ซาปา (Sapa) เวียดนามเหนือ เป็นอีกหนึ่ง Bucket List ของปูเป้และพี่ต้นที่ตั้งใจว่าจะต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิตค่ะ อยากมาสัมผัสความเป็นซาปา (Sapa) เมืองโรแมนติกแห่งขุนเขากลางสายหมอกลอย ดอกไม้สีสันสดใส สถาปัตยกรรมสวยๆ ฟีลยุโรปเบาๆ, อยากไปยืนท่ามกลางความอลังการของนาขั้นบันไดแบบพาโนราม่าที่ถูกโอบล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนสุดสายตา และอยากขึ้นเคเบิ้ลคาร์ทะลุเมฆหมอกไปบนยอดเขาฟานซีปัง (Fansipan) ที่มีสมญานามว่า “หลังคาแห่งอินโดจีน” ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนามที่ระดับความสูง 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แค่คิดถึงไฮไลต์เมืองซาปา (Sapa) ก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ!! Show
มารู้จักซาปา (Sapa) กันก่อน!!ซาปา (Sapa) เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ในจังหวัด “หล่าวก๊าย (Lào Cai)” ซึ่งอยู่ติดชายแดนตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จุดเด่นของซาปา (Sapa) คือ ภูมิประเทศที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อากาศเย็นสบายตลอดปี โอบล้อมด้วยทิวเขาสวยๆ มีสายเมฆและสายหมอกไหลผ่าน ยิ่งในช่วงฤดูเพาะปลูก ชาวบ้านที่นี่จะปลูกข้าวเป็นขั้นบันไดไปตามแนวไหล่เขาต่อเนื่องกันไปจนเกิดวิวที่สวยเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นจุดขายของเมืองจนถึงทุกวันนี้ ในยุคที่เวียดนามยังอยู่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส อากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่อนข้างร้อนชื้น ทำให้คนฝรั่งเศสที่มาประจำอยู่ในเวียดนามต้องปรับตัวกับสภาพอากาศที่ไม่คุ้นเคย แต่ด้วยความที่เวียดนามมีพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงอยู่เยอะ เหล่าเจ้านายชั้นสูงของฝรั่งเศสจึงนิยมมาสร้างบ้านตากอากาศไว้หนีร้อนตามเมืองต่างๆ ที่อยู่บนเทือกเขาสูงของเวียดนาม ทั้ง ดานัง ดาลัด และซาปา ทำให้อาคารที่สร้างในยุคอาณานิคมได้รับอิทธิพลการวางผังเมืองและสถาปัตยกรรมตามแบบฝรั่งเศส หลายๆ เมืองในเวียดนามจึงมีกลิ่นอายความเป็นยุโรปแฝงตัวอยู่แบบกลมกลืน “ซาปา (Sapa) ก็เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้มรดกด้านสถาปัตยกรรมจากยุคนั้น ซึ่งก็เห็นได้จากทั้งโบสถ์คาทอลิก อาคารบ้านเรือน และลานจตุรัสใจกลางเมือง” ปูเป้กับพี่ต้นชอบเมืองซาปา (Sapa) มากกก!!! ที่นี่มีทั้งวิวธรรมชาติสวยๆ วัฒนธรรมชนเผ่า นาขั้นบันได และความเป็นเมืองยุโรปอยู่เบาๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองโรแมนติกที่ควรต้องมาสัมผัส ที่นี่พิเศษจริงๆ ค่ะ ชอบที่เดินทางมาง่าย แค่นั่งเครื่องบินชั่วโมงกว่าๆ แป๊ปเดียวถึง, ไม่ต้องขอวีซ่า, ใช้ Passport กับตั๋วเครื่องบิน, ค่าครองชีพไม่แพง, อาหารทานได้ถูกปาก, มุมถ่ายรูปสวยเยอะ, อากาศเย็นสบาย แถมได้ใส่เสื้อโค๊ทสวยๆ อีกด้วยค่ะ มาเตรียมพร้อมก่อนหนีงานไปซาปา (Sapa) เวียดนามเหนือซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศ (Cigna)อยากเที่ยวซาปา