Polysaccharides)น้ำตาลโมเลกุลใหญ่ คือคาร์โบไฮเดรตที่ได้มาจากน้ำตาลโมเลกุลหลายๆ โมเลกุลมารวมกัน ซึ่งรสชาติที่ได้นั้นจะไม่มีความหวาน มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ยาก หรือละลายไม่ได้เลย สามารถแบ่งเป็นชนิดย่อยได้ ดังนี้ น้ำตาลโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)
น้ำตาลเป็นสารอาหารที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แม้จะเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับก็ตาม เพราะหากบริโภคในปริมาณที่มากไป ก็อาจจะก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายตามมาได้ ดังนั้น จึงควรรับประทานน้ำตาลในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ร่างกายสามารถดึงเอาพลังงานจากน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ก่อให้เกิดโรคตามมา น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว มีอะไรบ้างโครงสร้างอย่างง่ายที่สุดของคาร์โบไฮเดรตคือ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) ซึ่งประกอบด้วย หมู่คาร์บอนิล (carbonyl) และ หมู่ไฮดรอกซิล (hydroxyl) อย่างน้อยที่สุดสองหมู่ น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เป็นหน่วยเล็กที่สุดของคาร์โบไฮเดรตที่พบในธรรมชาติ มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ดีและส่วนใหญ่มีรสหวาน
น้ำตาลโมเลกุลคู่ มีกี่ชนิด อะไรบ้าง และเกิดจากน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวชนิดใด?2.1 ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) หรือน้ำตาลโมเลกุลคู่ ประกอบด้วย น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวจำนวน 2 โมเลกุล จับกันด้วยพันธะไกลโคซิดิก (glycosidic bond) ได้แก่ มอลโทส (maltose) แล็กโทส (lactose) ซูโครส (sucrose) และเซลโลไบโอส (cellobiose)
น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวพบหมู่ฟังก์ชันอะไรบ้าง1. น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (Monosaccharide)
แบ่งประเภทตามหมู่ฟังก์ชัน ได้แก่ หมู่แอลโดส คือ มีหมู่คาร์บอกซาลดีไฮด์เป็นหมู่ฟังก์ชัน ได้แก่ ไรโบส กลูโคส กาแล็กโทส และหมู่คีโตส คือ มีหมู่คาร์บอนิลเป็นหมู่ฟังก์ชัน ได้แก่ ไรบูโรส และฟรักโทส
น้ำตาลเฮกโซส มีอะไรบ้างน้ำตาลเฮกโซส (hexose) หมายถึง น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่มีคาร์บอน 6 อะตอม ใช้เป็นสารให้ความหวาน (sweetener) ได้แก่ น้ำตาลกลูโคส (glucose) น้ำตาลฟรักโทส (fructose) น้ำตาลกาแล็กโทส (galactose)
|