อาการปวดท้อง หรือปวดบีบ เป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะตั้งครรภ์ ถึงแม้ว่าอาการเหล่านี้จะเป็นเรื่องปกติ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของสิ่งที่ร้ายแรงกว่าที่ควรต้องให้คุณหมอเป็นผู้วินิจฉัย อาการปวดแบบใดบ้างที่ไม่เป็นอันตราย?
อาการที่จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันทีมีอะไรบ้าง?
ภาวะที่อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องและจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างเร่งด่วนได้แก่:
รับรองโดย:พญ.วรรวดี ทรัพย์มี ปัญญากาศ (สูตินรีแพทย์) (30 พฤษภาคม 2019) ที่มา:เมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ในเดือนที่ 8 หรือเรียกง่ายๆ ว่า ท้อง 8 เดือน ช่วงนี้จะเป็นช่วงหนึ่งซึ่งเกิดความตื่นเต้น จนถึงเกิดอาการวิตก ! ได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับคุณแม่ หรือครอบครัวที่พึ่งมีท้องครั้งแรก เนื่องจากร่างกายคุณแม่จะมีอาการต่างๆ นานา ที่ชวนให้คิดว่าจะมีการคลอดเกิดขึ้น ซึ่งส่วนมากก็เป็นอาการที่เราเรียกกันว่าการเจ็บเตือน แต่อย่างไรก็ตาม มีบ้างเหมือนกันที่คลอดทารกออกมาในช่วงเดือนที่ 8 นี้ อาการที่ทำให้คุณแม่เริ่มกังวลว่าจะเป็นสัญญาณในการจะคลอดก่อนครบกำหนด 9 เดือน หรือไม่ ก็คือ อาการปวดหน่วงๆ ที่ท้อง จริงอยู่ว่าอาการนี้ไม่น่าวิตกเท่าการปวดแบบมดลูกเกิดการบีบรัดหดตัว แต่ก็เป็นอาการที่ทำให้คุณแม่มือใหม่หลายๆ คนเกิดความกังวลได้ ว่านี่เป็นสัญญาณก่อนการคลอด ทีนี้พอหลังจากปวดหน่วงบ่อยๆ เข้า พอ เกิดเจ็บท้องแบบมดลูกบีบตัว หรือมีอาการท้องเกร็งแข็งก็อาจจะมีบางคนบางบ้าน ที่หอบหิ้วกันไปยังโรงพยาบาล เพราะกังวลว่าจะเกิดการคลอดก่อนกำหนดขึ้นมา (ผู้เขียนก็เคยประสบเหตุการณ์นี้มาเช่นกัน !ในตอนมีลูกคนแรก) จริงๆ แล้วอาการปวดหน่วงนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบมากและเป็นอาการหน่วงแบบเบาๆ แต่ต่อเนื่องก็คือ อาการปวดหน่วงที่เกิดจากการหย่อนตัวของข้อต่อบริเวณเชิงกราน ซึ่งการหย่อยนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการที่ร่างกายเตรียมความพร้อมในการคลอดลูก ที่เชิงกรานจะต้องรับการขยายตัวเพื่อให้ทารกคลอดผ่านออกมาได้ง่าย เป็นกระบวนการตามธรรมชาติ และอาจจะมีอาการมากหน่อยในช่วงที่คุณแม่เปลี่ยนท่าจากท่าหนึ่งไปยังอีกท่าหนึ่งเมื่ออยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ เช่น นั่งอยู่แล้วลุกขึ้น ก็จะเกิดอาการปวดหน่วงๆ เหมือนจะมีอะไรเคลื่อนลง นั่นทำให้เกิดความวิตกได้ว่าเป็นอาการของคนที่กำลังจะคลอด และยิ่งในช่วงเดือนนี้อาการท้องแข็ง หรืออาการบีบตัวของมดลูกที่เป็นการเจ็บเตือนมีบ่อย ก็เลยทำให้กังวล ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาโดยเฉพาะท้องแรกที่วิตกมากหน่อยเนื่องจากยังไม่มีประสบการณ์ ท้อง8เดือนปวดหน่วงส่วนมากจะไม่ใช่อาการเตือนว่าจะคลอด แต่เป็นการเตรียมความพร้อม แต่อย่างไรก็ดีคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการของตนเองอย่างต่อเนื่อง และไปพบแพทย์เป็นประจำ ซึ่งในช่วงนี้แพทย์อาจจะนัดบ่อยหน่อย เพราะใกล้คลอดแล้ว และเป็นช่วงที่มีอาการ ครรภ์เป็นพิษเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นก็ขอให้วางใจ ไปพบแพทย์ตามเวลาก็จะทราบถึงพัฒนาการและช่วงเวลาคลอดที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ แต่ก็ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทางไปคลอดไว้ให้พร้อมได้แล้ว เวลาคลอดจริงๆ จะได้ไม่วุ่นวายขาดนั่นขาดนี่ หญิงที่ตั้งครรภ์ในเดือนที่ 8-9 มักจะมีอาการมดลูกหดเกร็ง ทำให้มีอาการปวดบ้างเล็กน้อยซึ่งเป็นการเจ็บเตือน และจะมีอาการมากขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้จะคลอด โดยจะมีอาการต่างๆ คอยเตือนว่าเป็นการเจ็บเตือนหรือเจ็บท้องจะคลอดจริงๆ คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจจะสับสนว่าเจ็บแบบไหนเจ็บเตือนแบบไหนเป็นการเจ็บท้องคลอดจริง ทำให้เกิดความวิตกกังวล ดังนั้นคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายควรเรียนรู้ถึงอาการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อจะได้ตัดสินใจถูกต้อง อาการเตือนก่อนคลอด เป็นอย่างไร •อาการท้องลดและการเคลื่อนต่ำของส่วนนำเข้าสู่อุ้งเชิงกราน เกิดขึ้นประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ก่อนคลอด ทารกในครรภ์จะเคลื่อนตัวลงสู่อุ้งเชิงกราน ทำให้ความสูงของยอดมดลูกลดลงเล็กน้อย อาการนี้เป็นอาการแรกของการเข้าสู่ระยะการคลอด •ปวดท้องน้อยและทวารหนัก จะรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับบริเวณขาหนีบ และปวดหลังส่วนล่างตลอดเวลา •น้ำหนักตัวคงที่หรือลดลงเล็กน้อย โดยปกติหญิงตั้งครรภ์จะมีน้ำหนักตัวเเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม แต่ในระยะใกล้คลอดสามารถลดลงถึง 1 กิโลกรัม •รู้สึกเหมือนหมดแรง ลื่นล้มง่าย ชอบอยู่นิ่งๆ เพื่อเตรียมพลังเพื่อเลี้ยงลูก •มูกในช่องคลอดเหนียวและข้นมากขึ้น •มูกที่อุดปากมดลูกหลุด แต่อาจอยู่ในช่องคลอดโดยจะขับออกมาเมื่อน้ำเดินหรือเจ็บครรภ์จริง ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากหลุดจากปากมดลูก •มีมูกเลือดปน เนื่องจากการเปิดของปากมดลูกจะมีการฉีกขาดของเยื่อบุและหลอดเลือดฝอยบริเวณ นั้น ทำให้มีเลือดปนออกมา หากมีอาการนี้เกิดขึ้นแสดงว่าจะมีการคลอดเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง แต่บางรายอาจจะเลื่อนออกไปได้อีกหลายวัน •การหดรัดตัวของมดลูกจะแรงและบ่อยขึ้น จนทำให้เกิดอาการเจ็บปวด •ท้องเสีย เนื่องจากลำไส้ส่วนล่างถูกรบกวน อาการเจ็บเตือน เป็นอย่างไร •จะเจ็บบริเวณท้องน้อย ไม่ปวดร้าวไปด้านหลัง •อาการเจ็บจะดีขึ้นเมื่อเดินรอบหรือเปลี่ยนอิริยาบถ •ลักษณะมูกจะออกเป็นเลือดเก่าคือสีจะเข้ม ไม่เป็นสีชมพูสด หรือแดงสด •การดิ้นของทารกจะแรงขึ้น อาการเจ็บท้องคลอดจริง เป็นอย่างไร •อาการเจ็บจะเริ่มที่หลังแล้วปวดร้าวมาถึงด้านหน้าบริเวณหัวหน่าวและท้อง น้อย บางครั้งจะปวดร้าวลงขา และอาจมีอาการปวดท้องอยากถ่ายอุจจาระและถ่ายบ่อย •มีมูกเลือดปนออกมาเป็นเลือดสด สีจะแดงสด •มีถุงน้ำแตก จะรู้ได้อย่างไรว่า ได้เวลาไปโรงพยาบาลแล้ว •กรณีที่เจ็บครรภ์น้อยๆ อาจจะพักอยู่กับบ้าน 4-8 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ็บครรภ์จริง จึงเตรียมตัวไปโรงพยาบาล อย่ากลัวว่าถ้าไม่เจ็บท้องคลอดจริงแล้วไปโรงพยาบาลจะโดนทางโรงพยาบาลต่อว่าใดๆ |