ปัจจุบันการสถานการณ์แพร่ระบาดกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นจนภาครัฐและภาคเอกชนต้องออกมาตรการต่างๆ ควบคู่ไปกับการป้องกันตัว ไม่เว้นแม้แต่การอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านได้ซึ่งในปัจจุบันก็มี แอปพลิเคชัน ต่างๆไว้ใช้ประชุมติดต่อสื่อสารกันแบบตัวต่อตัวอย่างสะดวกสบายแต่ในบางองค์กรการ Work from Home ก็อาจจะมีอุปสรรคเรื่องการติดต่อสื่อสารกันในทีมเพราะทำงานต่างสถานที่ และอาจอยู่ไกลกันรวมถึงบางองค์กรก็มีพนักงานจำนวนมากจึงทำให้การสื่อสารติดขัด ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเลือกตัวโปรแกรมประชุมออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับโจทย์ที่มี Show ในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ การทำงานที่บ้าน ดูจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในสถานการณ์COVID-19 แต่ความจริงเเล้วการทำงานที่บ้านก็ไม่ต้องทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียว สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์การค้า ช้อปปิ้งมอลล์ แต่ก็จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่มีความครบเครื่องและครบครันมากที่สุด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น หลายคนก็ชอบการทำงานเเบบ Work From Home แต่บางคนก็ไม่ชอบเอาเสียเลยเราลองมาดู ข้อดี-ข้อเสียของ Work From Home กันดีกว่าว่ามีข้อไหนบ้างแล้วอาการของเรานั้นตรงกับข้อไหน 1. ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัส ข้อเสียของการ Work from home ทำให้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสำนักงานเต็มเวลาอีกต่อไปแต่การทำงานก็ยังคงมีประสิทธิผลเช่นเดิมหรืออาจมากกว่าการทำงานรูปแบบเดิมที่ต้องนั่งประจำที่สำนักงานด้วยซ้ำไป ก่อนจะ Work From Home มีอะไรบ้างที่องค์กรต้องทำในช่วงเวลาแพร่ระบาดของโรคนี้หลายๆคนก็อาจไม่ได้มีเวลาเตรียมตัวมาก่อน แต่ด้วยปัจจุบันมีแอปพลิเคชันและโปรแกรมมากมายที่เป็นประโยชน์สำหรับการ Work from Home ในการสื่อสารและการประชุมก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งองค์กรหลายๆองค์กรทั่วโลกต่างก็นำมาใช้ หากคุณต้อง Work From Home แล้วล่ะก็ แอปพลิเคชัน Work From Home เหล่านี้คือสุดยอดแอปที่ใช้ทำงานได้ Slack ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ทำให้คุณสามารถ Work from Home ได้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเข้าเว็บไซต์ หรือการประชุมต่างๆก็ทำได้อย่างสะดวกและองค์กรดัง ๆ หลายที่เขาใช้กันแพร่หลาย ในแอปด้านบนก็รวมเเอปประชุมออนไลน์และapplication ช่วยในการทำงาน Work from Home เพราะการทำงานสมัยนี้ ไม่ได้จำกัดว่าต้องนั่งทำงานอยู่แค่ออฟฟิศไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ศูนย์การค้า ช้อปปิ้งมอลล์ ซึ่งประโยชน์ของแอปพลิเคชัน Work From Home ก็มีมากหลายอย่างเช่น และทั้งหมดนี้ก็คือแอปพลิเคชั่น ที่ช่วยทำให้การทำงานแบบ Work from Home มีประสิทธิภาพเหมือนยังทำงานอยู่ออฟฟิศ แต่สุดท้ายเเล้วเราก็คงต้องเลือกตามความสะดวกของคุณและคนในทีมที่ต้องใช้ร่วมกันว่าจะเลือกใช้แอปตัวไหนและวิธีการไหน Mobile App หรือเรียกเต็มๆ ว่า Mobile Application ก็คือ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ เพื่อให้ใช้งานบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ หรือสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะนั้นเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พร้อมทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนได้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งมีหลายระบบปฏิบัตการที่พัฒนาออกมาให้ผู้บริโภคได้ใช้งานกัน ส่วนที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากก็คือ ระบบ iOS และ Android จึงทำให้เกิดการพัฒนา Application ลงบนสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก อาทิเช่น ระบบซื้อของออนไลน์, ระบบสั่งอาหารออนไลน์, ระบบจองคิวล่วงหน้า, โปรแกรมการสนทนาออนไลน์, แผนที่ รวมไปถึงเกมส์ต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น Mobile Application เหมาะสำหรับธุรกิจและองค์กรต่างๆ ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมไปถึงขยายการให้บริการผ่านมือถือ ที่สะดวก สบาย ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา ประโยชน์ของ Mobile App สามารถแบ่งได้เป็น 2 ด้านคือ1. ประโยชน์ด้านผู้ให้บริการ • ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ที่เสียไปโดยไม่สามารถที่คาดเดาได้เลยว่าลูกค้าจะเข้าโฆษณา ประชาสัมพันธ์เหล่านั้นหรือไม่ 2. ประโยชน์ด้านผู้บริโภค / ผู้ใช้งาน • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางออกไปซื้อสินค้า และบริการต่างๆ ด้วยตัวเอง สรุปประโยขน์ที่ได้จากการใช้งาน Mobile Appณ ปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่าการสื่อสารและเทคโนโลยีเข้ามาในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประชาชนคนทั่วไปเข้าถึง ข้อมูลข่าวสาร และความรู้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการเข้ามาของสมาร์ทโฟน ทำให้อยู่ที่ไหนก็สามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการได้ภายในไม่กี่นาที ไม่ว่าจะการค้นหาสินค้าอุปโภค บริโภค บริการต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่ร้านอาหาร ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจ ขนาดเล็ก ขนาดย่อม หรือขนาดใหญ่ ล้วนต่างให้ความสนใจในการที่จะพัฒนา Mobile Application เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สำหรับเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเข้าถึงสื่อ การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงการติดต่อระหว่างกลุ่มลูกค้าของตนเอง |