เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

   ���ɰ��ʵ���Ѿ�ҡø����ҵ��������Ǵ����

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

  ���͵���       ���ɰ��ʵ���Ѿ�ҡø����ҵ��������Ǵ����    �����¹

  ��������ʵ�Ҩ���� ��.�ظѭ�� �ͧ�ѡ��

  �ӹǹ˹��306 ˹��  �շ������  2542    �Ҥ�   180 �ҷ  ���������ѧࢻ��Сͺ���� :
�����Ӥѭ��лѭ�ҷ�Ѿ�ҡø����ҵ��������Ǵ���� | ��ɮ����ɰ��ʵ����С���Թ�����㹡�èѴ��÷�Ѿ�ҡ�, ��������ö�ͧ��Ѿ�ҡø����ҵ��������Ǵ����, �к����ɰ�Ԩ�������Ǵ����, ��������ջ���Է���Ҿ㹡�èѴ��÷�Ѿ�ҡ�, ��õѴ�Թ�����ǡѺ��Ѿ�ҡø����ҵ���л���Է�����������ʶԵ��, ��èѴ��÷�Ѿ�ҡ÷���鹿������, ��èѴ��÷�Ѿ�ҡ÷���鹿��� : ��Ѿ�ҡû���� | ���ɰ��ʵ���ž������Ǵ���� | �Ƿҧ�����䢻ѭ���ž������Ǵ���� | �ѭ��������ЪҪҵԷ��ӹ֧�֧��Ѿ�ҡø����ҵ��������Ǵ���� | �����������鹷ع��мŵͺ᷹�ͧ�ç���ŧ�ع㹷�Ѿ�ҡ� | ��û����Թ��ҷ�Ѿ�ҡø����ҵ��������Ǵ�����������յ�Ҵ | ��ä���������Ǵ����

�Դ����ͺ��� Update ������

������ɰ��ʵ�� ����Է�����ʧ��ҹ��Թ�� � �.�Ҵ�˭� �.ʧ��� 90112 ��. 0-7428-6233 ����� 0-7445-9353 Email : [email protected]
Contact: Faculty of Economics, Prince of Songkla University. Hatyai Songkhla 90112 Tel. 0-7428-6233 Fax. 0-7445-9353

แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพัฒนาการทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยจะดีขึ้นตามลำดับ แต่เราก็ต้องยอมรับว่า การพัฒนาในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมากในบ้านเรา

ทุกวันนี้ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมซึ่งเคยถูกมองว่ามีความสำคัญน้อยกว่าปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ได้กลายเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ จนบ่อยครั้งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชน (ผู้ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายจากโครงการต่างๆ ของภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐ) กับโรงงานและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้จะมีมาตรการและวิธีแก้ปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมหลายประการ แต่กฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทยที่เน้นมาตรการกำกับและควบคุมเป็นหลักยังมีข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากความไม่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย บทลงโทษและค่าปรับตามกฎหมายที่ต่ำ และหน่วยงานรัฐยังขาดการติดตามตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษอย่างทันการณ์ด้วยเหตุผลด้านบุคลากร งบประมาณ และอื่นๆ

จึงปรากฏว่าผู้ที่ต้องได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมและการขาดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการมลพิษสิ่งแวดล้อมจึงมักตกไปอยู่ที่กลุ่มคนที่ยากจนและด้อยโอกาสในสังคม

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

ปัจจุบันประเทศต่างๆ ได้นำ “เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์” (Economic Instruments) มาเสริมมาตรการกำกับและควบคุมดูแลในการบริหารจัดการปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ถือเป็นกลไกสำคัญประการหนึ่งในการสะท้อนต้นทุนทางด้านสิ่งแวดล้อมตาม “หลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย” (Polluter Pays Principle : PPP) และเป็นมาตรการที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ก่อมลพิษและผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและดำเนินกิจกรรมที่ลดการสร้างมลพิษสิ่งแวดล้อมด้วย

กฎหมายที่ว่าด้วยเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์เพื่อการบริหารจัดการมลพิษสิ่งแวดล้อมจึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะมาช่วยเสริมความเข้มแข็งให้แก่กฎหมายสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ โดยการเปิดให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์มาใช้ในการบริหารจัดการมลพิษสิ่งแวดล้อมได้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสม และตามพันธกิจของแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาและมีรายได้จากการบริหารจัดการมลพิษสิ่งแวดล้อมด้วย

เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ที่ว่านี้ ได้แก่ ค่าปรับ ค่าภาษีการปล่อยมลพิษ การซื้อขายหรือขอใบอนุญาตการปล่อยมลพิษ ค่าธรรมเนียมการอนุญาต การใช้ระบบภาษีที่แตกต่างกัน มาตรการอุดหนุน การวางประกันความเสี่ยงหรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม ระบบมัดจำคืนเงิน เป็นต้น

เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ

เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์จะมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ 2 ประการ คือเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ผลิตและผู้บริโภคในการลดการก่อมลพิษสิ่งแวดล้อมและเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลดการก่อมลพิษ

การเก็บภาษีมลพิษตามปริมาณน้ำเสียหรืออากาศเสียที่ระบายออกสู่สิ่งแวดล้อม จะทำให้ผู้ก่อมลพิษต้องพยายามดำเนินมาตรการหรือปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อทำให้เกิดน้ำเสียหรืออากาศเสียน้อยลง

การใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์จึงไม่ใช่การกำกับและควบคุมดูแล แต่เป็นการสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจเพื่อให้องค์กรหรือผู้บริหารตระหนักถึงต้นทุนที่แท้จริงของทรัพยากร และคำนึงถึงผลกระทบต่อภายนอกองค์กรของกิจกรรมนั้นๆ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตหรือผู้บริโภคตัดสินใจเองว่าจะดำเนินมาตรการอย่างไรต่อไป หรือจะเลือกผลิตเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดมลพิษน้อยลงประการใดหรือไม่…ครับผม!