เวียดนามให้สนุก ปลอดภัย ไร้กังวล ก่อนเดินทางปูเป้และพี่ต้นแนะนำให้ทำ ซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศ (Cigna) แล้วอุ่นใจหายห่วง เพราะการเดินทางอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันได้เสมอค่ะ แม้เราจะคอยระมัดระวังแล้วก็ตาม เช่น เครื่องบินดีเลย์, กระเป๋าล่าช้า, กระเป๋าหาย, เจ็บป่วย, เกิดอุบัติเหตุ หรือทรัพย์สินสูญหาย เมื่อเราทำประกันการเดินทางไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะได้คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาล และได้รับการชดเชยครบครันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไหนๆ ไปเที่ยวแล้วก็อยากเที่ยวแบบสบายใจค่ะ ปูเป้และพี่ต้นทำ ประกันเดินทางต่างประเทศ (Cigna) แบบรายปี สำหรับคนที่เดินทางมากกว่า 3-4 ครั้ง/ปี แนะนำซื้อแบบรายปีจะคุ้มกว่าเยอะ ข้อดีของการซื้อประกันการเดินทางแบบรายปี มีดังนี้ค่ะ
ก่อนออกเดินทางเราสามารถซื้อ ประกันเดินทางต่างประเทศจากซิกน่า (Cigna) ผ่านเว็บไซต์ได้เลยค่ะ หลังชำระเงินเรียบร้อยแล้ว กรมธรรม์ประกันภัยจะส่งเข้า Email เราทันที ซื้อง่ายและสะดวกสุดๆ ใครอยากได้ส่วนลด 15% สำหรับประกันการเดินทางครั้งต่อไป กดลิงค์นี้ได้เลยค่ะ: ซื้อประกันการเดินทางรายเที่ยวและรายปี ซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศ (Cigna) ให้ ความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาล สัมภาระหาย และไฟลต์ดีเลย์แล้ว และยังมีบริการสายด่วนช่วยเหลือฉุกเฉินขณะเดินทาง 24 ชม. ซึ่งเป็นบริการพิเศษเฉพาะลูกค้าประกันการเดินทางของซิกน่า
ฟีเจอร์ใหม่ !! “Auto Claim Flight Delay”
วิธีการเดินทางไปซาปา (Sapa)ซาปา (Sapa) เป็นเมืองตั้งอยู่บนภูเขาสูงจึงยังไม่มีสนามบินของตัวเอง (ในปี 2021 ได้มีการอนุมัติแผนการสร้างสนามบินซาปาแล้วโดยจะห่างจากตัวเมืองซาปา (Sapa) ประมาณ 35 กิโลเมตร) วิธีการเดินทางมาซาปา (Sapa) ที่ง่ายที่สุด (อัพเดทปี 2023) คือ นั่งเครื่องบินมาลงที่เมืองฮานอย (Hanoi) เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม ซึ่งห่างจากเมืองซาปา (Sapa) ประมาณ 315 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางต่อมายังเมืองซาปา (Sapa) ซึ่งมี 2 วิธีดังนี้ 1. เดินทางโดยรถไฟ : มีรถไฟออกทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนจะใช้เวลาเดินทาง 8-9 ชั่วโมง แนะนำให้จอง บัตรโดยสารรถไฟเวียดนามชั้นดีลักซ์จากฮานอยหรือเมืองอื่น ๆ ไปยังซาปา โดย Sapaly Express Train ก่อนล่วงหน้าค่ะ รถไฟตู้นอน Sapaly Express Train ถือว่าเป็นรถไฟระดับไฮเอนด์หรูหรา มีความวินเทจเบาๆ ตกแต่งภายในตามมาตรฐานยุโรปมีแบบห้องส่วนตัว, เตียงนอน, ผ้าห่ม, ปลั๊กไฟ, ของว่าง และเครื่องดื่มฟรี เดินทางสะดวกสบาย โดยจะจอดที่สถานี Lao Cai จากนั้นต่อรถไปยังตัวเมืองซาปา (Sapa) สนใจซื้อ บัตรโดยสารรถไฟเวียดนามชั้นดีลักซ์จากฮานอยหรือเมืองอื่น ๆ ไปยังซาปา โดย Sapaly Express Train ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ 2. เดินทางโดยบริการรถลีมูซีนรับส่งร่วมระหว่างซาปาและฮานอย : เดินทางโดยบริการรถลีมูซีนรับส่งร่วมระหว่างซาปาและฮานอยด้วยรถลีมูซีน 9 ที่นั่งแบบส่วนตัว รถเบาะนุ่มหรูหรา ซึ่งรถจะไปส่งถึงโรงแรมที่พักได้เลย สนใจซื้อ บริการรถลีมูซีนรับส่งร่วมระหว่างซาปาและฮานอย ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ 3. เดินทางโดยรสบัสนอน : ออกเดินทางเมืองฮานอย (Hanoi) ไปซาปาทุกวันจะมีหลายบริษัทให้เลือกใช้บริการ และมีวันละหลายรอบด้วยค่ะ ปูเป้และพี่ต้นเลือกเดินทางด้วยวิธี บริการรถชัตเทิลบัสรับส่งร่วมระหว่างฮานอยและซาปา จะใช้เวลาเดินทาง 6-7 ชั่วโมง โดยระหว่างทางจะมีจอดจุดแวะพักรถเพื่อให้ได้เข้าห้องน้ำ ถือว่าเดินทางสบายๆ นอนยาวๆ ไป แต่ก็หลับไม่สนิทนะคะ สนใจซื้อ บริการรถชัตเทิลบัสรับส่งร่วมระหว่างฮานอยและซาปา โดย Interbus Lines ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ อยากเที่ยวซาปา (Sapa) แบบไม่เพลีย อ่านตรงนี้
มาเที่ยวซาปาช่วงไหนดี ?อากาศของเมืองซาปา (Sapa) เย็นสบายตลอดทั้งปี มีหมอกไหลสวยๆ ในฤดูฝน และจะมีหิมะตกในฤดูหนาว เป็นเมืองที่โรแมนติก เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนมากๆค่ะ
สำหรับที่ รวมพิกัดซาปา (Sapa) เมืองสายหมอก : ที่เที่ยว, ที่กิน, มุมถ่ายรูปสวย, จุดชมวิวปังๆ และจิบชายามบ่ายในโรงแรม 5 ดาวสุดหรูมาฝากกันค่ะ 1. พิชิตยอดเขาฟาซิปัน (Fansipan) หลังคาแห่งอินโดจีนยอดเขาฟานซีปัน (Fansipan Mountain) พิกัดแรกสุดฮิตของเมืองซาปา (Sapa) ที่ปูเป้และพี่ต้นแนะนำให้ไปเช็คอินค่ะ ยอดเขาฟานซีปันเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม และในสามประเทศอินโดจีน คือ เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ด้วยความสูง 3,143 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล จนได้รับสมญานามว่าเป็น “หลังคาแห่งอินโดจีน” จุดนี้แหละที่คนนิยมไปโบกสะบัดธงบนยอดเขา มาซาปาแล้วต้องมาค่ะ!! ก่อนที่จะไปพิชิตยอดเขาฟาซิปัน (Fansipan) ต้องมี บัตรเข้าซันเวิลด์ ฟานซีปัน เลเจนด์ (Sun World Fansipan Legend) เทคนิคการซื้อบัตรเข้าซันเวิลด์ ฟานซีปัน เลเจนด์ (Sun World Fansipan Legend)
สนใจซื้อ บัตรเข้าซันเวิลด์ ฟานซีปัน เลเจนด์ (Sun World Fansipan Legend) ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ จากนั้นไปที่ Sun World Fansipan Legend Cable Car หรือ Sun Plaza ตัวอาคารสีเหลืองโดดเด่นใจกลางเมืองซาปา (Sapa) เป็นสถานีขายตั๋วขึ้นรถราง และขึ้นเคเบิ้ลคาร์กระเช้าลอยฟ้าข้ามระหว่างเมืองซาปาและยอดเขาฟาซิปัน (Fansipan) เคเบิ้ลคาร์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย Guinness Record ว่าเป็นระบบเคเบิลคาร์สามสายที่สูงที่สุด ยาวที่สุด และทันสมัยที่สุดที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในเอเชีย แค่ฟังชื่อก็ตื่นเต้นแล้วสินะ!! ชั้นล่างของอาคาร Sun World Fansipan Legend Cable Car หรือ Sun Plaza จะติดกับโรงแรมเดอ ลา กูโปล – เอ็มแกลเลอรี Hôtel de la Coupole – MGallery โรงแรม 5 ดาวในเครือ MGallery ติดอันดับท็อปต้นๆ ของเมืองซาปา (Sapa) ด้วยผลงานการออกแบบและดีไซน์ของ บิล เบนสลีย์ (Bill Bensley) สถาปนิกผู้โด่งดังที่มีชื่อเสียงที่สุด และมีผลงานออกแบบโรงแรม และรีสอร์ทดังๆ ใน 40 กว่าประเทศทั่วเอเชีย (ปูเป้และพี่ต้นไปทาน Afternoon Tea ที่ Hotel de la Coupole มาด้วย โรงแรมดีไซน์สวย ดีเทลเยอะ มุมถ่ายรูปสุดปัง วิวดีมากก : รีวิวข้อ 5 ค่ะ) จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”จองออนไลน์ผ่าน Booking.com ได้ประโยชน์ 2 ต่อ
