ข าวผมพระเทวร ป ต.ก ดเค า อ.ม จจาค ร

เผยแพร่: 11 พ.ค. 2557 22:49 โดย: MGR Online

ชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบหลุมระเบิด เอ็ม 79 ที่ตกใกล้เวทีชุมนุม คปท. 2 จุด คาดวิถีกระสุนถูกยิงมาจากแยกนางเลิ้ง โดยใช้ เสาส่งสัญญาณในทำเนียบเป็นเป้าในการยิง ขณะเดียวกันเกิดเเหตุคนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่อาคารรัตนคุณากร ม.รังสิต ส่งผลให้อาคารได้รับความเสียหาย "อดุลย์"จี้เร่งติดตามคนร้าย ด้าน "วรพงษ์" ปัด ตร.ขอขมาหลวงปู่พุทธอิสระ อ้างแก๊สน้ำตาชอบธรรม

วานนี้ (11 พ.ค.) พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1พร้อมกับพล.ต.ต.รณกร ศุภสมุทร ผบก.สรรพาวุธ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มการเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.สุวัฒน์ ตันติมาสน์ ผกก.สน.นางเลิ้ง พ.ต.อ.ศุภกิจ ต่อบุญ ผกก.สน.ดุสิต เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดEODเข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุจากกรณีกลุ่มคปท.ถูก คนร้ายยิงเอ็ม 79 ถล่มใส่ 2 ลูก ตกที่ข้างทำเนียบรัฐบาล และบริเวณร.ร.ราชวินิต มัธยม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

จุดแรกบริเวณภายในทำเนียบรัฐบาลบริเวณประตู 2 ริมสนามหญ้า ใกล้เวทีของกลุ่มผู้ชุมนุมคปท. ภายในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกว้าง 10 ซม. ลึก 1ซม. เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพและค้นหาชิ้นส่วนรวบรวมเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานใช้เวลา ประมาณ15นาทีในการตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดที่สอง บริเวณด้านหน้าร.ร.ราชวินิตมัธยม ถ.พิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำรั้วเหล็กมากั้นจุดที่ระเบิดตก พร้อมขึงเชือกไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปที่เกิดเหตุ มีรถเก๋งโตโยต้า ยาริส ทะเบียน สท 5927 กรุงเทพมหานคร สีบรอนซ์เงิน ยางหน้าด้านซ้ายแตก ด้านหน้ารถพบหลุมระเบิดกว้างตกอยู่บริเวณหน้ารถยาริสมีหลุมกว้าง 5ซม. ลึก1 ซม. โดยแรงระเบิดยังได้ทำลายตู้โทรศัพท์สาธารณะเสียหายจำนวน 2 ตู้ เศษกระจกกระจัดกระจาย ถัดมาพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ หมายเลขทะเบียน วง 6868 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายกระจกร้าวและสะเก็ดระเบิดเป็นรูขนาดกว้าง 1 ซม. จำนวน 2 รอย ล้อหลังของรถแตก รถสุขา หมายเลขทะเบียน 96-1530 กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายบริเวณด้านกระจกหน้าเป็นรอย ถูกสะเก็ด 2 จุด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมภาพ ค้นหาชิ้นส่วนระเบิด และตรวจสอบความเสียหายเพื่อรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐานทั้งหมด พ.ต.อ.กำธร กล่าวว่า จากการตรวจสอบทั้ง 2 จุด สะเก็ดระเบิดที่เก็บได้ยืนยันว่า เป็นระเบิดลูกยิงขนาด 40 ม.ม. หรือ เอ็ม 79 ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด ระยะพร้อมทำงาน 14 เมตร ระยะยิงไกลสุด 400 เมตร มีรัศมีทำลายสร้างความเสียหายในระยะ 5 เมตร วิถีโค้งระยะ 200-400 เมตร คนร้ายใช้เครื่องกระสุนยิงเอ็ม 79 ทิ้งระยะเวลาในการยิง 5 วินาที ซึ่งคาดว่าถูกยิงมาจากบริเวณแยกนางเลิ้ง โดยระเบิดเอ็ม 79 ลูกแรก ยิงเข้าใส่เวทีคปท. โดยใช้เสาส่งสัญญาณในทำเนียบรัฐบาลเป็นเป้าในการยิง

แต่พลาดเป้าตกข้างสนามหญ้า มีระยะ 400 เมตรพอดีและต่อมายิงตกบริเวณหน้าร.ร.ราชวินิตฯ มีระยะ 200 เมตร คาดว่าถูกยิงมาจากเครื่องยิงกระบอกเดียว อาจยิงมาจากจุดเดียว ก่อนหลบหนี

***ยิงเอ็ม 79 ถล่มตึกนิเทศน์ ม.รังสิต

ด้าน พ.ต.อ.ธนกฤต อ่อนละออ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี กล่าวถึงกรณีเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิงเข้าใส่อาคารรัตนคุณากร ของมหาวิทยาลัยรังสิต เลขที่ 52/347 หมู่บ้านเมืองเอก ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี ซึ่งอาคารมีความสูง 14 ชั้น ของตึก 11 อาคารรัตนคุณากร โดยใช้ในการเรียนการสอนคณะนิเทศศาสตร์ และห้องประชุม วิถีกระสุนทะลุกระจกเข้าไปภายในห้องด้านทิศเหนือของชั้นที่ 12 ซึ่งเป็นห้องทำงานของ ผศ.ดร.วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ ผอ.ศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้มหาวิทยาลัยรังสิต ส่งผลให้กระจกแตกละเอียดได้รับความเสียหาย 2 บาน ความแรงของระเบิดกระแทกเสาอาคารจนได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเขต 1 หรืออีโอดี ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บชิ้นส่วนหลักฐานของลูกระเบิดเอ็ม 79 ที่ยิงตกอยู่ในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน โดยระบุว่า วิถีของกระสุนมาจากทางถนนหน้าอาคารดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเร่งสืบสวนหาคนร้ายผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ศปก.ตร. เพื่อวางมาตรการ และดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองของฝ่ายต่างๆ โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญ คือ มีคนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่ทำเนียบรัฐบาล หลังการบุกเข้าขอใช้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลของ กปปส. ซึ่ง ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการเร่งรัดการติดตามหาตัวคนร้าย และให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งวางมาตรการป้องกัน มิให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของพี่น้องประชาชน และราชการ อันอาจก่อให้เกิดเหตุรุนแรงมากยิ่งขึ้น

***ตร.ปัดขอขมาหลวงปู่ ชี้ยิงแก๊สน้ำตาชอบธรรม

ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.วรพงศ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวแทน คือ ส.ต.อ.เชิดศักดิ์ แต้มแสง อารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถือพวงมาลัยดอกดาวเรืองเพื่อมาขอโทษ และขอแสดงความเสียใจจากใจจริงที่ได้มีการยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นการขอขมา หรือขอโทษแต่อย่างใด แต่เป็นการแสดงความเสียใจที่ทำให้เกิดความเสียหาย และเพื่อให้การจราจรเป็นไปตามปกติ เราจึงต้องยอมที่จะขอเข้าไปแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทำผิด และการยิงแก๊สน้ำตาเป็นความชอบธรรมของตำรวจ แต่ที่ทำไปเพราะอยากให้บ้านเมืองเกิดความสงบ ลดความรุนแรง และลดการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ทางเราได้มีการชี้แจงเรื่องดังกล่าวให้กับตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้ทราบ เพื่อไม่ให้ตำรวจทุกนายต้องเสียขวัญ และกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

พล.ต.อ.วรพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนหวังว่าวิกฤติการเมือง และปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศจะจบลงด้วยดี ซึ่งทาง ศอ.รส. ได้มีการคาดหวังว่า จะเป็นเช่นนั้น และไม่อยากให้เกิดความรุนแรง และการปะทะ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการแสดงความเสียใจต่อพระพุทธอิสระด้วย.