ละครโรแมนติกคอมเมดี้ทางช่อง tvN เรื่อง “What’s Wrong With Secretary Kim” ซึ่งแสดงนำโดย พัคซอจุน (Park Seo Joon) และ พัคมินยอง (Park Min Young) ได้ลงจองให้ผู้ชมได้ฮาไปเรียบร้อยแล้ว ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอียองจุน รองประธานบริษัทที่หลงตัวเองกับ คิมมีโซ เลขาที่เก่งกาจของเขา พอละครเปิดตัวไปเราก็พบว่ามี 5 ที่เราชอบ และ 2 สิ่งที่เราเกลียดเกี่ยวกับละครเรื่องนี้! Show คำเตือน: ระวังสปอยล์ 1. ชอบ: พล็อตเรื่องเข้าสู่เนื้อหาที่ต้องการจะสื่อได้อย่างรวดเร็วปกติตอนแรกของละครมักจะมีการเกริ่นแบล็กกราวนด์กันก่อน แต่ว่าเรื่องนี้เปิดมา คิมมีโซ ก็ขอลาออกจากตำแหน่งเลขาเลย ถือว่าตอนแรกไม่มีโมเม้นท์ไหนที่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย 2. ชอบ: อียองจุนชอบคิมมีโซ แต่เขายังไม่รู้ใจตัวเองในตอนแรกของละครมีหลายๆตอนที่บอกใบ้เป็นนัยๆว่าอียองจุนไม่เคยเดทกับผู้หญิงคนไหนเลยเพราะว่าเขามีเลขาคิมอยู่เคียงข้ามมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยใส่ใจว่าตัวเองไม่ได้คบกับผู้หญิงคนไหน และบางทีมันอาจจะเป็นเพราะเขาตกหลุมรักเลขาคิมมาโดยตลอดก็เป็นได้! แบบนี้สิเขาถึงดูน่ารัก! 3. ชอบ: ขอแต่งงานใช่แล้ว! รวดเร็วไปไหน แต่ว่ายังไม่รู้ผลละครก็จบตอนไปก่อน อดใจรอที่จะดูตอนต่อไปไม่ได้! 4. ชอบ: การยืนกรานของอียองจุนทำให้เขาดูอะเมซิ่ง อียองจุนเป็นคาแรคเตอร์ที่ใครเห็นก็ต้องเกลียด เขาหยิ่ง เห็นแก่ตัว และเอาแต่ใจตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นคนที่น่ารำคาญสุดๆด้วย แต่พอดูไปเรื่อยๆเรากลับพบว่าเขาเป็นคนที่ฮามากๆ! 5. เกลียด: ความฝันที่น่าขนลุกนั่น!ในตอนที่ 2 เราได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของยองจุนมากขึ้น และเราก็รู้ด้วยว่าเขามักจะฝันร้ายซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนหนึ่ง แม้ว่าเรายังไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่มันก็เป็นฝันที่น่ากลัวจริงๆ ทุกๆตัวละครที่ร่ำรวยและหยิ่งในละครเกาหลีมักจะมีสิ่งที่พวกเขาต้องแบกรับเอาไว้เสมอ แทนที่จะแคปภาพความฝันที่น่ากลัวนั้น เปลี่ยนมาเป็นภาพยามเช้าของยองจุนหลังจากตื่นจากฝันที่น่ากลัวนั้นแทนละกัน: 6. ชอบ: ฉากผูกเน็คไทฉากนี้ดูเหมือนว่ารองประธานที่เห็นแก่ตัวคนนี้จะมีด้านที่อ่อนไหวกับเค้าอยู่เหมือนกัน และจุดอ่อนของเขาก็คือ คิมมีโซ! 7. เกลียด: ที่จะต้องรอดูตอนต่อไป!ตอนท้ายของตอนที่ 2 ยองจุนทำเรื่องหวานๆด้วยการปิดสวนสนุกเพื่อมีโซ ดูเหมือนว่ายองจุนจะไม่ยอมแพ้ในเรื่องเลขาของเขาและดูเหมือนว่าเขาอยากจะคบกับเธอมากๆ “What’s Wrong with Secretary Kim” ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี-ศุกร์ เวลา 3 ทุ่ม ที่แอป Viu และ www.viu.com ภายใต้ความกุ๊กกิ๊ก เบาสมองที่ฉาบเคลือบซีรีส์ What’s Wrong with Secretary Kim? อยู่นั้น เราอาจจะได้เรียนรู้ทั้งตัวตนของตัวเอง ไปพร้อมกับการทำความเข้าใจตัวตนของคนอื่นไปพร้อมกันก็เป็นได้ Author: Pacharee Klinchoo “ฉันอยากมีชีวิตที่ไม่ใช่เลขา และไม่ต้องดูแลครอบครัว” คือเหตุผลที่เลขาคิม (นำแสดงโดย