สนใจจองห้องพักที่ Hôtel de la Coupole – MGallery คลิกที่นี่ งั้นเรามาขึ้นยอดเขาฟาซิปัน (Fansipan) กันค่ะ!!เริ่มแรกเราจะนั่งรถรางโมโนเรล แล้วต่อด้วยกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car) ซึ่งเป็นกระจกใสรอบด้านขนาดใหญ่ ตัวกระเช้าไฟฟ้าจะค่อยๆ ลอยอยู่กลางอากาศที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกคือตื่นเต้นมาก ใจสั่น ขาสั่น แอบกลัวนิดๆ ลุ้นและเสียวตลอดทางเลย ในหัวก็คิดว่าระบบเคเบิ้ลคาร์ของที่นี่ปลอดภัย แต่ก็ยังมีความย้อนแย้งกับตัวเอง!! 555 ระหว่างทางจะได้เห็นวิวมุมสูงชมความงามวิวธรรมชาติของเมืองซาปา (Sapa) ล้อมรอบด้วยป่าเขียวๆ ที่ยังอุดมสมบูรณ์แบบพาโนราม่าเต็มตาค่ะ เราจะใช้เวลานั่งกระเช้าไฟฟ้าประมาณ 15-20 นาทีถึงจุดพักที่ 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, จุดชมวิว, จุดถ่ายรูป วัด, สวนสนุก, ร้านอาหารต่างๆ หลังจากนั้นจะต่อรถรางโมโนเรลเพื่อขึ้นสุดยอดเขาฟานซิปัน (Fansipan Mountain) ด้านบนจะมีจุดเช็คอินที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป นั่นคือ บริเวณที่ตั้งของพีระมิดที่ทำจากสแตนเลสเงาวับ แล้วหยิบธงเวียดนามมาโบกสะบัดกันประกาศให้รู้โดยทั่วกัน ว่าฉันมาถึง “หลังคาแห่งอินโดจีน” ยอดเขาฟาซิปันที่สูงที่สุดในเวียดนามและในอินโดจีนค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม 2. Sapa Square จุดถ่ายรูปยอดนิยมกลางเมืองซาปาSapa Square บริเวณนี้เป็นลานกิจกรรมอเนกประสงค์หนึ่งเดียวของเมือง และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมใจของเมืองซาปา (Sapa) ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานี Sun World Fansipan Legend หลังออกจากสถานีลงยอดเขาฟานซิปัน (Fansipan) แล้วให้เดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม มาถ่ายภาพเผลอๆ กับอาคารสีเหลืองโดดเด่นสไตล์ยุโรปสวยๆ ยิ่งมาช่วงเย็นๆ โพล้เพล้ตอนเปิดไฟแล้วยิ่งสวยค่ะ แต่ตอนถ่ายรูประวังรถดีๆ ด้านหลังด้วยค่ะ ช่วงเย็นๆ แนะนำมานั่งเล่นที่ลานกิจกรรมเอนกประสงค์กันค่ะ เราจะเห็นคนมาทำกิจกรรมกันแน่นๆ ทั้งร้องเพลง, การแสดงโชว์รำพัด, เล่นฟุตบอล, แบดมินตัน, เด็กๆ และผู้ใหญ่มาแว๊นซ์รถซิ่งคันเล็กๆ ลีลาของแต่ละคันดูเพลินมากกกก และยังเป็นที่ขายของสำหรับชาวเขาชนเผ่าให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ใครชอบดื่มด่ำบรรยากาศ ชอบนั่งชิลล์ มองดูชีวิตผู้คนท้องถิ่นใช้ชีวิต แนะนำค่ะ!! ข้อมูลเพิ่มเติม 3. Sapa Relax Rooftop รูฟท็อปโดมใสหนึ่งเดียวในซาปานี่คือพิกัดเปิดใหม่ รูฟท็อปโดมใสสุดปังหนึ่งเดียวกลางเมืองซาปา (Sapa) เวียดนามเหนือ เครื่องดื่มราคาไม่ถึงร้อยก็มีรูปสวย