โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์ ผู้ชาย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เรื่องใกล้ตัวของมนุษย์ที่ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงเกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นโรคที่เกิดจากบุคคลหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง ผ่านการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะทางใดก็ตามโดยที่ไม่มีการป้องกัน แต่การถ่ายทอดโรคชนิดนี้สามารถติดต่อผ่านทางอื่นได้เช่นกัน อาทิ การใช้เข็มร่วมกัน การถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกขณะอยู่ในครรภ์ รวมถึงการถ่ายโอนเลือด เป็นต้น 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Disease-STD) หรือกามโรค (VD) โรคติดต่อที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกช่วงอายุ โดยลักษณะอาการที่เกิดโรคจากผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ดังนี้ 

อาการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในผู้ชาย

ในบางครั้งเมื่อเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการ แต่ลักษณะอาการจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดโรคติดต่อที่ได้รับ โรคบางชนิดจะมีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน ดังนี้ 

  • รู้สึกปวดบริเวณอวัยวะเพศระหว่างมีเพศสัมพันธ์หรือขณะปัสสาวะ
  • มีแผลหรือผื่นขึ้นบริเวณรอบ ๆ องคชาต ลูกอัณฑะ ทวารหนัก หรือปาก
  • มีเลือดออกบริเวณองคชาต
  • รู้สึกเจ็บหรือมีอาการบวมบริเวณลูกอัณฑะ

อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในผู้หญิง

สำหรับผู้ป่วยเมื่อเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจไม่มีแสดงอาการ แต่โรคบางชนิดจะมีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน ดังนี้ 

  • รู้สึกเจ็บปวดบริเวณอวัยวะเพศระหว่างมีเพศสัมพันธ์หรือขณะปัสสาวะ
  • มีแผลหรือผื่นขึ้นบริเวณรอบ ๆ ช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก
  • มีอาการตกขาวผิดปกติหรือมีเลือดออกจากช่องคลอด
  • มีอาการคันบริเวณด้านในหรือรอบ ๆ ช่องคลอด

เลือกทำประกันภัยสุขภาพ เตรียมความพร้อมห่างไกลโรค...คลิก

 

ประเภทของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีหลากหลายชนิด จะมีอาการและรูปแบบการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งสามารถรักษาให้หายขาดได้หรือต้องรักษาในรูปแบบระยะยาว แต่จะมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดใดบ้างไปดูกัน 

ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ถุงยางอนามัย ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

1.หนองในเทียม (Non-specific urethritis-NSU)

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis ระยะฟักตัวของเชื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน ซึ่งในผู้ป่วยบางรายอาจไม่แสดงอาการ แต่ในบางรายจะแสดงอาการที่ชัดเจน ดังนี้ 

  • มีอาการปัสสาวะแสบขัด
  • รู้สึกเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ 
  • รู้สึกผิดปกติระหว่างมีเพศสัมพันธ์ 
  • มีหนองใส ๆ ไหลออกมาจากปลายท่อปัสสาวะ
  • มีอาการปวดท้องน้อย 

สำหรับผู้หญิงหากได้รับเชื้อและไม่ได้รับการรักษาอาจส่งผลต่อบุตรในครรภ์ อีกทั้งหากโรคเกิดการลุกลามอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง เช่น ติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะ โรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ เกิดภาวะมีบุตรยาก เป็นต้น 

2.โรคเอชพีวี (HPV) 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส Human papilloma virus มีระยะฟักตัวที่ยาวนานกว่าโรคชนิดอื่นอยู่ที่ 3 เดือน – 1 ปี มีการติดต่อผ่านการสัมผัสทางผิวหนัง หรือทางเพศสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด อาการที่พบบ่อยจากโรคเอชพีวีคือมีหูดที่บริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือ ลำคอ ส่วนใหญ่จะไม่พบอาการแรกเริ่มหลังติดเชื้อ ถือเป็นโรคที่อันตรายเนื่องจากเชื้อ HPV บางสายพันธุ์อาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งช่องปาก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งองคชาต และมะเร็งทวารหนัก เป็นต้น 

3.ซิฟิลิส (Syphilis)

ซิฟิลิส คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจาก เชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum มีระยะฟักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 21 วัน ในระยะแรกเริ่มยังไม่แสดงอาการของโรค ต่อมาจะมีระยะอาการ 3 ระยะ ดังนี้ 

  • ระยะที่ 1 มีแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ เป็นแผลที่มีขอบแข็ง แต่สามารถหายเองได้แม้ไม่ได้ทำการรักษา 
  • ระยะที่ 2 มีผื่นขึ้นตามลำตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ช่องปาก ทางทวารหนัก รวมกับอาการปวดข้อและมีผมร่วง หากเข้ารับการตรวจเลือดจะได้ผลเป็นเลือดบวกซิฟิลิส 
  • ระยะที่ 3 หากไม่ทำการรักษาปล่อยทิ้งไว้จนถึงระยะสุดท้าย โรคจะลุกลามและทำลายอวัยวะภายในร่างกาย ที่สำคัญคือส่งผลให้เกิดโรคและอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น สูญเสียการมองเห็น สูญเสียการได้ยิน ความจำเสื่อม การติดเชื้อในสมองหรือไขสันหลัง โรคหัวใจ รวมถึงอาจทำให้พิการหรือรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต 

4.โรคเอดส์ (AIDS)

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจาก เชื้อเอชไอวี (HIV) สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดไวรัสหรือแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ รวมถึงการพัฒนาเชื้อมะเร็งบางชนิดหากปล่อยลุกลามจนไปถึงระยะที่ 3 แต่สำหรับระยะแรกเริ่มของโรคนี้ จะมีอาการที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าอาจป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ได้บ่อยครั้ง คือ 

  • มีไข้ 
  • มีอาการหนาวสั่น 
  • มีอาการปวดเมื่อยตามตัว 
  • เจ็บคอ 
  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้
  • มีผื่นขึ้น

อาการแรกเริ่มเหล่านี้สามารถหายไปได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นในผู้ป่วยบางรายจะเริ่มมีอาการ ดังนี้ 

  • อ่อนเพลียซ้ำซาก
  • มีไข้
  • ปวดหัว
  • มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร

โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่รักษาโดยการให้ยาเพื่อให้มีอาการคงที่ได้

5.โรคหนองใน (Gonorrhoea) 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจาก เชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae เชื้อมีระยะในการฟักตัวเฉลี่ย 2-7 วัน ผู้ป่วยหญิงและผู้ป่วยชายจะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกัน ดังนี้

ผู้ชาย 

  • มีอาการปัสสาวะแสบขัด
  • มีหนองไหลออกจากปลายท่อปัสสาวะ

ผู้หญิง 

  • มีตกขาวมากผิดปกติบางครั้งมีหนองปนออกมา
  • มีอาการปัสสาวะแสบขัด
  • ปวดท้องน้อย 
  • มีฝีเกิดบริเวณอวัยวะเพศ

โรคชนิดนี้หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษาจะก่อให้เกิดการลุกลามเกิดเป็นโรคอุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นหมัน ต่อมลูกหมากอักเสบ ท่อรังไข่ตีบตัน ภาวะมีบุตรยาก และในกรณีคุณแม่ตั้งครรภ์โรคหนองในอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงในทารก

6.เริม 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุจาก เชื้อไวรัส Herpes simplex virus เชื้อมีระยะในการฟักตัวเฉลี่ย 2-14 วัน เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย โดยมีลักษณะอาการที่สังเกตได้ดังนี้ 

  • มีตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณอวัยวะเพศ (บางรายมีตุ่มนใสขึ้นบริเวณปากหรือในช่องปาก)
  • มีอาการแสบ เจ็บ คันบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก

หลังจากพบการติดเชื้อเริม ส่วนใหญ่เชื้อจะหลบอยู่ภายในร่างกาย สามารถหายเองได้แต่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้หากร่างกายอ่อนแอ 

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีหลากหลายชนิด หากพบความผิดปกติของร่างกายหลังมีเพศสัมพันธ์ควรทำการพบแพทย์ทันทีพร้อมคู่นอนเพื่อตรวจหาโรค นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันตนเองเบื้อต้นได้ด้วยการสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ พื่อป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้งควรดูแลและเตรียมความพร้อมให้ร่างกายมีความแข็งแรงอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นตรวจเช็คสุขภาพประจำปี ป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการวางแผนสุขภาพด้วยการเลือกทำประกันภัยสุขภาพ ก็สำคัญเลือกทำไว้ก่อนได้ เนื่องจากโรค HIV หากตรวจเจอจะมีข้อยกเว้นที่ไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้ ฮักส์มีกรมธรรม์ประกันสุขภาพหลากหลายรูปแบบพร้อมตอบโจทย์ความต้องการในการทำประกันภัยของคนยุคใหม่ สามารถติดต่อฮักส์ได้ผ่านช่องทาง Facebook Line หรือ โทร 0 2975 5855

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์ ผู้ชาย มีอะไรบ้าง

เชื้อไวรัส ได้แก่ เริม (Herpes Simplex),หูดหงอนไก่ (Papilloma Virus หรือ HPV),เอดส์ (HIV).
เชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ หนองในแท้ (Gonorrhea),หนองในเทียม (Chlamydia),ซิฟิลิส (Syphilis).
เชื้ออื่นๆ ได้แก่ เชื้อพยาธิ (Trichomanas),เชื้อรา (Candida).

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์ อันตรายไหม

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นความเสี่ยงจากการทำกิจกรรมทางเพศ ผู้หญิงหลายคนที่ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจไม่มีอาการแสดงให้เห็น ทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจนนำไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้น ซึ่งบางโรคร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต บางโรครักษาไม่หาย ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะตระหนักถึงความสำคัญของการมีเพศสำคัญอย่างปลอดภัย ทั้ง ...

โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์เกิดจากอะไร

คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์กับคนที่เป็นโรคหรือคนที่ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทางทวารหนัก เดิมมีชื่อว่า “กามโรค” (venereal diseases) ในปัจจุบันมีการค้นพบโรคในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” (sexually transmitted infections, STIs) โรคที่ ...

ติดเชื้อทางเพศสัมพันรักษายังไง

โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์.
เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งบางชนิดรักษาหาย บางชนิดไม่มียารักษา บางชนิดจะแฝงตัวและเป็นซ้ำได้อีก เช่น เริมที่อวัยวะเพศ หูดหงอนไก่ ไวรัสตับอักเสบบี ฯลฯ.
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย รักษาหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ เช่น ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม ช่องคลอดอักเสบ ฯลฯ.