ธนาคาร ธอส.เข าร วมมาตร บ านด ม ดาวน หร อไม

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองง่ายขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีผู้ประกันตนใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการแล้ว ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 คิดเป็นวงเงินยื่นขอสินเชื่อสูงถึง 21,287 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท จึงเตรียมเปิดให้ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เวลา 9.00 น. ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.00 น.

นายกฤษณ์ เสสะเวช กรรมการธนาคาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากความร่วมมือระหว่างสำนักงานประกันสังคม กับ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในการจัดทำ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน” ภายใต้กรอบวงเงินเดิม 30,000 ล้านบาท ที่เปิดให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 มีผู้ประกันตนให้ความสนใจรับรหัสเกินกรอบวงเงินที่กำหนดภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง และล่าสุด ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 มีผู้ประกันตนยื่นขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าวกับ ธอส. แล้วจำนวน 21,287 ล้านบาท จึงยังมีวงเงินเหลือ ดังนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกันตนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น ธอส. จึงเปิดให้ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมผ่าน Application : GHB ALL GEN /GHB ALL ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เวลา 9.00 น. ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.00 น. สำหรับผู้ประกันตนที่ต้องการไถ่ถอนจำนอง (รีไฟแนนซ์) ที่ดินพร้อมอาคาร ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) จากสถาบันการเงินอื่น และให้เปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกันตนที่มีบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับ ธอส. ที่มีวงเงินกู้คงเหลือไม่เกิน 2 ล้านบาท/หลักประกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1 – ปีที่ 5 เท่ากับ 1.99% ต่อปี ปีที่ 6–8 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี (เท่ากับ 4.65%) และปีที่ 9 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี (เท่ากับ 6.15%) (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ที่ 6.65% ต่อปี) ผ่อนชำระนานสูงสุด 40 ปี

“จากการตอบรับของผู้ประกันตนในระบบ ประกันสังคม มาตรา 33 ที่มีผู้ขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก สะท้อนว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้ประกันตนยังมีอยู่สูงในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และเพื่อเป็นการบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านการชำระเงินงวดที่อยู่อาศัยผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมาตรา 33 ทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมที่กู้อยู่กับ ธอส. ในปัจจุบัน และลูกค้าที่ต้องการไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนสามารถลดค่าใช้จ่ายเงินงวดแบบคงที่ได้ตลอด 5 ปี ดังนั้น จึงเชื่อว่าการเปิดให้ขอรับรหัสเพิ่มเติมจะยังคงมีผู้ประกันตนสนใจเข้าร่วมโครงการอีกแน่นอน” นายกฤษณ์ กล่าว

สำหรับผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตนในครั้งนี้ สามารถขอรับรหัสผ่าน Application : GHB ALL GEN /GHB ALL และจะได้รับรหัสเข้าร่วมโครงการผ่าน Line GHB Buddy จากนั้นนำรหัสที่ได้รับพร้อมหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 เอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในหลักประกัน มายื่นกู้กับ ธอส. ได้ที่สาขาทั่วประเทศ โดยผู้ขอรับรหัสจะได้รับการแจ้งกำหนดการวันที่ให้มาติดต่อยื่นกู้ผ่านช่องทาง Line GHB Buddy หรือ ตรวจสอบลำดับการยื่นกู้ได้ที่ www.ghbank.co.th ทุกวันที่ 10,20,30 ของเดือน และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มกราคม 2567 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/ สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN /GHB ALL และ www.ghbank.co.th

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จัดทำมาตรการ 23 [M23] ช่วยเหลือลูกค้าสถานะ NPL หรือ ลูกค้าที่มีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการช่วยเหลือ หรือ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคาร ที่ยังได้รับผลกระทบด้านรายได้จากปัญหา COVID-19 หรือจากภาวะเศรษฐกิจ ให้ได้รับความช่วยเหลือนานสูงสุด 2 ปี พร้อมเลือกรับความช่วยเหลือตามความสามารถในการผ่อนชำระ ประกอบด้วย เลือกผ่อนชำระเริ่มต้น 1,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือน หรือ เลือกผ่อนชำระเริ่มต้น 1,500 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 9 เดือน ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 30 มิถุนายน 2566

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจเหลือ 0.125% ต่อปี จากเดิม 0.25% ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชนออกไปอีก 1 ปี ในปี 2566 ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงพร้อมนำเงินดังกล่าวไว้ช่วยเหลือลูกค้าที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 หรือ จากสภาวะเศรษฐกิจ ด้วยการจัดทำมาตรการที่ 23 [M23] สำหรับลูกค้าสถานะ NPL หรือ ลูกค้าที่มีสถานะเป็น NPL ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการช่วยเหลือ หรือ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคาร ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ให้สามารถใช้อัตราดอกเบี้ยพิเศษและเงินงวดผ่อนชำระต่ำเป็นระยะเวลานานสูงสุด 2 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยลูกค้าสามารถเลือกรับความช่วยเหลือตามความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองได้ ดังนี้

แนวทางที่ 1 : ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 6 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี, เดือนที่ 7-12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท, เดือนที่ 13-18 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 2.90 % +100 บาท และเดือนที่ 19-24 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย MRR-2.00% +100 บาท กรณีลูกหนี้ชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระของลูกหนี้ (ถ้ามี)

แนวทางที่ 2 : ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 9 จำนวน 1,500 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี, เดือนที่ 10-14 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท, เดือนที่ 15-19 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 2.90% +100 บาท และเดือนที่ 20-24 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย MRR-2.00% +100 บาท กรณีลูกหนี้ชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระของลูกหนี้ (ถ้ามี)

ทั้งนี้ ลูกค้าที่มีความประสงค์เข้าร่วมมาตรการที่ 23 สามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ผ่านทาง Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาธนาคารทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม – 30 มิถุนายน 2566 โดยต้องส่งหลักฐานการได้รับผลกระทบทางรายได้จากการประกอบอาชีพ/ธุรกิจ/การค้า เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่น หนังสือรับรองการลดวัน/เวลา/เงินเดือน/ค่าจ้าง หรือถูกเลิกจ้างจากหน่วยงานต้นสังกัด/นายจ้าง เป็นต้น ให้ธนาคารพิจารณาด้วยการ Upload ผ่านทาง Application : GHB ALL BFRIEND กรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถกรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ได้ที่สาขาธนาคารทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL, GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th