ไฮโซได้จ้าแม่จ๋า!!! มุมนี้เป็น Rooftop Cafe ชั้น 6 ของ Sapa Relax Hotel & Spa (ซาปา รีเล็กซ์ โฮเต็ล) มุมเดียวได้ทั้งวิวธรรมชาติและวิวเมืองซาปา (Sapa) แบบพาโนรามาไปเลยค่ะ!!! วิวจากด้านบนรูฟท็อปสวยจับใจ ได้มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน เห็นนาขั้นบันได เห็นหมอกลอยเอื่อยๆ ตามยอดเขา มันช่างอิ่มเอมใจ ชวนให้นั่งมองยาวๆ ได้ท้างวัน!! เราสองคนพักที่ Sapa Relax Hotel & Spa ตั้งอยู่ในใกล้ Sun plaza เป็นย่านกลางใจเมือง เดินทางไปไหนก็สะดวกมาก
จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”จองออนไลน์ผ่าน Booking.com ได้ประโยชน์ 2 ต่อ
สนใจจองห้องพักที่ Sapa Relax Hotel & Spa ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ ส่วนวิวเมืองด้านหลังก็จัดว่าอลังการทีเดียว วิวหมู่ตึกเมืองซาปามีกลิ่นอายโคโลเนียแบบฝรั่งเศสผสมเวียดนาม โดยเฉพาะตึก Sun Plaza (สถานีขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไป Fansipan) ยิ่งได้ฟีลยุโรปเข้าไปอีก!! คนที่ไม่ได้พักที่โรงแรมนี้ก็สามารถเข้าไปสั่งเครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้ำผลไม้แล้วขึ้นมาถ่ายรูปบน Rooftop ได้ค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม 4. Moana Sapa พิกัดถ่ายรูปสุดฟุ้งฝันแห่งซาปาMoana Sapa พิกัดสุดฟุ้งฝันแห่งซาปา (Sapa) นี่คือ จุดชมวิวสุดปังอลังของซาปา วิวแบบนี้มันจะสวยเกินปุยมุ้ยยยย!! สวยจนใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะแล้วว วิวล้อมด้วยทิวเขายาวแบบพาโนราม่า มีทุ่งไฮเดรนเยียบานฟูๆ กลางหุบเขา ถ่ายรูปคู่หมอกลอยฟุ้งๆ สุดชิลล์ ฉากหลังเป็นอาคารสไตล์ฟีลยุโรป ถ้าใครไม่ได้เตรียมกระโปรง ที่ Moana Sapa ก็มีชุดกระโปรงยาวพริ้วๆ ให้เช่าด้วยนะคะ ถ้ามีเวลาน้อย!! มาที่เดียวครบทุกมุมถ่ายรูปโดนใจสายถ่ายรูป ห่างจากตัวเมืองซาปา 10 นาทีก็ได้วิวแบบนี้ค่ะ และยังมีคาเฟ่อยู่ด้านให้กินลมชมวิว มุมถ่ายรูปมีเยอะมากมาย เช่น
ข้อมูลเพิ่มเติม 5. จิบชายามบ่ายที่โรงแรมสุดหรู ได้รูปสวยไฮโซHotel de la Coupole โรงแรม 5 ดาว ในเครือ MGallery ที่เห็นดีเทล การดีไซน์ และออกแบบของโรงแรมแล้วอยากจะกรี๊ดดังๆ!!! โรงแรมนี้ติดอันดับท็อปต้นๆ ทั้งเรื่องการออกแบบ และถ่ายรูปขึ้นที่สุดของเมืองซาปา (Sapa) ด้วยผลงานการออกแบบและดีไซน์ของ บิล เบนสลีย์ (Bill Bensley) สถาปนิกผู้โด่งดังที่มีชื่อเสียงที่สุด และมีผลงานออกแบบโรงแรมหรูๆ รีสอร์ทดังๆ หรือพระราชวังใน 40 กว่าประเทศทั่วเอเชีย ผลงานการออกแบบของ Bill Bensley ในประเทศไทย เช่น The Siam Hotel, Four Seasons Tented Camp Golden Triangle จ.เชียงราย, Four Seasons Resort ที่ จ.