Park Min-young) ให้กับท่านรองประธาน อียองจุน (นำแสดงโดย Park Seo-jun) เมื่อเธอบอกเขาว่าเธอตัดสินใจลาออกจากอาชีพเลขานุการส่วนตัวของเขาที่เธอทำมา 9 ปี ‘ด้วยเหตุผลส่วนตัว’ ซึ่งหมายถึงการใช้หนี้ของครอบครัว และส่งพี่สาวทั้งสองเรียนต่อจนจบ มีงานมีการทำเรียบร้อยแล้วนั่นเอง แต่เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ นอกเหนือจากความกุ๊กกิ๊กน่ารักสดในของฉากคู่พระ-คู่นางแล้ว เราก็จะไปร่วมสำรวจในจิตใจของทั้งเลขาคิม และตัวละครหลายๆ ตัวว่าแท้จริงแล้ว ความหมายแห่งตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไรกันแน่ ฟังดูอาจจะเวอร์ หรือคิดมากไปนิด หากจะมาชวนคุยวิเคราะห์เรื่องนี้จากซีรีส์ที่หน้าหนังดูเบาสมองเยี่ยงนี้ แต่ในระหว่างทางที่เรื่องดำเนินไปนั้น เราก็ได้เห็นอย่างค่อนข้างชัดเจนว่า หลายครั้งหลายคราที่ ‘ตัวตน’ ของเรานั้นคือสิ่งที่เราตัดสินใจเลือกลงมือทำ และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องมาจนกระทั่งความสามารถเหล่านั้นกลายเป็นเสมือนอวัยวะในร่างกายของเรา ไม่แตกต่างจากความสามารถของคิมมีโซ ในฐานะเลขาคิมตลอดเรื่องนั่นเอง ในขณะเดียวกัน ตัวละครอย่างอีซองยอน (นำแสดงโดย Lee Tae-hwan) นั้นเองกลับเป็นผู้ที่หลงทางกับตัวตนของตัวเองได้อย่างมากที่สุด แม้ว่าเขาจะเลือกอาชีพที่ดูเหมือนจะเป็นอาชีพที่ ‘ติสต์’ และ ‘เป็นตัวของตัวเอง’ อย่างที่สุดในสายตาคนปกติอย่างนักเขียนก็ตาม ด้วยเหตุการณ์พลิกผันในวัยเด็กของทั้งอียองจุน และอีซองยอน ทำให้พวกเขาเดินตามเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว หากมองด้วยแว่นตาของคนปกติแล้ว การใช้ชีวิตในฐานะศิลปินโดยไม่ต้องดูแลกิจการของครอบครัวนั้นอาจจะดูเหมือนเป็นทางเลือกที่ ‘มีความสุข’ และ ‘เป็นตัวของตัวเอง’ มากกว่าการมารับหน้าที่เป็นรองประธานธุรกิจขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ? (นับจากนี้ไป มีสปอยล์เนื้อหาหลักของเรื่อง) บทบาทของพระเอ๊ก… พระเอก… ที่อาจทำร้ายบางคนโดยไม่รู้ตัว ในวันที่อียองจุนตัดสินใจโกหกคำโตเพื่อทำให้พ่อและแม่ของเขาสบายใจ และให้ครอบครัวของตัวเองดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุขนั้น อาจจะเป็นวันที่เขาคิดแล้วว่านั่นคือการเสียสละอันยิ่งใหญ่ โดยการแบกรับความรู้สึกเจ็บปวดทั้งหมดมาไว้ในตัวเอง แต่ในวันนั้นเอง… ก็เป็นวันที่เขาปลดเปลื้องตัวตนของอีซองยอนไปได้ในแบบที่เขาไม่ทันคิดได้เช่นกัน การที่อียองจุนตัดสินใจแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดไว้กับตัวเอง และไม่เปิดโอกาสให้อีซองยอนเข้ารับการบำบัดรักษาอาการทางจิตที่เกิดจากความรู้สึกผิดในใจนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนชีวิตของอีซองยอนไปได้ตลอดกาล เราจะพูดแรงไปไหมว่า นี่เป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่เรียกได้ว่าใจร้ายและเห็นแก่ตัวมากที่สุดเลยก็ว่าได้… แม้ว่ามันจะมาจากความปรารถนาดีที่สุดของเด็กตัวน้อยคนหนึ่งก็ตาม ในวันที่เหตุการณ์ทั้งหมดคลี่คลายออก ทุกคนรับรู้ความจริงที่ปิดบังกันมานานกว่าสองทศวรรษแล้ว สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ อียองจุนไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวเองใดๆ ไปในระหว่างที่เขาบอกตัวเองว่าเขาโกหกเพื่อคนอื่น แต่อีซองยอนนั้นกลับใช้ชีวิตในสองทศวรรษที่ผ่านมาในความทรงจำปลอมๆ ของคนอื่น… และเมื่อทุกอย่างเปิดเผย… เขากลับกลายเป็นผู้ไร้ตัวตนอย่างแท้จริง เราแอบทึ่งในความเข้มแข็งของตัวละครที่สามารถยอมรับความจริงทั้งหมดนี้ได้โดยไม่บุบสลายมากมายดังที่ควรจะเป็น สิ่งที่เขาทำคือตัดสินใจออกเดินทางค้นหาตัวตนของตัวเอง ด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่งหลังจากได้รับการบำบัดอย่างที่ควรจะเป็น และเขาก็สัญญากับน้องชายว่า จะกลับมาพร้อมหนังสือเล่มใหม่… ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า หนทางสายอาชีพนักเขียนที่เขาเลือกนั้น ก็กลายมาเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญในชีวิตเขา คือตัวตนของเขาในรูปแบบหนึ่ง ไม่ต่างจากตัวตนของคิมมีโซในฐานะเลขาคิมเลย บทสรุปแห่งเส้นทางชีวิตที่เลือกเดิน ด้วยความโรแมนติกคอมเมอดี้ของซีรีส์เรื่องนี้ บทสรุปทั้งหมดจึงเป็นไปในทิศทางที่ควรจะเป็น พระเอกและนางเอกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตราบนิรันดร์… และภารกิจในการค้นหาตัวตนของคิมมีโซก็มีบทสรุปง่ายๆ แต่น่ารักถูกใจแฟนๆ ว่า แท้จริงแล้ว ตัวตนของเธอนั้นก็ผูกพันแนบแน่นกับอียองจุนมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และตลอดระยะเวลาการทำงานเก้าปีที่ผ่านมากับเขา ก็สร้างอัตลักษณ์ความเป็นตัวเองขึ้นมา และเธอก็ได้รับการยอมรับในฐานะเลขามืออาชีพ ส่วนตัวเธอเองก็ยอมรับได้ในที่สุดว่า คงจะไม่มีใครทำตำแหน่งนี้ได้ดีไปกว่าเธออีกแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคิมมีโซ หรือเลขาคิม ทั้งสองคนนั้นหลอมรวมเป็นตัวตนเดียวกันจนแทบจะแยกไม่ออกแล้วก็ว่าได้ บทสรุปตรงนี้ทำให้เราอดย้อนกลับไปนึกถึงหนังสือเรื่อง The Alchemist (ชื่อภาษาไทย : ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน) ของ Paolo Coelho ไม่ได้ เพราะในวันที่เด็กหนุ่ม ตัวเอกของเรื่องตัดสินใจออกจากที่พักของตัวเองเพื่อไปตามหาขุมทรัพย์ที่ปลายฝันนั้น คือวันที่ชะตากำหนดให้เขาย้อนกลับมาค้นพบขุมทรัพย์ก้อนใหญ่ใต้ที่นอนของเขานั่นเอง แม้ว่าเขาจะต้องเผชิญกับสิ่งยากลำบากใดๆ มากมายมหาศาลเพื่อพบสัจธรรมเล็กๆ ว่าแท้จริงแล้ว ขุมทรัพย์นั้นอยู่ตรงหน้าเขามาตลอด แต่หากเขาไม่ตัดสินใจออกเดินทางก้าวแรกเพื่อ ‘ค้นหา’ แล้ว ขุมทรัพย์นั้นคงนอนนิ่งอยู่ใต้ที่นอนของเขาไปตราบนิรันดร์กาล ซึ่งก็ไม่ต่างจากเส้นทางการค้นหาตัวตนของเลขาคิมและอียองจุนนั่นเอง ในวันที่เธอตัดสินใจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เธอคุ้นชิน และในวันที่เขาตัดสินใจปล่อยเธอไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง ก็คือวันที่เขาและเธอค้นพบว่า แท้จริงแล้ว ตัวตนของทั้งคู่นั้นผูกพัน และพึ่งพิงกันและกันมามายขนาดไหน บทสรุปนี้อาจจะดูเหมือนแสนหวาน แต่แท้จริงแล้ว จะมีใครสักกี่คนบนโลกนี้ที่เห็นคุณค่าของที่อยู่ในมือก่อนที่เราจะสูญเสียมันไปจริงๆ กันล่ะ? |