เชียงใหม่ และเกาะสมุย และยังที่อื่นๆ อีก บิล เบนสลีย์ (Bill Bensley) ได้ใช้จินตนาการเต็มที่เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับทุกคนที่มาเยือน งานของบิล เบนสลีย์ (Bill Bensley) ของโรงแรม Hotel de la Coupole มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นด้วยการตกแต่งชนิด “กล้าเล่น” ที่มีทั้งความหรูหรา ความคลาสสิค ความคอนทราสต์ได้กลิ่นอายโคโลเนียล แต่กลับแฝงความฉูดฉาดและสีสันได้อย่างลงตัว กลมกลืนและดูสวยโดดเด่นที่ให้ทำให้เรารู้สึกสนุกและผ่อนคลายไปพร้อมกัน ถ้ามาพักที่ Hotel de la Coupole – MGallery ปูเป้แนะนำต้องมีเวลาเยอะๆ อยู่ในโรงแรม Hotel de la Coupole – MGalleryเพราะโรงแรมดีไซน์สวยจริง อลังการทุกจุด สีสันจัดจ้าน มองไปทางไหนก็ดูว๊าว ดูตื่นตาตื่นใจ มุมถ่ายรูปเยอะมาก และก็น่าถ่ายรูปไปซะทุกมุมจริงๆ ค่ะ จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”จองออนไลน์ผ่าน Booking.com ได้ประโยชน์ 2 ต่อ
สนใจจองห้องพักที่ Hôtel de la Coupole – MGallery คลิกที่นี่ ถ้าแวะมาทาน Afternoon Tea ให้แจ้งพนักงานที่หน้าล้อบบี้ว่าจะมาทาน Afternoon Tea แล้วจะมีพนักงานพาเราเดินขึ้นมาชั้นบนค่ะ ข้อห้ามของโรงแรมในการถ่ายรูป คือ ห้ามใม่ให้ใช้แฟลช และเลนส์เทเล (telephoto lens) ปูเป้สั่ง High Tea Set ในเซตจะมีทั้งของทานเล่น, ของหวาน, สโคน สามารถเลือกชา และกาแฟที่ชอบได้ ขนาดเสิร์ฟกำลังพอดีทานเบาๆ สำหรับ 2 คน ราคา 712,152 VND (ประมาณ 1,125 บาท) สำหรับคนที่ชอบของหวาน ชอบถ่ายรูป สายชิค ต้องชวนแฟน ชวนเพื่อนมาเช็คอิน แวะมาเช็คอิน จิบชายามบ่าย เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์สุดพิเศษ ห้ามพลาดนะคะ!! ข้อมูลเพิ่มเติม 6. Laxsik Ecolodge โรงแรมกลางวิวนาขั้นบันไดสวยเต็ม 10ปูเป้เห็นภาพ มุมสระว่ายน้ำ Infinity Pool ของ Laxsik Ecolodge ท่ามกลางวิวนาขั้นบันไดแบบพาโนรามา เห็นเมฆภูเขาสลับซับซ้อนเคล้าสายหมอก แล้วใจสั่นๆ ต้องขอปักหมุดชวนพี่ต้นมาให้ได้ค่ะ!!! ไฮไลต์ของ Laxsik Ecolodge จะเป็นที่พักที่อยู่กลางนาขั้นบันไดจริงๆ บรรยากาศเงียบสงบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นที่พักถือว่าไม่ห่างไกลจากตัวเมืองมากนัก และได้วิวธรรมชาติสุดๆ (ห่างจากตัวเมืองซาปา (Sapa) ประมาณ 15 นาที) สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศ และวิวนาขั้นบันไดเก๋ๆ แบบไม่ Mass แนะนำที่ Laxsik Ecolodge ค่ะ มุมยอดฮิตของ Laxsik Ecolodge จะเป็น “มุมนาขั้นบันได และมุมสระว่ายน้ำ” เช้าๆ แช่น้ำพร้อมมองวิวแบบนี้ เพลินตาเพลินใจ มีความสุขล้นใจฟูสุดๆค่ะ อ้อ!! กรณีที่ไม่ได้มาพักที่นี่ก็สามารถเข้ามาสั่งกาแฟ เครื่องดื่ม หรืออาหาร (แนะนำควรขออนุญาตพนักงานก่อนเดินเข้ามาถ่ายรูปด้านในโรงแรมนะคะ) จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”จองออนไลน์ผ่าน Booking.com ได้ประโยชน์ 2 ต่อ
สนใจจองห้องพักผ่าน Booking ที่ Laxsik Ecolodge ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ ห้องพักของ Laxsik Ecolodge จะสร้างด้วยวัสดุในท้องถิ่น เช่น ไม้ หินแกรนิต ก้อนกรวด และดินเหนียว ผนังด้านในบุด้วยผนังไม้ให้ความรู้สึกโคซี่ และโฮมมี่ มีการตกแต่งของห้อง มีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวม้งชนเผ่าพื้นเมือง โดยรอบที่พักของ Laxsik Ecolodge จะสามารถมองเห็นวิวนาขั้นบันไดไม่ว่าจากระเบียงห้องพัก ห้องอาหาร หรือสระว่ายน้ำ และชอบที่ทางที่พักมีบันไดปูนให้เราได้เดินลงไปถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์นาขั้นบันไดที่สวยอลังการมากๆ และประทับใจกับพนักงานค่ะ มี Service mind ดี, มีความกระตือรือร้น พูดภาษาอังกฤษได้แถมให้ความช่วยเหลือดีมากๆค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม 7. จุดชมวิวนาขั้นบันไดสวยอลังการ แบบไม่ต้องเดินเหมื่อยถ้าออกจากตัวเมืองซาปา (Sapa) จุดชมวิว Viewpoint จะถึงก่อน Laxsik Ecolodge จะเป็นจุดชมวิวทำให้เราเห็นบ้านเรือนของผู้คนกลางหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยวิวนาขั้นบันไดแบบพาโนรามาสวยๆ ซึ่งสามารถจอดรถไว้ข้างทางได้เลย และไม่ต้องเดินเยอะค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม 8. มุมชิคๆ กับวิวรถรางขึ้นฟาซิปันที่ Lá Đỏ Homestayความตั้งใจเดิม คือ ปูเป้และพี่ต้นจะไป Viettrekking Sapa แต่ปิดค่ะ เลยได้มาแวะ Lá Đỏ Homestay (ลาดูโฮมสเตย์) จะเป็นบ้านพักโฮมสเตย์ขนาดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ติดกัน วิวสวยมุมเดียวกับ Viettrekking Sapa โรงแรมเพิ่งรีโนเวทใหม่แกะกล่องเสร็จเมื่อปลายปี 2022 ห้องเห็นวิวภูเขาอลังการ ตกแต่งสวยดูดีมีความลักชูวิว แนะนำแบบ 10/10 เลยค่ะ มุมไฮไลต์ของที่นี่จะเป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ กับรถไฟโมโนเรลขึ้นภูเขาฟานซิปัน (Fanipan) กับวิวภูเขาสลับซับซ้อนของเมืองซาปา (Sapa) จองที่พักออนไลน์เพื่อสนับสนุน “หนีงานไปเที่ยว”จองออนไลน์ผ่าน Klook ได้ประโยชน์ 2 ต่อ
สนใจจองห้องพักผ่าน ที่ Viettrekking Sapa ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ Lá Đỏ Homestay เป็นบ้านพักโฮมสเตย์ขนาดเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ติดกันกับ Viettrekking Sapa มีพื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งแบบง่ายๆ สไตล์บ้านท้องถิ่น โดยรอบมีมุมนั่งเล่นเยอะล้อมรอบไปด้วยต้นไม้บรรยากาศร่มรื่นค่ะ ที่นี่ไม่ไกลจากตัวเมืองซาปา ถ้ามาตอนเช้ากว่านี้จะเห็นหมอกลอยอยู่ทั่วเลย เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นภูเขาแบบกว้างไกลสุดตา ข้อมูลเพิ่มเติม 9. หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) เก่าแก่ที่สุดของซาปาหมู่บ้านกั้ตกั้ต (Cat Cat Village) เป็นชื่อเรียกของหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีความเก่าแก่ของชนเผ่าม้งดำ และยังเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่บ้านทั้งหมดของเมืองซาปา จังหวัดหล่าวกาย (Lao cai) หมู่บ้านกั้ตกั้ตอยู่บนภูเขาในระดับความสูงกว่าน้ำทะเล 1,650 เมตร ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 นาที ระยะทาง 3 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดฮิตเมื่อมาซาปา (Sapa) กรณีไม่สะดวกเที่ยวเองก็มีทัวร์พาเที่ยว ทัวร์หมู่บ้านกั๊ตกั๊ตครึ่งวันจากซาปา ในโปรแกรมมีไกด์พาเที่ยวแถมพา Trekking เดินป่าด้วย เริ่มจากพาไปหมู่บ้านกั้ตกั้ต (Cat Cat Village) ชุมชนม้งดำที่เก่าแก่ที่สุดในซาปา, เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม, ชมผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือ เช่น สร้อยข้อมือ ผ้าพันคอ เสื้อผ้า จากนั้นแวะสถานีไฟฟ้าพลังน้ำเก่า แหล่งพลังงานของหมู่บ้านในช่วงยุคอาณานิคมฝรั่งเศส, พาชมน้ำตกกั๊ตกั๊ต, พาเดินป่า หลังจากนั้นเติมพลังด้วยอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ที่โรงแรมเวียดฟลาวเวอร์ สนใจซื้อ ทัวร์หมู่บ้านกั๊ตกั๊ตครึ่งวันจากซาปา ในราคาพิเศษ คลิกที่นี่ ก่อนจะมาถึงหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) จะเห็นวิวนาขั้นบันไดสวยๆ ท่ามกลางธรรมชาติแบบพาโนรามาอลังการมาก จนอยากจะหยุดรถถ่ายรูปมากๆ ค่ะ ภายในหมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) จะมี 2 ทางเข้าจะเข้าจากฝั่งไหนก็ได้ค่ะ ถ้าเข้าทางฝั่งด้านหลังจะมีลานกว้างๆ ให้จอดรถฟรีพอเดินเข้ามาตลอดสองข้างทางก่อนทางเข้าหมู่บ้านกั๊ตกั๊ตจะมีร้านขายของที่ระลึก, ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม, คาเฟ่ และร้านเช่าชุดแบบชาวพื้นเมืองให้เลือกเยอะเลยค่ะ ในบริเวณหมู่บ้านนกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) จะใช้เวลาในการเดินเล่นในหมู่บ้าน 1 -2 กิโล ภายในหมู่บ้านมีเสน่ห์เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ ระหว่างการเดินทางเราจะเห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่, ร้านค้า, น้ำตกเล็ก และใหญ่ และมีการแสดง-การละเล่นของชาวม้งดำด้วยค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติม 10. มาชิมฮอทพอท (Hotpot) เมนูสุดฮิตของซาปาช่วงค่ำๆ อากาศเย็นสบาย ปูเป้และพี่ต้นมาเดินเล่นตัวเมืองของซาปา (Sapa) เป็นย่านที่มีสีสัน คึกคักมาก เมนูยอดฮิตของคนที่มาซาปา (Sapa) ที่ต้องมาชิม คือ ฮอทพอทแซลมอนร้อนๆ (Salmon Hotpot) เพราะมีฟาร์มเลี้ยงแซลมอนกันที่นี่ แต่จริงๆ ที่เสิร์ฟเป็นปลาสเตอร์เจียนนะคะ เนื้อปลาสด แต่จะมีก้างเยอะมากๆ ปูเป้เลยขอเปลี่ยนไปทาน Hotpot เนื้อไก่แทนน่าจะดีกว่าค่ะ Nha hang O Quy Ho Restaurant ปูเป้ตามโพยมาจากรีวิวของ TripAdvisor ถือว่าเป็นร้านอาหารและ Hot pot ดังของซาปา (Sapa) มีความสูงประมาณ 3 ชั้น ตั้งอยู่ใจย่านตัวเมืองซาปา (Sapa) ร้านนี้อร่อยจริง คนแน่น ตกแต่งดี ดูมีเทส มีเมนูภาษาอังกฤษ พนักงานบริการดี พนักงานพูดอังกฤษ อาหารมีให้เลือกเยอะ น่าจะอร่อยถูกปากคนไทยค่ะ ปูเป้ และพี่ต้นสั่งเซตฮอทพอทไก่ ในเซตจะมีวุ้นเส้น, ชุดผัก, เนื้อไก่แบบเต็มจานแน่นๆ เกี๊ยวกรอบ และน้ำจิ้ม รสชาติน้ำซุปดีเลยค่ะ (ราคา 495,000 VND) บอกเลยว่าทาน 2 คนจุกมากกกก เพราะไก่ที่เสิร์ฟสับมาแบบติดกระดูกไก่ ทานจนเหนื่อยเลยค่ะ!! โดยรวมแล้วอาหารคุณภาพดี อร่อย อากาศเย็นๆ ได้ทานฮอทพอทซดน้ำซุปร้อนๆ แล้วดีจริงๆๆ ทางร้านรับทั้งเงินสด และบัตรเครดิตด้วยนะคะ ข้อมูลเพิ่มเติม อ่านครบ 10 พิกัดเที่ยวซาปา (Sapa) หวังว่าเพื่อนๆ จะหลงรักซาปา (Sapa) แบบปูเป้ และพี่ต้นนะคะถ้าชอบโปรดแชร์ :
Like this:Like Loading... cat cat cat Fansipan field rice sapa vietnam village กั๊ต กั๊ต กั๊ต ขั้นบันได ซาปา ที่พัก ที่เที่ยว ท่องเที่ยว นา นาขั้นบันได ฟานซิปัน รถราง ร้านอาหาร หมู่บ้าน หม้อไฟ อาหาร เฝอ เวียดนาม แนะนำ |